รู้จักเมนูสุดไวรัล "ไข่ข้าว" หรือ "โปงเตี๊ยะกูน" ในภาษากัมพูชา แต่ละประเทศมี "วิธีกิน" แตกต่างกันอย่างไร ไขคำตอบ กินไข่ข้าว อันตรายหรือไม่
ไข่ข้าว เมนูอร่อยตบโต๊ะสุดไวรัลที่เชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยอาจสงสัยว่า เมนูหน้าตาไม่คุ้นชินนี้กินได้หรือไม่? วันนี้ "อมรินทร์ออนไลน์" จะพาไปรู้จักว่ามันคืออะไร และแต่ละประเทศมี "วิธีกิน" แตกต่างกันอย่างไรบ้าง พร้อมไขคำตอบ กินไข่ข้าว อันตรายหรือไม่?
ไข่ข้าว คืออะไร
ไข่ข้าว ไข่ฮ้างรัง หรือ ไข่ค้างรัง เป็นไข่ที่ผ่านการปฏิสนธิแล้วแต่หยุดการเจริญเติบโตทำให้ไม่ฟักตัว ภายในไข่แต่ละฟองจะมีลักษณะตั้งแต่ยังไม่มีตัวอ่อนจนเกิดเป็นตัวอ่อนของไก่ที่มีสีของความดำแตกต่างกันออกไป ไม่เพียงเท่านั้นยังมีขนเล็กน้อย ในส่วนของไข่ขาวก็จะมีสัมผัสที่แข็ง ซึ่งในบางฟองก็มีกลิ่นเหม็นหรือกลิ่นคาวที่เป็นเอกลักษณ์
ไข่ข้าว จัดเป็น "อาหารคาว" และไม่ได้มีเพียงบ้านเราเท่านั้นที่กิน แต่ยังเป็นที่นิยมในประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ หรือ กัมพูชา ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
ไข่ข้าว รสชาติเป็นอย่างไร มีวิธีกินอย่างไร
คนไทยและเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว มักจะนำไปต้มให้สุกแข็ง หรืออาจนำไปนึ่ง หรือปิ้งให้สุก โดยกินคู่กับพริกไทย, เหยาะเกลือเล็กน้อย หรือ เหยาะซอสฝาเขียว หรือ ซอสฝาแดง เพิ่มรสชาติ
เวียดนามหรือฟิลิปปินส์ นิยมกินไข่ที่กำลังเป็นตัวอ่อน จะกี่วันก็แล้วแต่ความชอบ ส่วนมากนิยมเป็นไข่เป็ด วิธีกินคือ นำไข่ข้าวที่ต้มสุกใช้ช้อนคันเล็กเคาะเปลือกด้านบนให้แตกแล้วซดเป็นน้ำซุป จิ้มกินกับพริกไทย, เกลือ และมะนาว
ไข่ข้าวในกัมพูชา เรียกว่า "โปงเตี๊ยะกูน" นอกจากจะกินแบบทั่วไปแล้ว ยังนิยมนำไปทำกับข้าวอื่นๆ ด้วย เช่น นำไปชุบแป้งทอด หรือ เอาไปใส่ในหม้อไฟ เป็นต้น
อันตรายจากการกินไข่ข้าว มีหรือไม่
ไม่ว่าจะเป็น ไข่ข้าว หรือไข่ดิบ ไข่ประเภทต่างๆ เชื้อที่จะเจอได้ก็คือ เชื้อซาลโมเนลลา หากปรุงไม่สุก เชื้อแบคทีเรียก็จะทำให้ก่อเกิดโรคได้ โดยความรุนแรงของโรคขึ้นอยู่กับปริมาณของเชื้อและสารพิษที่ขับออกมา นอกจากนี้ยังพบว่า อุณหภูมิห้องเหมาะแก่การเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียอีกด้วย ซึ่งเสี่ยงต่ออาหารเป็นพิษ โดยเฉพาะการกินแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ ซึ่งเป็นวิธีกินเป็นที่นิยมในประเทศเวียดนามหรือฟิลิปปินส์
วิธีที่ปลอดภัยสำหรับการกินไข่ข้าวก็คือ ต้องเป็นไข่ข้าวที่ปรุงสุก แนะนำไม่ควรรับประทานเกิน 1 ฟอง/วัน เพราะเป็นอาหารคลอเลสเตอรอลสูง ผู้ที่มีภาวะไขมันในเลือดผิดปกติ หรือ โรคไขมันและหลอดเลือด ยิ่งต้องพึงระมัดระวังในการรับประทาน
ขอบคุณข้อมูล : เรื่องเด็ดเอ็ดตะโร, RAMA Channel
Advertisement