พีพี กฤษฏ์ ไม่สบายใจ เป็นอดีตพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์บริษัทดัง เผยรับงานแค่ 1 ปี เน้นโปรโมทสินค้า ไม่มีตำแหน่ง พร้อมให้ตรวจสอบเอกสารทางการเงิน-สัญญา
จากกรณีที่มีผู้เสียหายจำนวนมาก เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เพื่อดำเนินการคดีกับ บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป โดยอ้างโดนชักชวนร่วมลงทุน ทำให้สูญเงินจำนวนมาก ตามที่มีข่าวโด่งดังอยู่ในขณะนี้
ต่อมาวันที่ 11 ต.ค. 67 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร นักแสดง นายแบบ นักร้องชื่อดัง ซึ่งเป็นอดีตพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์หนึ่งของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ที่เป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนรู้สึกไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งรับรู้ข้อมูลต่างๆ มาจากทีมงาน จึงรู้สึกว่าอยากมาชี้แจงเองมากกว่า เพราะเราเคยเป็นพรีเซนเตอร์ให้เขา
ซึ่งตนรับงานเป็นพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมบำรุงสายตาของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ตั้งแต่เดือนพ.ค. ปี 65 ถึงเดือน มิ.ย. ปี 66 โดยมีสัญญา 1 ปี เงื่อนไขสัญญาในการทำงานทั้งหมด 1 ปีที่ผ่านมา ตนทำงานกับเขา 3 วัน โดยมีการถ่ายภาพนิ่ง ออกรายการ และอีเวนท์เปิดตัวผลิตภัณฑ์
เมื่อถามว่า มีอย่างอื่นอีกไหม พีพี กฤษฏ์ กล่าวว่า “ไม่มีครับ ระบุไว้ในสัญญาทั้งหมด ก็ทำหน้าที่พรีเซนต์นำเสนอโปรโมทตัวผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียว”
ตนมาเป็นพรีเซนเตอร์ หลังจากออกจากบริษัทเก่า และเริ่มทำบริษัทใหม่ของตัวเอง จากนั้นมีผลิตภัณฑ์ตัวนี้ติดต่อมา ซึ่งทีมงานก็ได้ตรวจเช็กทั้งหมดแล้วว่าผลิตภัณฑ์นี้ได้ผ่านการรับรองจากหน่วยงานของรัฐ และตัวผลิตภัณฑ์ผ่าน อย.แล้ว รวมถึงได้ตรวจสอบตัวบริษัทเองด้วยว่ามีทุนจดทะเบียนเท่าไหร่ ข้อมูลทางบริษัทถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ เราก็เช็กมาเรียบร้อยแล้วด้วย
เมื่อถามว่าตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ พีพี กฤษฏ์ กล่าวว่า รู้สึกตกใจอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ยังตกใจอยู่ และรู้สึกว่าไม่สบายใจจึงอยากออกมาพูดวันนี้ เมื่อถามว่าตอนนั้นที่ตัดสินใจรับงาน ไม่ได้ทราบเบื้องหลังเลยใช่หรือไม่ พีพี กฤษฏ์ กล่าวว่า ในส่วนของตนรับทราบเพียงแค่ข้อมูลของโปรดักส์เพียงอย่างเดียว ส่วนกิจกรรมภายในบริษัท กลไก กลยุทธ์ต่างๆ การตลาดตนไม่รู้เลย
เมื่อถามว่า วันที่มีการแถลงข่าวเขาได้ระบุหรือไม่ว่าเราต้องพูดอะไรบนเวที พีพี กฤษฏ์ กล่าวว่า มีระบุมาว่าเราต้องทำอะไรบ้างและต้องขายอะไรบ้าง ในส่วนของตนก็ขายแต่ในตัวผลิตภัณฑ์ที่ตนเป็นพรีเซนเตอร์เท่านั้น ทั้งนี้ในส่วนของตนอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวผลิตภัณฑ์ ทีมงานก็จะตัดทิ้งทั้งหมด โดยสคริปต์ก่อนมาถึงตนมีทีมงานกลั้นกรองให้ทั้งหมดแล้ว
เมื่อถามว่า สัญญาระบุว่าเป็นพรีเซนเตอร์นั้นมีการจ่ายเงินแบบไหน พีพี กฤษฏ์ กล่าวว่า มีการแบ่งจ่าย 2 งวด ระบุในสัญญาชัดเจน ไม่มีว่ายอดขายเท่าไหร่แล้วเราจะได้เพิ่มอีกเท่าไหร่ เป็นเพียงแค่สัญญาค่าจ้างค่าแบบโฆษณาสินค้า โดยสัญญาดังกล่าวหมดไปเมื่อเดือน มิ.ย. ปี 66
เมื่อถามว่า รู้จักกับบอสพอลหรือไม่ พีพี กฤษฏ์ กล่าวว่า ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว เขาเป็นผู้ว่าจ้าง ตนรับงานโฆษณา ตนก็รู้จักเขาในการทำงาน ได้เจอจริงๆ ก็ 3 วันใน 1 ปีก็แค่นั้น ซึ่งเขาก็ไม่ค่อยได้พูดอะไรกับตน เมื่อถามว่า เขามีชักชวนให้มามีตำแหน่งในบริษัทด้วยหรือไม่ พีพี กฤษฏ์ กล่าวว่า ตนอาจจะน่าคบหรือเปล่า เขาไม่มีมาชักชวนให้ไปร่วมอะไร ได้เจอจริงๆ ก็ 3 วันใน 1 ปีก็แค่นั้น ซึ่งเขาก็ไม่ค่อยได้พูดอะไรกับตน
ทั้งนี้ตนห่วงความรู้สึกของแฟนๆ และห่วงผู้เสียหายทุกคน ตนไม่อยากให้ทุกคนเข้าใจผิด และอยากจะมาชี้แจงให้ทุกคนทราบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันคืออะไรในส่วนของตน ทั้งนี้พร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทุกอย่าง ไม่ว่าจะข้อมูลเอกสารทางการเงิน ตัวสัญญา หรืออะไรทุกอย่างตนสามารถให้ตรวจสอบได้ทั้งหมด
เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับ บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุลบ้างหรือไม่ พีพี กฤษฏ์ กล่าวว่า ก็มีการปรึกษากัน และพูดคุยกันตลอด เขาก็เป็นห่วง เราจะออกมาชี้แจง ตนก็ได้คุยกับ บิวกิ้น แล้ว ซึ่งตนรู้สึกไม่สบายใจและอยากออกมาชี้แจงเรื่องนี้จริงๆ เขาก็ให้กำลังใจ แล้วบอกว่าสู้สู้
Advertisement