เจ๊นุช บางเตย เจอฟัน ผิดพ.ร.บ.คอมฯ-โฆษณาเกินจริง เจ้าตัวปฏิเสธ ขอโอกาสสังคม วอนทัวร์อย่าลง ลั่นยังรัก แม่ตั๊ก เหมือนเดิม ส่วนไหนผิดก็ว่าไปตามผิด
วันที่ 10 ต.ค. 2567 ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) น.ส.ณปภัช เขจรรักษ์ อายุ 39 ปี หรือ เจ๊ นุช บางเตย อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง หนึ่งในคนสนิทของ แม่ตั๊ก ให้สัมภาษณ์สื่อ หลังเดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ปริญญา ปาละ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคบ.เพื่อให้ปากคำตามหมายเรียก คดีแม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ หลอกขายทองออนไลน์
โดย เจ๊นุช เปิดเผยว่า หลังจากเป็นข่าว ตนไม่ได้หนีไปไหน ตนได้มีการติดต่อกับทาง ปคบ.ตั้งแต่ที่ไปออกรายการโหนกระแส แล้วก็ให้ทางทนายประสานงานมาที่พนักงานสอบสวนตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม และทางตำรวจก็นัดวันให้มาวันนี้ ยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ
อยากจะขอให้สังคมให้โอกาสตนอีกครั้ง อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าตนเป็นคนผิด เพราะว่าหลักฐานทุกอย่างตนนำมามอบให้กับทางเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว ว่าตนบริสุทธิ์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขายทองของแม่ตั๊กแน่นอน
และสิ่งสำคัญที่เป็นข่าวว่าทรัพย์สินของตนว่าบ้านหลังละ 50 ล้าน 4 หลัง รวมมูลค่าทรัพย์สิน 200-300 ล้าน บอกตรงๆว่าไม่เป็นความจริง และหลักฐานทั้งหมดมอบให้กับเจ้าหน้าที่สอบสวนเรียบร้อยแล้ว
ตน รู้จักกับแม่ตั๊ก เหมือนกับทุกคน คือตนเป็นแฟนคลับและเป็นเพื่อนกันใน Facebook รู้จักกันมาตั้งแต่ปี 2561 ก่อนที่แม่ตั๊กจะทักมาชวนไปขายกางเกงในเก็บพุง จริงๆการทำงานของทุกๆที่มันมีความสนิทสนมเรื่องการทำงานอยู่แล้ว แต่เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน ตอนไลฟ์สดแม่ตั๊กไม่ได้ว่าจ้างเรา แม่ตั๊กจะว่าจ้างเฉพาะดาราและอินฟลูเอนเซอร์ สำหรับตนกับแม่ตั๊ก เป็นเหมือนคู่ค้า ตนรับโปรตีนมาขายต่อเอากำไรเท่านั้น
ส่วนเรื่องที่เราไลฟ์สดกับแม่ตั๊ก เราไม่มีความกังวลใจใดๆ เพราะว่าเรารู้สึกว่าเราบริสุทธิ์ใจ
"ต้องขอโทษไว้ตรงนี้เลยว่าถ้าการทำคอนเทนต์ในการสร้างแรงบันดาลใจให้คนทางบ้าน แล้วดูว่าคนที่เก็บขยะแบบนุช เมื่อก่อนเคยอาบน้ำคลองมาก่อน แล้ววันนึงมีความสำเร็จจากการขายของออนไลน์ แล้วทุกคนคิดว่าเป็นการอวดรวย นุชต้องขอโทษด้วย ครั้งหน้าหนูจะไม่ทำคอนเทนต์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนแล้ว แต่ในเรื่องของการช่วยเหลือสังคม หนูต้องขอไว้ เพราะยังอยากช่วยเหลือสังคม อยากให้กำลังใจกับพ่อค้าแม่ค้า เราเป็นพ่อค้าแม่ค้าที่ไลฟ์สดในห้องแอร์ แต่พ่อค้าแม่ค้าที่อยู่ริมถนน เขาต้องเก็บของขายของไม่ได้ ก็อยากแบ่งปันให้เขาได้มีความสุข"
เจ๊นุช ยอมรับว่าเคยซื้อทองร้านแม่ตั๊ก โดยซื้อให้สามี เป็นสร้อยข้อมือน้ำหนัก 10 บาท ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นทองแท้หรือไหม ก่อนที่เจ๊นุชจะบอกว่า เป็นทองแท้ แล้วก็ยังเคยเอาไปทำคอนเทนต์ด้วย
ส่วนปี่เซียะ ก็เคยซื้อเช่นกัน การที่ตนซื้อปี่เซียะ ตนรู้สึกว่าปี่เซียะมันก็เหมือนพระ แต่ทุกคนอาจจะคิดว่าเออมันเป็นทอง ซื้อทองมาก็เก็งกำไร ซึ่งตนก็รู้จากร้านทองแม่ทองสุขเหมือนกันว่า ปี่เซียะนี้มันเป็นทอง 99.69 % ไปขายไม่ได้กำไรอยู่แล้ว มันเหมือนกับว่าน้ำหนักทองมันไม่ถึง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความสัมพันธ์กับ แม่ตั๊ก นั้น เจ๊นุชบอกว่าอยากให้ทุกคนแยกแยะ ผิดว่าไปตามผิด ถามว่าวันนี้รักเขาไหม ประชาชนอาจจะไม่พอใจกับคำตอบ ความสัมพันธ์กับเราก็ยังรักอยู่ แต่อย่างที่บอกว่าทุกคนต้องแยกนะ ขออย่าเอาไปโจมตี ทุกวันนี้เป็นแม่ค้าถ้าไม่ทำงานก็ไม่มีเงินผ่อนบ้าน ผ่อนรถ
ด้านทนายเจ๊นุช ระบุว่า เจ๊นุช ถูกแจ้งข้อหา ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และข้อหาโฆษณาเกินจริง แต่ได้ให้การปฏิเสธไป ซึ่งข้อหาดังกล่าวไม่ใช่ข้อหาที่เกี่ยวข้องกับแม่ตั๊ก แต่เป็นข้อหาที่คุณอัจฉริยะ ได้มาแจ้งความไว้ ซึ่งทางเราได้ปฏิเสธ.
Advertisement