เปิดประวัติ "บิ๊กต่าย" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. คนใหม่ ยุครัฐบาลแพทองธาร

เปิดประวัติ บิ๊กต่าย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. คนใหม่ ในยุครัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร

เป็นที่น่าจับตาไม่ใช่น้อย สำหรับการแต่งตั้ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร. คนที่ 15 แทน บิ๊กต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ซึ่งเกษียณอายุราชการไปเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยวันนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร. จะร่วมประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 8/2567 ในเวลา 14.30 น. ที่ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

และแน่นอนว่าวาระที่ถูกสังคมและสื่อมวลชนจับตาก็คือ การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.คนใหม่ ซึ่งมีข้าราชการตำรวจ 3 คนที่มีชื่อมีสิทธิ์เสนอเข้ารับการแต่งตั้งในครั้งนี้ ได้แก่

1. พล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. อาวุโสลำดับ 1
2. พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจ อาวุโสลำดับ 2
3. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. อาวุโสลำดับ 3

เกณฑ์การคัดเลือก ผบ.ตร.

ผู้ที่จะเป็น ผบ.ตร. กำหนดคุณสมบัติเอาไว้ 2 ข้อ คือ
1.ยศเป็น พลตำรวจเอก
2.เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือจเรตำรวจแห่งชาติ

ทั้งนี้ในการคัดเลือก ต้องคำนึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน โดยเฉพาะในงานสืบสวนสอบสวน และงานป้องกันปราบปราม ซึ่งขั้นตอนการคัดเลือก ผบ.ตร.ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติปี 2565 มาตรา 78 ระบุว่าให้นายกรัฐมนตรีคัดเลือกรายชื่อเสนอต่อก.ตร. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ

ใครเป็นใคร ในผู้ท้าชิง ผบ.ตร คนที่15

คนที่ 1 . บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ อาวุโสลำดับ 1 ครบวาระเกษียณอายุราชการ ในปี 2569

บิ๊กต่าย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ จบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเบญจมราชูทิศ จังหวัดราชบุรี และเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 25 ก่อนจะคว้าปริญญาตรี จากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 41

เริ่มต้นรับราชการตำรวจ ในตำแหน่ง รอง สว.สอบสวน สภ.อ.เมืองระยอง ติดยศ พล.ต.ต.เป็นเลขานุการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผบก.ส. 1 ทำงานด้านข่าวกรอง รอง จตร.(สบ 7) รอง ผบช.สกพ. ติดยศ พล.ต.ท. เป็น ผบช.ประจำ สำนักงาน ผบ.ตร. โยกเป็น ผบช.ภ.8 ผู้ช่วยผบ.ตร.และ รอง ผบ.ตร. และเคยเป็นหัวหน้าสำนักงาน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร.

เคยได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่รักษาการ ผบ.ตร เมื่อครั้งเกิดกรณีพิพาทระหว่างบิ๊กต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล และ บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล และยังเคยถูกบิ๊กโจ๊กยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ขอให้ตรวจสอบพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีลงนามคำสั่งให้ตน ออกจากราชการไว้ก่อน ไม่เป็นธรรม และไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก่อนเจ้าตัวจะออกมาชี้แจงว่าเป็นการดำเนินการไปตามพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้อง และถือว่าปฏิบัติอยู่ในความสุจริตเป็นที่ตั้งและทำเพื่อองค์กร โดยยึดเอากฎหมาย ออกระเบียบและคำสั่งมาประกอบ

ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่รักษาการ ผบ.ตร.ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา และถูกคาดการณ์กันว่าจะได้ขึ้นเป็นผบ.ตร. คนใหม่ เนื่องจากไม่มีประวัติด่างพร้อยและยังเป็นอาวุโสสูงสุด

คนที่ 2. บิ๊กบึก-พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง อาวุโสลำดับ 2 ครบวาระเกษียณอายุราชการ ปี 2568

นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 39 และนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 23 รับราชการครั้งแรกในตำแหน่ง ผู้บังคับหมวดกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน เคยดำรงตำแหน่งสำคัญ อาทิ ผู้ช่วยนายเวร รองอธิบดีกรมตำรวจ ผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ กองแผนงาน1 , ผู้กำกับการสังกัดกองบังคับการอำนวยการตำรวจปราบปรามยาเสพติด รองผู้บังคับการประจำสำนักงาน ผบ.ตร. เป็นต้น ก่อนจะได้ขยับขึ้นผู้ช่วย ผบ.ตร. และ จตช. ตามลำดับ

ผลงานเด่นคือปราบปรามการกระทำผิดความผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง และเป็นผู้ควบคุมคดีเรือน้ำมันเถื่อนของกลาง 3 ลำ หายไปจากท่าเรือตำรวจน้ำ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ศูนย์บังคับและต่อต้านอากาศยานซึ่งไม่มีนักบินประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (โดรน) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

คนที่ 3. บิ๊กธนา-พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ อาวุโสลำดับ 3 ครบวาระเกษียณอายุราชการปี 2569

นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 42 และนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 26 ผู้เคยรับผิดชอบงานสืบสวนสอบสวน และงานความมั่นคงและกิจการพิเศษ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเคยเป็นอดีตนายเวร พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ตร และอดีต รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

บทเรียนเลือก ผบ.ตร

หากยังจำกันได้การคัดเลือก ผบ.ตร ในปี 2566 ที่ว่ากันว่าเป็นการแข่งขันกันระหว่างบิ๊กต่อกับบิ๊กโจ๊ก ซึ่งเกิดข้อครหาต่างๆ มากมาย อาทิ เด็กสายใคร หรือแม้แต่การเลือกที่ไม่เป็นไปตามระบบอาวุโสที่ถือปฏิบัติกันมานาน จนทำให้เกิดดรามา ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์วงการตำรวจ ก่อนทั้งสองนายจะถูกนายกเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ณ ขณะนั้น ย้ายทั้งคู่ไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อยุติความขัดแย้ง และแต่งตั้งให้ บิ๊กต่าย เป็นผู้รักษาราชการแทน

และได้นำมาสู่การปรับเปลี่ยนกระบวนการคัดเลือก ผบ.ตร. คนใหม่ ภายใต้ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 2565 ซึ่งมุ่งเน้นความโปร่งใสและเป็นธรรมมากขึ้น โดยให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอชื่อ และให้คณะกรรมการ ก.ตร. เป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบ แทนที่จะเป็นการเสนอชื่อโดย ผบ.ตร. คนเดิมเช่นที่เคยปฏิบัติมา

ไม่พลิกโผ บิ๊กต่าย นั่งเก้าอี้ ผบ.ตร.ตามคาด

หลังจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั่งหัวโต๊ะประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ในฐานะประธาน ก.ตร. ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของการร่วมประชุม ก.ตร. หลังดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ซึ่งที่ประชุมมีมติให้ "บิ๊กต่าย" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ก้าวขึ้นเป็น ผบ.ตร.คนใหม่ โดยหลังจากนี้ ก.ตร. ต้องนำเสนอ ครม.เพื่อให้ความเห็นชอบและประกาศในราชกิจจานุเบกษา ถึงจะดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.คนที่ 15 อย่างเป็นทางการ