มทภ. 4 เร่งเคลียร์พื้นที่รอบ สนง.ป่าไม้ฮาลา-บาลา หลังคนร้ายวางระเบิดดักอื้อ ยังไม่ชี้ชัดกลุ่มไหน บอกเตรียมตัวมาดี พุ่งเป้าปล้น-เผา
จากเหตุการณ์ กลุ่มผู้เหตุประมาณ 10-20 คน บุกเข้าไปยังสำนักงานของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลาบาลา จ.นราธิวาส และจับตัวของเจ้าหน้าที่มัดมือมัดเท้าไว้ หลังจากนั้นได้จุดไฟเผาอาคารสำนักงาน บ้านพัก โรงจอดรถยนต์ และรถยนต์ของทางราชการ จนได้รับความเสียหาย พร้อมกับปล้นปืน และทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ไปด้วย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา
ต่อมาเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 23 ก.ย. 67 พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เป็นลักษณะการเผาสำนักงาน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังเข้าตรวจสอบว่ามีอาวุธปืนหายกี่กระบอก สาเหตุที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบช้า เพราะว่าตอนนี้ยังมีระเบิดอยู่ เราไม่รู้ว่ามีระเบิดที่คนร้ายแอบวางไว้กี่ลูก เจ้าหน้าที่จึงต้องค่อยๆ เข้าไปทีละนิด และให้เจ้าหน้าที่ชุดอีโอดีเข้าตรวจสอบก่อน
ตอนนี้ที่ได้รับแจ้งมาคือ มีอาวุธปืนพกหาย 1 กระบอก ซึ่งเป็นอาวุธส่วนตัวของเจ้าหน้าที่เอง โดยเป็นการรับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในนั้น แต่ยังไม่ได้เข้าไปตรวจสอบรายละเอียดว่าสรุปแล้วมีอาวุธของหลวงหายไปเท่าไหร่ เพราะเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าถึงที่เกิดเหตุได้ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตอนนี้เราเคลียร์พื้นที่โดยรอบที่เกิดเหตุใกล้เสร็จแล้ว กำลังจะให้กำลังพลเตรียมตัวเข้าอยู่ คิดว่าน่าจะเข้าได้ภายในวันนี้
ส่วนพฤติกรรมการปล้นครั้งนี้เป็นอย่าไร พล.ท.ศานติ กล่าวว่า ก็คงจะมีการวางแผนเป็นอย่างดี แต่ตนยังไม่มีรายละเอียดของข้อมูลมาก แต่พฤติกรรมคือเข้าไปจับกุมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ นำมารวมตัวกันมัดมือ ก่อนเข้าไปค้นหาอุปกรณ์ ของมีค่า และทำลายเผาอาคาร ส่วนจะเป็นการกระทำของกลุ่มไหนนั้น เรายังไม่ได้เก็บพยานหลักฐานเลย จากนั้นจึงจะตรวจสอบพอรู้ได้ว่าเป็นกลุ่มไหน แต่คิดว่าเป็นกลุ่มเก่าๆ ที่เคยก่อเหตุในพื้นที่
เมื่อถามว่า หากเทียบกับเหตุการณ์ปล้นปืนในอดีตนั้นต่างกันหรือไม่อย่างไร พล.ท.ศานติ กล่าวว่า ตนคิดว่าต่างกัน เพราะมาครั้งนี้เน้นเรื่องทรัพย์สินมากกว่า เนื่องจากเอาทั้งเงินและสร้อยทองไป เท่าที่สอบถามอีกคือมีอาวุธปืนพกถูกปล้นไป 1 กระบอกที่เป็นของเจ้าหน้าที่ โดยไม่ได้ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ซึ่งเมื่อสมัยก่อนจะมีการทำร้ายเจ้าหน้าที่ด้วย แต่ไม่มีการทำร้ายเจ้าหน้าที่เลย เป็นเพียงการจับไว้แล้วนำตัวมารวมกันก่อนกลุ่มคนร้ายจะหนีไป สมัยก่อนนั้นทั้งยิง และทำร้ายเจ้าหน้าที่ ที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บและสูญเสียทางชีวิตด้วย
เมื่อถามว่า ก่อนเกิดเหตุมีการโปรยใบปลิวทวงพื้นที่ทรัพยากรธรรมชาติ พล.ท.ศานติ กล่าวว่า หลังจากที่กองทัพบกและกระทรวงมหาดไทยได้พยายามสร้างความมั่นใจและความเข้มแข็งให้กับเจ้าหน้าที่อส. ซึ่งเป็นคนที่อยู่ในพื้นที่ และอยู่บ้านของตัวเอง ทำให้เกิดความรักและหวงแหนในพื้นที่ ทำให้กลุ่มผู้ก่อเหตุกลัวที่จะเสียมวลชนในพื้นที่ไป เขาเลยพยายามสร้างความกลัวให้กับเจ้าหน้าที่อส. โดยมีการโปรยใบปลิวลักษณะแบบบนี้ แต่จริงๆแล้ว เมื่อโปรยใบปลิวตนก็ไปสอบถามแล้วทราบว่า เจ้าหน้าที่อส.ก็ยังยืนยันดูแลพื้นที่เหมือนเดิม ไม่ได้มีความเกรงกลัวอะไรใดๆ ในเรื่องใบปลิวพวกนี้ ซึ่งเป็นการข่มขู่ไม่ให้เจ้าหน้าที่อส.เข้าไปช่วย และไม่ต้องมาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ
เมื่อถามว่า ตอนนี้กลุ่มคนร้ายพุ่งเป้าไปที่อุทยานฯ ทางฝ่ายความมั่นคงมีมาตรการดูแลอย่างไร พล.ท.ศานติ กล่าวว่า เราต้องมาประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยาน เจ้าหน้าที่ป่าไม้เพิ่มเติมว่าเราจะดูแลกันอย่างไร ต้องแจ้งว่ามีเจ้าหน้าที่กี่คน มีอาวุธปืนกี่กระบอก เราต้องเข้าไปช่วยเหลือ ในอดีตเราเคยดูแลกันอยู่แล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้เราก็พยายามเข้าไปดูแลและประสานงานกันให้มากขึ้น เข้าไปเสริมสร้างเพื่อเวรยาม และการเข้าเวร เพราะที่ผ่านมาตนไม่ทราบว่ามีการเข้าเวรยามอย่างไร คนอยู่อย่างไร เขาไม่ได้ให้ข้อมูลตนมาเลย
อย่างไรก็ตามหลังจากเกิดเหตุการณ์ ตนได้รายงานไปตามสายการบังคับบัญชาเรียบร้อยแล้ว โดยรายงานให้ ผบ.ทบ.รับทราบ และผบ.ทบ.จะรายงาน รมว.กลาโหมอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า เหตุการณ์นี้จะเกี่ยวกับการโยกย้ายนายทหารช่วงนี้หรือไม่ พล.ท.ศานติ กล่าวว่า เท่าที่วิเคราะห์กลุ่มผู้ก่อเหตุไม่ได้เลือกเวลา และขั้นตอนอย่างไร เมื่อมีจังหวะและก็ดำเนินการเลย เราอย่าไปมองว่ามการโยกย้าย และเผอิญว่าประจวบเหมาะตรงนั้นมากกว่า ส่วนจะครบรอบเหตุการณ์ใหญ่ในเดือน ต.ค.นี้หรือไม่ ตนคิดว่าไม่เกี่ยว เพราะถ้าครบรอบก่อเหตุตรงไหนก็ก่อได้หมด
Advertisement