ยึดทรัพย์แล้ว 120 ล้าน! “แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์” ออกหมายเรียกคนสนิท “เมียหรั่ง-เจ๊นุชบางเตย” 10 -11 ต.ค.นี้ จ่อเปิดตู้เซฟอีก 1 ตู้ เย็นนี้
พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. แถลงข่าวภายหลังตรวจยึดรถหรู ของ น.ส.กรกนก สุวรรณบุตร หรือ แม่ตั๊ก และ นายกานต์ เรื่องอร่าม หรือป๋าเบียร์ สองผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกง ในคดีหลอกขายทองคำออนไลน์ รวม 4 ข้อหา
โดยวันนี้จะเป็นการชี้แจงความคืบหน้าดำเนินคดีแม่ตั๊ก กับป๋าเบียร์ ทั้งความคืบหน้าคดี บุคคลใกล้ชิดที่เกี่ยวข้อง ทรัพย์สิน และเรื่องการแนวทางการสอบสวนคดี
โดยความคืบหน้าของ ภายหลังจากที่มีผู้เสียหายมาแจ้งความเมื่อวันที่ 26 ก.ย. ก็ได้มีการสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐาน จน กระทั่งวันที่ 30 ก.ย. ก็ได้ขอศาลออกหมายค้น และออกหมายจับ จนสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้
ต่อมาวันที่ 2 ต.ค.67 ได้ขอหมายค้น 2 จุด ยึดรถหรูได้ 5 คัน และวันนี้วันที่ 7 ต.ค.67 ได้ขอใหม่ค้นเข้าตรวจยึดรถหรู อีก 4 คัน โดยมีรถจักรยานยนต์ด้วย รวมทั้งสิ้น 10 คัน มูลค่าการตรวจยึดตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค.จนถึงวันนี้ มูลค่า 120 ล้านบาท
ส่วนควบคืบหน้า ประเด็นบุคคลใกล้ชิดที่เกี่ยวข้อง ที่มีข้อมูลมีความเชื่อมโยง อย่างเช่น เมียหรั่ง กับเจ๊นุช บางเตย ได้ออกหมายเรียกแล้ว และนัดมาให้ถ้อยคำ วันที่ 10-11 ต.ค.นี้ เพื่อให้ทั้งคู่ได้มาชี้แจง ซึ่งจากการติดตาม ยังทราบว่าทั้งคู่ อยู่ในประเทศไทย
ส่วนพยานบุคคลอื่นเช่นแม่บ้าน หรือผู้จัดการส่วนตัว ก็ได้เรียกมาสอบสวนแล้ว ตอนนี้อยู่ในช่วงของการรวบรวมพยานหลักฐาน ถ้าบุคคลใด มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องก็จะแจ้งข้อหา ในเรื่องความผิดความผิดที่เกี่ยวข้อง
ส่วนเรื่องของทรัพย์สินได้มีการตรวจสอบ ตามที่ผู้ต้องหาได้รีวิว ว่าเขามีทรัพย์สินอะไรบ้าง เบื้องต้นที่ปรากฏเป็นภาพ รถยนต์ซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งกลุ่มผู้กระทำความผิดได้นำมาโชว์ในตอนไลฟ์สด และการเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ได้ตรวจยึดมาวันนี้ รวมทรัพย์สิน มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ซึ่งปรากฎชื่อของผู้ต้องหาของทั้ง 2 คนเป็นเจ้าของ
5.รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า จำนวน 2 คัน
6.รถจักรยานยนต์ จำนวน 5 คัน
ส่วนบัญชีธนาคาร ของห้างทอง k2n Gold ก็ได้อายัดเงินไว้ 20 กว่าล้าน
รวมมูลค่าที่ยึดทรัพย์สินได้ทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค. จนถึงวันนี้ ยึดได้ทั้งหมด 120 ล้านบาท
ส่วนบ้าน ที่ปรากฏเป็นของทางบริษัทที่ทั้ง 2 รายเป็นกรรมการอยู่ ตอนนี้ก็มีข้อมูลแล้ว ซึ่งทางตำรวจ ได้ทำ งานคู่ขนานกับปปง.อยู่แล้ว
ส่วนนาฬิกา 6 ใน 8 เรือน ที่รีวิว ตำรวจได้ชื่อร้าน ที่ผู้กระทำความผิดทั้ง 2 รายไปทำการซื้อมาแล้ว โดยตำรวจจะไปทำการสอบสวนเพิ่มเติมว่ามีการไปซื้อมาในลักษณะไหน เพราะจะมี Serial number ของนาฬิกาอยู่แล้ว หากว่าไปอยู่ที่ใคร ตอนนี้ ถือว่าเป็นทรัพย์ของผู้ต้องหาทั้งสอง ที่อาจจะได้มาจากการกระทำความผิด สามารถนำมาส่งมอบให้ตำรวจได้
ส่วนความคืบหน้าของการสอบสวน เรื่องนี้พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผบ.ตร. ก็ได้ให้ความสำคัญและลงมากำชับและมีแนวทางที่จะตั้ง พนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้ามาควบคุมกำกับดูแล เพื่อให้การทำงานครอบคลุมเนื่องจากว่ากรณีนี้มีผู้เสียหายทั่วประเทศและเพื่อให้เกิดความรวดเร็ว และมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
สำหรับในส่วนของผู้เสียหาย ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็มีนโยบาย ให้ผู้เสียหาย สามารถไปติดต่อแจ้งความ ได้ 3 ช่องทาง ช่องทางที่ 1 สามารถไปที่สถานีตำรวจ ใกล้ภูมิลำเนา เรามีข้อมูลส่งไปให้สถานีตำรวจแล้วเพื่อให้ทรัพย์ปักคำ ตามประเด็นที่ผู้เสียหายจะให้การ ช่องทางที่ 2 คือมาศูนย์รับแจ้งความ ของกองบัญชาการสอบสวนกลาง เราจัดพนักงานสอบสวนไว้รองรับเพียงพอ ช่องทางที่ 3 สามารถเข้าไปในระบบรับแจ้งความของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ Royal Thai Police.go.th เพื่ออำนวยความสะดวกไม่ต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย
ขณะที่บ้านผู้ต้องหาทั้งสองคน มีอยู่ประมาณ 9 หลัง โฉนดที่ดินอีก 16 แปลง แต่เชื่อว่าอาจจะมีมากกว่านี้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ทำงานคู่ขนานกับปปง. โดยบ้านพลูวิลล่า ที่พัทยา 2 หลัง ยังไม่ได้มีการโอน และทั้งคู่ ไม่ได้เป็นเจ้าของโครงการ
ส่วนประเด็นที่หลายคนสงสัยว่า มี 2 คัน นั้น พล.ต.ต.วิทยา บอกว่า แมคลาเรน ก็ไปแลปสี จากรถสีขาวเป็นสีส้ม Lamborghini สีแดง ก็ไปแลแเป็นสีฟ้า
ส่วนการโอนย้ายทรัพย์สิน อยู่ระหว่างการตามสืบสวน ตามจนกระทั่งว่าใครเป็นคนถอนเงินสด
ส่วนประเด็นตู้เซฟ ตอนนี้ยังมีอีก 1 ตู้ ที่อยู่ในบ้านและยังเปิดไม่ได้ (ไม่ใช้ตู้เซฟเงินตู้ใหญ่) โดยวันนี้ได้ประสานไปยังทนาย และญาติ ขอรหัสจากผู้ต้องหา แต่หากไม่ให้รหัส ก็จะประสานช่างมาเปิดต่อหน้าญาติ และทนายความ
Advertisement