พลุลูกไข่บึ้ม! บ้านพังเกือบทั้งหลัง บาดเจ็บสาหัส 1 ราย

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

"ใหม่ ดาวิกา" ไม่ทน! ฟ้องคนด่าแรง เอาเงินมาช่วยเหลือสัตว์

ตำนาน นางนพมาศ จากพิธี "จองเปรียง" สมัยสุโขทัย สู่ประเพณี "ลอยกระทง"

พลุลูกไข่บึ้ม! บ้านพังเกือบทั้งหลัง บาดเจ็บสาหัส 1 ราย ป้าวัย 62 ปี แอบรับจ้างบรรจุ คาดใกล้เทศกาลลอยกระทง เร่งผลิตพลุดอกไม้ไฟ 

วันที่  6 พ.ย. 67 ร.ต.อ.ภาคภูมิ สุรินทะ รอง สว.สอบสวน สภ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งมีเหตุพลุลูกไข่ระเบิด ที่บ้านบ่อสำราญ บ้านเลขที่ 59 หมู่ 6 ต.หนองราชวัตร อ.หนองหญ้าไซ อยู่ติดริมถนนคู่น้ำในหมู่บ้าน จึงรายงานผู้บังคับบัญชา 

ทั้งนี้ ว่าที่นายกองเอก เชษฐา ขาวประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมด้วย พล.ต.ต. วัชรินทร์ ปลอดประสพดี ผบก.ภจว.สุพรรณบุรี น.ส.ธัญญารัตน์ กาญจนรัตน์ นายอำเภอหนองหญ้าไซ และ หัวหน้าพัฒนาสังคมมั่นคงของมนุษย์สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองกำลัง ชุด EOD และเจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรีไปตรวจสอบ 

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว บริเวณพื้นที่หน้าบ้านหลังคากระเบื้องผนังคอนกรีตถูกแรงระเบิดของพลุพังเสียหายเกือบทั้งหลัง เหลือเพียงเสาคอนกรีต และโครงไม้ โดยที่พื้นมีเศษของพลุลูกไข่กระจายเกลื่อนพื้น ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อ นางบำรุง แตงโสภา อายุ 62 ปี เจ้าของบ้านได้รับบาดเจ็บแขนขาดหนึ่งข้าง หน้าอกฉีกขนาดกว้าง อาการสาหัส ญาติช่วยนำส่ง รพ.หนองหญ้าไซ แพทย์เร่งให้การรักษาถูกส่งตัวรักษาที่ รพ.เจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี 

ด้าน น.ส.ธัญญารัตน์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุไม่ได้มีการขออนุญาตบรรจุพลุดอกไม้เพลิง คาดว่าจะลักลอบทำ ซึ่งเบื้องต้นที่บ้านเกิดเหตุพักอาศัยอยู่ด้วยกัน 5 คน เบื้องต้นทราบว่าขณะเกิดเหตุ นางบำรุง ผู้บาดเจ็บ นั่งบรรจุพลุลูกไข่อยู่ที่หน้าบ้าน โดยมีนายเนรมิต แตงโสภา อายุ 35 ปี ลูกชายผู้บาดเจ็บ ขณะเกิดเหตุอยู่ที่หลังบ้านจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ กระทั่งได้ยินเสียงระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่น ลูกชายจึงรีบออกมาดูพบว่า แม่ถูกแรงระเบิดของพลุได้บาดเจ็บ ส่วนบ้านลูกแรงระเบิดพังเสียหายเกือบทั้งหลัง จึงรีบช่วยเหลือแม่นำตัวส่ง รพ.หนองหญ้าไซ ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิดหรือ ชุด EOD กำลังเร่งเคลียร์พื้นที่เกิดเหตุ ส่วนสาเหตุต้องรอให้เจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง 

นายเนรมิต แตงโสภา อายุ 35 ปี ลูกชายผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุที่เห็นแม่น่าจะเป็นที่ตา น่าจะบอดแล้วก็ที่คาง ตนก็ไปส่งที่โรงพยาบาล เหตุเกิดตอน 8 โมงกว่าๆ แล้ว เขาเพิ่งจะเริ่มทำครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 เขาโทรให้ไปเอาแล้วก็มาทำให้เขาได้รับค่าจ้างร้อยละ 10 บาท ตอนเกิดเหตุน่าจะตอนที่เขาลากกระสอบเข้าหน้าบ้านเพราะเขายกไม่ไหว ส่วนสาเหตุตนก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนเหตุได้ยินเสียงก็วิ่งออกมาดูเลยในละแวกใกล้เคียงก็น่าจะมีบ้านอื่นทำบ้าง เพราะบางคนก็ไม่ได้ทำงานอะไร มีอะไรรับจ้างเขา ก็ทำไปเลี้ยงปากเลี้ยงท้องไป ดิ้นรนเอาตัวรอดไป ใครไม่กลัว เขาก็ทำ ใครกล้าๆ กลัวเขาก็ไม่ทำ ในส่วนของบ้านบริเวณหน้าบ้านพังเสียหาย และรถบาดแผล แม่ที่ผมเห็นคือมีดวงตาข้างขวา คาง และมือ 

ตนไม่อยากให้แม่ทำด้วยซ้ำ เคยเตือนเคยบอกแม่ว่าแม่อย่าไปทำเลย เขาก็บอกว่าไม่ทำแล้วจะเอาอะไรกิน ช่วงนี้งานการก็ไม่มี เงินทองก็ไม่มี มีอะไรก็ช่วยๆ กันออกไป ค่ารถ ค่าโรงเรียน ค่าเทอม เพราะแม่เขาเป็นห่วงหลานเขา 

ขณะที่ ว่าที่นายกองเอก เชษฐา ขาวประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในพื้นที่ ต.ทัพหลวง ต.หนองราชวัตร อ.หนองหญ้าไซ ยังมีชาวบ้านหลายจุดลักลอบทำพลุลูกปิงปองประทัดไล่นก ได้สั่งกำชับ นายอำเภอหนองหญ้า ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ทุกพื้นที่ของอ.หนองหญ้าไซ สั่งตรวจว่ามีจุดที่ไหน แอบลักลอบทำ ยิ่งช่วงใกล้เทสกาล จะมีการแอบลักลอบทำเพื่อส่งขายในช่วงเทศกาลลอยกระทง เทศกาลปีใหม่

“กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นะรู้ดีว่าบ้านไหนเป็นคนนำเข้ามา ให้ชาวบ้านลักลอบทำ ให้มีมาตรการเด็ดขาด” ว่าที่นายกองเอก เชษฐา กล่าว