ทนายรณณรงค์ เผย ฟอร์มทีมทนายอเวนเจอร์ ช่วยปชช.ไม่ได้เรียกรับเงิน
ทนายรณณรงค์ เผย ทีมทนายอเวนเจอร์ ไม่มีใครรู้ว่าทนายตั้ม พูดคุยกับบอสพอล ยัน ฟอร์มทีมเพื่อช่วยเหลือปชช.ที่เดือดร้อน
คอนเทนต์แนะนำ
ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ และประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ระบุว่า กรณี ที่ ทนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล จะมีการยื่นหนังสือถึง DSI เพื่อเปลี่ยนสถานะแม่ข่าย The icon ที่เป็นผู้เสียหายให้เป็นผู้ต้องหานั้น มองว่า เป็นการทำเพื่อสู้คดีให้กับลูกความ สามารถทำได้ และไม่ได้แปลก ซึ่งถือว่าเป็นวิธีการต่อสู้อย่างหนึ่ง และเป็นแนวทางในการสู้คดีเพื่อจะสร้างความปั่นป่วน ของเจ้าหน้าที่ แต่ก็ถือว่าเป็นการใช้สิทธิ์ตามกระบวนการ
ซึ่งตั้งแต่วินาทีที่ทาง ทนายความของ บอสพอล แจ้งว่าจะมีการดำเนินคดีกับผู้เสียหาย ก็มีผู้เสียหายทักไลน์มาหาตนเอง ว่ามีข้อความส่งไปในกลุ่มผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก ว่าไม่ให้ไปแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งข้อความเหล่านี้มีมาตลอดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตนมองว่า หากผู้เสียหายท่านใดที่รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ควรจะเข้าสู่กระบวนการทั้งหมด หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะมีการดำเนินการคัดแยกเอง ว่าใครคือผู้เสียหายหรือใครคือผู้ต้องหา ซึ่งศาลจะพิจารณาเรื่องระยะเวลาในการแจ้งความด้วย ว่ามีการแจ้งความ ก่อนที่จะเกิดเรื่อง หรือแจ้งความหลังจากเกิดเรื่องไปแล้ว หากมาแจ้งความ เพื่อแก้เกลี้ยว ช่วงที่เกิดเรื่องแล้ว แนวทางคำตัดสินของศาลก็จะไม่ค่อยเชื่อ ณ จุดนี้ ส่วนใครที่มาแจ้งความก่อนที่จะเกิดเรื่อง ศาลก็จะพิจารณาและน่าเชื่อได้ว่า สุจริติ
ส่วนกรณี ที่นายอัจฉริยะ เข้าไปในเรือนจำ ตนเองไม่มีข้อมูล แต่อยากจะบอกให้ นายอัจฉริยะนั้น สู้ๆ
ส่วนกรณีที่มีการฟอร์มทีมทนายอเวนเจอร์ ยืนยันว่า ขณะนั้นไม่มีใครทราบ ว่าทนายตั้ม ได้มีการพูดคุยกับ บอสพอล มาก่อนหน้านี้ และเพิ่งมาทราบพร้อมๆกับทุกคน และวัตถุประสงค์ของการฟอร์มทีม ทนายอเวนเจอร์นั้น ก็เพื่อจะช่วยชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ขอยืนยันว่า รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ และเครือข่าย ไม่เคยรับเงิน 2 ทาง และไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ส่วนกรณีที่คุณสินธิ ออกมาแฉข้อมูลต่างๆ ทนายตั้ม ก็ต้องออกมา เครียร์ตัวเอง และต้องดูว่ากรณีเงิน 71 ล้าน ทั้งสองฝ่าย มีการพูดคุยกันในลักษณะไหน ซึ่งทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ส่วนเงิน 71 ล้านก็ต้องดูว่าโอนเข้ามาด้วยเหตุผลอะไร หากเป็นการให้โดยเสน่หาถือว่าเป็นรายได้หรือไม่ เรื่องของภาษี ทนายทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าจะต้องจ่ายอย่างไรบ้าง
ส่วนกรณีที่คุณแซน และคนบนเรือ คดีแตงโม ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับทนายตั้มวันนี้นั้น ยอมรับว่า เรื่องนี้ตนเองทราบมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว และทราบมาเป็นปีแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ตนเองเคยไปปฏิบัติธรรม และเจอคนบนเรือ ซึ่งเคยมาเล่าให้ตนเองฟัง และก็รับฟัง พอวันนี้เรื่องดังกล่าวผุดออกมา ตนเองก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร
Advertisement
