ที่ปรึกษา “สมศักดิ์” ร้องสอท. เอาผิดเพจแอบอ้างใช้รูป ขายยาปลุกสู้ เตือน ปชช. อย่าได้หลงเชื่อ ซื้อมากิน ระวังอันตรายต่อหัวใจ อาจถึงแก่ชีวิตได้
วันที่ 25 ต.ค. 67 นายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข เดินทางมายังกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.สอท.) เพื่อแจ้งความ หลังมีเพจเฟซบุ๊กเพจหนึ่งนำภาพนาย สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ไปโฆษณาขายยาปลุกเซ็กส์ เข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค โดยมี พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. เป็นผู้รับมอบหนังสือ
นายธนกฤต เปิดเผยว่า ในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา ได้พบการปลอมเพจกระทรวงสาธารณสุขประกอบข้อความชักชวนสั่งซื้อสินค้ายาปลุกเซ็กส์ พร้อมกับใช้รูปนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข มาแอบอ้างว่า ยาดังกล่าวได้รับการรับรองจากนายสมศักดิ์และกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งข้อความดังกล่าวนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และก่อให้เกิดความเสียหายแก่กระทรวงสาธารณสุขและตัวรัฐมนตรี
นายสมศักดิ์จึงได้สั่งการให้ตน และกองกฎหมายดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานและลงบันทึกประจำวันเบื้องต้นกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี และได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนตำรวจไซเบอร์ในวันนี้ เพื่อให้ทางตำรวจไซเบอร์ได้ติดตามตัวเจ้าของเพจดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเบื้องต้นจะแจ้งความในข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์และจะให้ทางพนักงานสอบสวนตรวจสอบเพิ่มเติมว่า การนำรูปของนายสมศักดิ์มาใช้นั้น เข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือไม่
พร้อมกันนี้ยังได้ฝากแจ้งเตือนถึงพี่น้องประชาชนว่า หากพบเห็นเพจลักษณะดังกล่าว อย่าได้หลงเชื่อและอย่าได้ซื้อมาบริโภค เพราะเนื่องจากยาเหล่านี้นั้นอาจจะมีสารที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อหัวใจและถึงแก่ชีวิตได้ โดยยืนยันว่านายสมศักดิ์ไม่เคยรับรองยาดังกล่าว หากใครที่หลงซื้อไปแล้ว ขอให้นำตัวยามาส่งที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เพื่อตรวจสอบหาสารในตัวยาว่ามีสารใดที่ผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งอาจจะนำมาสู่การดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ยา กับตัวเจ้าของเพจด้วย
ด้าน พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า ทางตำรวจไซเบอร์จะรับเรื่องดังกล่าวไปดำเนินการตรวจสอบตามกฎหมาย ซึ่งจากพฤติการณ์แล้วอาจเข้าข่ายความผิดฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุก 5 ปีปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งจะดำเนินการสืบสวนเพื่อล่อซื้อตัวอย่างยาและส่งตัวอย่างให้องค์การอาหารและยาหรือ อย. เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด หากพบว่าเป็นยาที่ผิดกฎหมาย ผลิต หรือนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ก็จะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ยา ด้วย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เพจดังกล่าวนั้นได้ส่งกระจายสินค้าไปเกือบทั่วประเทศ มีผู้ซื้อมากกว่าหลักพันราย ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์พอจะทราบแหล่งที่มาของเพจดังกล่าวแล้ว ยังพบอยู่ในประเทศไทย และคาดว่าจะเริ่ม Operation จับกุมเจ้าของเพจดังกล่าวได้ภายในสัปดาห์หน้า
ผู้สื่อข่าวยังสอบถามอีกว่า ยังพบหน่วยงานราชการหน่วยอื่นๆ ไปจนถึงตำรวจด้วยกันเองที่ถูกปลอมเพจ เพื่อรับแจ้งความร้องทุกข์หลอกลวงประชาชน พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า ทางตำรวจไซเบอร์ยังคงตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมายเหล่านี้อย่างต่อเนื่องและได้ดำเนินการจับกุมดำเนินคดี รวมทั้งประสานให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ปิดเพจเหล่านั้นไปเยอะมากแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ก็จะประสานให้เร่งดำเนินการปิดเพจแอบอ้างกระทรวงสาธารณสุขเพจนี้โดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหยื่อมากกว่านี้และทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าหน่วยงานราชการรับรองสิ่งผิดกฎหมาย
Advertisement