3 ติ๊กต็อกเกอร์ดัง ชูวิชั่น อนุรักษ์ ผสาน เสรีนิยม วางรากฐาน ต่อยอด การเมืองในสายตาคนรุ่นใหม่ ชี้ทฤษฎีเสรีนิยมให้คนเท่ากัน หล่อหลอมให้คนเป็นสัตว์
วันที่ 19 ก.ย. 67 ในงานเสวนา “จิบกาแฟแลสยาม” ที่จัดโดยสำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม The Publisher ที่ร้านข้าวใหม่ หัวข้อ “จากวันนั้นถึงวันนี้ แลหน้าเหลียวหลังอนุรักษ์นิยมไทย” มีอาร์ตถึงแก่น เป็นผู้ดำเนินรายการ ร่วมกับติ๊กตอกเกอร์ชื่อดัง ที่แฟนคลับรู้จักกันดีในนาม “ทีมประเทศไทยรุ่นใหม่“
ประกอบด้วย ฟ้าคราม อินฟลูเอนเซอร์สายการเมืองชื่อดัง และ กบมโน " คนดังจาก Tiktok ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมืองที่คนรุ่นใหม่หันมาใส่ใจเรื่องการเมืองมากขึ้น บนพื้นฐานของเหตุผลและความถูกต้อง
อาร์ตถึงแก่น เปิดประเด็นชวนคิดว่า หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองตั้งแต่ปี 2475 มีการเซาะกร่อนบ่อนทำลายต่อเนื่อง แต่ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาการสื่อสารมีเฟคมากกว่าแฟค ผู้คนสนใจข่าวเท็จมากกว่าข่าวจริง ขณะที่สื่อก็ให้ความสำคัญกับเรตติงมากกว่าความจริงจึงหวังจะเห็นคนรุ่นใหม่ใส่ใจการเมืองที่มีบริบทสอดคล้องวิถีแบบไทย เพราะทั่วโลกไม่ว่าจะออกกฎหมายอย่างไรก็ต้องให้สอดคล้องกับวิถีของประเทศนั้นๆ ด้วย
”เราห่วงที่สุดว่าคนรุ่นใหม่ยังขาดชุดประสบการณ์ของคนรุ่นเก่า ทำให้มีความเสี่ยงที่อาจจะกลายเป็นเหยื่อทำให้ประเทศชาติเสียหายไป โดยขณะนี้ถกเถียงกันว่าจะอนุรักษ์หรือเสรีนิยม แต่เรารวมกันได้หรือไม่ เพื่อให้อยู่ร่วมกันอย่างมีดความสุข ซึ่งการเมืองเป็นเสาหลักสำคัญในการขับเคลื่อนบ้านเมืองให้มีความมั่นคงแข็งแรง ผมยืนยันว่าอนุรักษ์นิยมไม่ใช่อุปสรรคในการปกครอง“ อาร์ต ถึงแก่น กล่าว
อาร์ตถึงแก่น กล่าวด้วยว่า เมื่อมองย้อนการเมืองจะพบว่าโครงการไม่ต่อเนื่องเพราะมีความเปลี่ยนแปลงทางอำนาจเกิดขึ้นบ่อน แต่ในยุคคสช.ปกครอง จนไปถึงรัฐบาลเลือกตั้งแม้จะมองว่ามีการสืบทอดอำนาจ แต่มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาประเทศที่เห็น ถ้ามีคนมาถามว่าจะเป็นนักการเมืองแบบไหน ตนไม่โหนสถาบัน แต่จะเป็นนักการเมืองที่น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพียงของในหลวง ร. 9 มาบริหารบ้านเมือง รู้ตัวเอง ประเมินตัวเองให้ได้มีศักยภาพอย่างไร มีเหตุและผลในการบริหารจัดการ และมีภูมิคุ้มกัน มีความรู้คู่คุณธรรม
ด้านกบมโน ซึ่งได้ของขวัญในติ๊กต็อกอันดับ 6 ของประเทศ กล่าวว่า เราไม่ใช่กลุ่มอนุรักษ์นิยม แต่เราอยู่ในกลุ่มที่อะไรต้องอนุรักษ์ก็ต้องรักษาอะไรที่ต้องพัฒนาก็ต้องพัฒนา ดูและต่อยอดโดยไม่ทำลายสิ่งที่ดีอยู่เดิมได้อย่างไร แต่ในทางการเมืองจะมองว่ากลุ่มอนุรักษ์นิยมล้าหลังหรือไดโนเสาร์ แต่ความจริงแล้วคือการเรียนรู้รากฐานแล้วต่อยอด ไม่ใช่การขุดทำลายสิ่งเก่าที่บรรพบุรุษสร้าง เราจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ จุดค้ำจุนของบ้านเราต้องให้ความเคารพ ทุกบ้านมีพ่อแม่หมด คุณโตมาได้อย่างไร โดยไม่ให้ความสำคัญกับพ่อแม่
“ถ้าเราจะบอกว่าทุกคนต้องเท่ากัน สุดท้ายจะไม่ต่างจากสัตว์ เพราะสัตว์ไม่ได้แยกแยะทุกอย่างเท่ากันหมด เยี่ยวใส่แม้แต่ศาลพระภูมิ ถ้าปล่อยแบบนี้ก็วุ่นวาย เป็นการอินพุทเข้ามาจากประเทศตะวันตก เพื่อปกครองได้ง่ายขึ้น เป็นกระบวนการทำลายจุดศูนย์กลางเพราะไม่ให้เคารพอะไรเลย บางคนถึงขั้นไม่มีศาสนา แต่เราเป็นมนุษย์มีวัฒนธรรมต้องไม่ถูกหล่อหลอมให้มีคุณสมบัติเท่ากับสัตว์ ถ้าทุกอย่างถ้าเท่ากันก็ไม่ต่างจากสัตว์ ทุกอย่างจะวุ่นวาย คนมีวัฒนธรรม มีจารีต ประเพณี การให้เท่ากันคือให้คนไม่ต่างจากสัตว์ เพื่อปกครองได้ง่าย“ กบมโน กล่าว
กบมโน กล่าวด้วยว่า ต้องพิจารณาว่าพรรคส้มทำไมทำอะไรถึงไม่สบความสำเร็จหลายอย่าง เพราะสร้างให้คนรุ่นใหม่คิดถึงแต่ตัวเอง ไม่มีการปรับตัวหรือสร้างความเข้าใจศึกษาโครงสร้างประเทศ โดยจะสังเกตได้ว่าอะไรที่เป็นกีบเสื่อมถอยด้อยค่าทุกอย่าง ส่วนใครที่แจกอย่างเดียวบอกให้มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ทำให้คนต้องรอของแจกแดกของฟรี ไม่ได้ทำให้คนมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีจริงอย่างที่พูด เพราะเกียรติศักดิ์ศรีต้องปลดหนี้ด้วยงาน ใช้อาชีพสร้างคุณค่าให้ตัวเอง
ขณะที่ฟ้าคราม มีผู้กดถูกใจในติ๊กต็อกมากกว่า 4.5 ล้านคน เห็นว่าอนุรักษ์นิยมอาจถูกมองว่าแก่ ล้าหลัง แต่ความจริงไม่ใช่ เพราะการอนุรักษ์สิ่งที่ดีเป็นเรื่องจำเป็นของบ้านเมือง จะสร้างค่านิยมคนรุ่นใหม่มีเพียงพรรคเดียว อย่าให้ค่าคนรุ่นใหม่มาก ต้องคืนคุณค่าให้คนรุ่นเก่าบ้าง ถ้าเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพจริงต้องนำความรู้ความสามารถคนรุ่นเก่ามาปรับใช้ พร้อมยกตัวอย่างการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ทำมาต่อเนื่อง ก็เป็นรากฐานส่งต่อแม้รัฐบาลจะเปลี่ยนไป แต่การพัฒนายังเดินหน้าต่อจากรากฐานเดิมที่มีการวางเอาไว้
“สถาบันหลักของชาติกำลังถูกด้อยค่าจากคนกลุ่มหนึ่ง มีคนถามทำไมผมไม่เป็นส้ม ง่ายๆ ผมรักลุงตู่ ผมเป็นองครักษ์รักลุงตู่ รักลุงตู่ คิดถึงลุงตู่ ส้มมีปัญหามั้ย พอพูดถึงโครงการของลุงตู่ ด้อมส้มก็ลงไปชักดิ้นชักงอ ตอนนี้มีการไปเรียกร้องให้แรงงานพม่า อ้างเราจะเก็บภาษีจากคนพวกนี้ได้ ทั้งที่ไปดูรายได้แล้วจะเห็นชัดเจนว่ารายได้ของแรงงานเหล่านั้นไม่มากพอที่จะเสียภาษี“ ฟ้าครามกล่าว
Advertisement