กองทุน FTA ผนึกความร่วมมือ 14 ภาคี พัฒนาเครือข่ายโครงการเกษตรพันธมิตร สู่โอกาสตลาดการค้าเสรี
วันที่ 27 กันยายน 2567 นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “Project Matching Connecting Opportunities การพัฒนาเครือข่ายโครงการเกษตรพันธมิตร สู่โอกาสตลาดการค้าเสรี” ณ โรงแรมดวงตะวัน จังหวัดเชียงใหม่
โดยมีหน่วยงานภาคีเครือข่าย 14 หน่วยงาน ที่กองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ (กองทุน FTA) ลงนาม MOU ร่วมมือในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันให้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้าให้มีศักยภาพในการแข่งขัน ประกอบด้วย
โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบด้วยเกษตรกร ข้าราชการ หน่วยงานภาคเอกชน วิทยากร และเจ้าหน้าที่ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จำนวน 200 คน
โอกาสนี้ เลขาธิการ สศก. ได้ร่วมบรรยายพิเศษ CEO Talk “The Next Chapter Project Matching Connecting Opportunities มุมมองการสร้างความร่วมมือ พัฒนาเครือข่ายโครงการเกษตรพันธมิตร สู่โอกาสตลาดการค้าเสรี” นอกจากนี้ ยังมีการบรรยายเรื่อง “เจาะลึกสถานการณ์ภาคเกษตรยุคดิจิทัล ในตลาดการค้าเสรี: การเปลี่ยนแปลง ผลกระทบ ความท้าทาย และการปรับตัว” โดย รศ.ดร. เริงชัย ตันสุชาติ ผู้อำนวยศูนย์ความเป็นเลิศเศรษฐมิติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสำหรับช่วงบ่าย เป็นเสวนาเรื่อง “Success Stories from Local to Global: ไขเคล็ดลับโครงการต้นแบบของกองทุน FTA” โดยผู้แทนเกษตรกรและผู้รับผิดชอบจากโครงการที่ประสบผลสำเร็จ ได้แก่
ที่ผ่านมา เกษตรกรบางส่วนยังมีศักยภาพการผลิตอยู่ในระดับต่ำ สินค้าเกษตรมีคุณภาพไม่ตรงตามความต้องการของตลาด ทำให้มีต้นทุนการผลิตสูง รวมทั้งการขาดแคลนปัจจัยพื้นฐานในการประกอบอาชีพ การไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง ขาดแคลนเงินทุนในการทำการเกษตร ขาดความรู้และเทคโนโลยีนวัตกรรมที่ทันสมัยในการผลิต รวมทั้ง ข้อกีดกันทางการค้าต่างๆ จากประเทศคู่ค้า นำไปสู่การเจรจาการเปิดเสรีทางการค้าทั้งในรูปแบบทวิภาคีและพหุภาคี ซึ่งการพัฒนาภาคการเกษตรให้ประสบผลสำเร็จ ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคเกษตรกร ทั้งกลุ่มเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร มาร่วมกันดำเนินงานในกิจกรรมหรือโครงการต่างๆ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคการเกษตรของไทย เพื่อให้สามารถแข่งขันกับสินค้าเกษตรในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน
“วันนี้กองทุน FTA เรามีภาคีเครือข่าย MOU ร่วมกัน 14 หน่วยงาน การสัมมนาในวันนี้ จึงเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่จะร่วมกันสร้างความร่วมมือในการพัฒนาโครงการที่มาขอรับเงินสนับสนุนจากกองทุน FTA และเพื่อเปิดโอกาสให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในด้านต่างๆ กับกลุ่มเกษตรกร ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรดังกล่าว และตัวแทนจากมหาวิทยาลัยที่ต้องการขอรับเงินสนับสนุนจากกองทุน FTA มานำเสนอโครงการที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเกษตรดังกล่าวเข้ามาด้วยเชื่อมั่นว่า การสัมมนาครั้งนี้ จะทำให้มีโครงการที่เสนอขอรับเงินสนับสนุนมายังกองทุน FTA เพิ่มขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อร่วมกันสร้างความมั่นคงในอาชีพเกษตรกรรม ภาคเกษตรของไทยมีความเข้มแข็งและเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป” เลขาธิการ สศก. กล่าว
Advertisement