ญาติ- ชาวบ้าน ตะโกนสาปแช่งลั่นโรงพักขอให้ลุงเจ้าของร้านคาราโอเกะติดคุก ขอให้เมียไปมีผัวใหม่ หลังปืนดุหวงเมียยิงลูกค้าดับคาร้าน
วันที่ 22 ตุลาคม จากกรณีนายนรามาตร ชัยเคน หรือ ลุงโอเล่ อายุ 52 ปี เจ้าของร้านริมฝั่งนั่งเล่นที่เปิดเป็นคาราโอเกะ มีสาวลาวคอยบริการทั้งนั่งดริ๊งและเสิร์ฟในพื้นที่ ต.ศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.สังหารนายภัทรชัย บุญระมี หรือ ต้อม อายุ 33 ปี ชาวบ้านท่าดอกแก้ว หมู่ 5 ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งเป็นลูกค้าประจำ
โดย ลุงโอเล่ เหนี่ยวไกยิงเข้าด้านหลังนายต้อมแบบไม่ทันตั้งตัว กระสุนทะลุหน้าอกจำนวน 1 นัด เสียชีวิตคาร้าน ขณะนั่งกินดื่มเพียงคนเดียว หลังคนก่อเหตุลุงโอเล่ ได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจมาจับกุมตนเองสารภาพเสียงดังฟังชัดว่า หึงหวงเมียที่เป็นสาวชาวลาว อายุ ประมาณ 35 ปี เนื่องจากนายต้อม ผู้ตายเป็นลูกค้ามาเที่ยวร้านประจำและชอบพูดคุยหยอกล้อกับเมียสาว พอเดินเข้ามาในร้านก็มักถามหาเมียของตนเองเสมอ จึงเป็นต้นเหตุอารมณ์หึงหวง เกรงว่าจะมีพฤติกรรมชู้สาว จึงลงมือด้วยอารมณ์ชั่ววูบพร้อมรับผิดทางกฎหมาย
โดยขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเตรียมคุมตัวลุงโอเล่ ไปขอฝากขังที่ศาลจังหวัดนครพนมผัดแรก ได้มีบรรดาญาติคนตายจำนวนหนึ่ง บุกมารออยู่หน้าโรงพัก เพื่อขอดูหน้ามือปืนและต้องการถามถึงสาเหตุ พร้อมตะโกนด่าสาปแช่งขอให้ติดคุกเมียไปมีผัวใหม่ เนื่องจากยังยอมรับความสูญเสียไม่ได้ ทั้งยังติดใจการสังหารอ้างเป็นปมหึงหวง ทั้งที่ร้านเปิดเป็นคาราโอเกะมีสาวลาวเป็นเด็กเสิร์ฟที่ต้องบริการเทคแคร์ดูแลลูกค้า และเชื่อว่านายต้อมคนตายไม่ได้มีปัญหาด้านชู้สาว พร้อมเรียกร้องให้มีการชดเชยเยียวยา เนื่องจากคนตายเป็นเสาหลักของครอบครัว อดีตเคยไปทำงานเมืองนอกและกลับมารับจ้างทั่วไป รวมทั้งทำการเกษตรในครอบครัวและต้องดูแลลูกสาว ถึง 2 คน อายุ 12 ขวบและอายุ 9 ขวบ เพราะเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวหย่าร้างกับเมีย ต้องเป็นเสาหลักดูแลลูกและพ่อแม่ต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ในระหว่างตำรวจคุมตัวนายลุงโอเล่ออกจากห้องขัง เพื่อไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครพนม ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงสาเหตุ แต่ลุงโอเล่ไม่ยอมเปิดปาก บอกว่าได้ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนหมดแล้ว ยืนยันคำเดียวหึงเมียสาววัย 35 ปี ยอมรับไม่เคยมีการทะเลาะกับคนตาย แต่เชื่อว่าผู้ตายแอบชอบเมียตน จึงตัดสินใจยิงด้วยอารมณ์ชั่ววูบ และพร้อมรับบทลงโทษทางกฎหมาย
โดยตำรวจแจ้งข้อหาเจตนาฆ่าและที่ศาลฯก็ไม่มีญาติผู้ต้องหายื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัว ในขณะเดียวทางตำรวจได้คัดค้านประกันตัวด้วยเนื่องจากคดีฆ่าคนตายมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต.
Advertisement