คนกรุงเห็นด้วยหรือไม่? หากรัฐจะเก็บค่าธรรมเนียมรถติด 50 บาท หนุนคนแก่ใช้รถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย แก้ปัญหาจราจรติดขัด ลด PM 2.5
แนวคิดการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด เป็นแนวนโยบายของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ริเริ่มตั้งแต่สมัยนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน และถูกส่งต่อมายังนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ขณะนี้หน่วยงานเจ้าภาพหลักอย่างกระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลัง ใส่เกียร์เดินหน้าระดมสมองศึกษาความเป็นไปได้อย่างจริงจัง รวมถึงกำหนดโรดแมปว่าจะต้องมีความชัดเจน ภายในเดือนกันยายน 2568
นโยบายนี้มีจุดประสงค์หลักก็คือ เพื่อให้ประชาชนหันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะมากขึ้น เป้าหมายสำคัญคือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนที่มาใช้บริการ และลดปัญหา PM 2.5 พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ในระยะยาว
แนวคิดนี้ได้แรงบันดาลใจจากประเทศที่พัฒนาแล้วที่มีการดำเนินการจนประสบความสำเร็จ เช่น สหราชอาณาจักร สิงคโปร์ อิตาลี สวีเดน นอร์เวย์ เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา
สำหรับในไทย ได้มีข้อเสนอที่จะเก็บค่าธรรมเนียมการขับรถเข้าเมือง เริ่มย่านใจกลางกรุงเทพฯ ก่อน เช่น สุขุมวิท รัชดาภิเษก และสีลม ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวมีการจราจรราว 7 แสนคันต่อวัน โดยจะจัดเก็บในอัตราเพิ่มขึ้น เช่น ใน 5 ปีแรกจัดเก็บรถคันละ 50 บาท คาดว่าจะได้รายได้ส่วนนี้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาทต่อปี เพื่อนำเข้ากองทุนโครงสร้างพื้นฐาน
หากจะอธิบายง่ายๆ ก็คือรัฐจะไม่นำเงินภาษีจากคนทั้งประเทศมาซื้อสัมปทานรถไฟฟ้าคืน เพราะคนที่ได้ประโยชน์จะเป็นกลุ่มคนกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นส่วนใหญ่ จึงควรให้คนในเขตเมืองดูแลเรื่องค่าใช้จ่าย ส่วนข้อดีนอกจากจะช่วยลดค่าครองชีพแล้ว ยังทำให้คนหันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะ อย่างรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสายมากยิ่งขึ้น ซึ่งรัฐจะนำรายได้ส่วนนี้ไปเข้ากองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออุดหนุนจ่ายคืนให้รถไฟฟ้านั่นเอง
นี่เป็นเพียงแนวนโยบายที่เสนอเป็นแนวความคิดเท่านั้น สำหรับประเทศไทยแล้ว หากแนวคิดนี้ตกผลึกจนสามารถทำได้จริงก็อาจจะมีประโยชน์โดยเฉพาะชาวกรุงเทพฯ และปริมณฑล แต่ทั้งนี้ยังคงต้องศึกษา ถกเถียง และรับฟังเหตุผลของแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป
Advertisement