อ.อ๊อด ตี่ลี่ฮวงจุ้ย ปฎิเสธทุกข้อหา ยันไม่ได้หนีออกนอกประเทศ
คอนเทนต์แนะนำ
ตี่ลี่ฮวงจุ้ย ปฎิเสธทุกข้อหา ทั้งฟอกเงิน-ฉ้อโกง ยันไม่ได้หนีออกนอกประเทศ บิ๊กก้อง คาด อ.อ๊อด ตั้งใจที่จะสู้คดี อึ้งมูลค่าความเสียหาย 108 ล้าน
วันที่ 11 พ.ย. 67 ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงผลการจับกุม นาย ธนวันต์ จิรเจริญเวศน์ หรือ อ.อ๊อด หรือ ตี่ลี่ฮวงจุ้ย หมอดูซินแสชื่อดังนั้นว่า
กรณีนี้ได้รับมอบหมายจาก ผบ.ตร.ที่มีความห่วงใยประชาชน โดยเน้นย้ำเรื่องกรณีที่มีการฉ้อโกง หรือหลอกลวงประชาชน ซึ่ง ผบ.ตร.เป็นห่วงทุกข์สุขของประชาชนมอบหมายให้ตำรวจสอบสวนกลางเข้ามาดูคดีนี้
สำหรับคดีนี้มีผู้เสียหายรายหนึ่งเข้ามาแจ้งความกับเรา ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา จากนั้นตำรวจสอบสวนกลางก็ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา นำโดยกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม จากการสืบสวนสอบสวนทำให้เราได้สอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติมอีกประมาณ 66 ราย รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 108 ล้านบาท โดยพฤติกรรมผู้ถูกกล่าวหา คือได้มีการเปิดบริษัทรับดูฮวงจุ้ย พร้อมทั้งให้สั่งซื้อของ หรือทำพิธีต่างๆ หลายครั้งไม่ได้ของตามที่สั่ง ซึ่งของตามที่สั่งก็คือพวกกิเลน สิงห์คู่ หรืออื่นๆ โดยผู้เสียหายรายหนักจ่ายเงินไปทั้งหมด 65 ล้านบาท โอนเงินไปทั้งหมด 70 กว่าครั้ง
เช่น ค่าซื้อหินพิเศษมูลค่า 30 กว่าล้านบาท อีกทั้งราคาต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งหลายหลายอย่างไม่ได้ตามที่สั่ง เมื่อสั่งของแล้วก็หายไป ส่วนผู้เสียหายรายอื่นๆ ก็จะมีการสั่งบางอย่างหลักล้านบาท ตั้งแต่ปี 63 ถึงปัจจุบันก็ไม่ได้ของ ซึ่งผู้ต้องหามีพฤติกรรมแบบนี้ต่อเนื่องมาเรื่อยๆ เป็นเหตุให้ตำรวจสอบสวนกลางได้ออกหมายจับผู้ต้องหาตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. ซึ่งเราก็ได้ติดตามปรากฏว่าผู้ต้องหาไม่ได้อยู่ในตั้ง เราก็สืบสวนตามอยู่ตลอดอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งได้ตัว เมื่อช่วงเช้าวันนี้ จากนั้นนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงิน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ และจะดำเนินการตามกระบวนการตามยุติธรรมต่อไป
เมื่อถามว่า มีข่าวว่าหนีออกไปทางประเทศเพื่อนบ้านความชัดเจนเป็นอย่างไร พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า เราก็มีข้อมูลอยู่ประมาณนั้นว่ามีการหลบหนี ทั้งในประเทศ และในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบ และรวบรวมพยานหลักฐาน หากมีการยืนยันว่าหนีออกไปนอกประเทศจริง ก็จะมีการดำเนินคดีในข้อหาเข้าออกราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาตอีกทีหนึ่ง อย่างไรก็ตามข้อหาหลักในขณะนี้คือข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงิน แต่ตนเชื่อว่าจากนี้จะมีคดีมากกว่านี้ เพราะมีคนมาแจ้งข้อกล่าวหาเป็นจำนวนมาก ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวน หากผิดข้อหาไหนก็ดำเนินการต่อไป สำหรับผู้เสียหายขณะนี้มีทั้งหมด 67 คน มูลค่าความเสียหายรวม 108 ล้านบาท
เมื่อถามว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้นผู้ต้องหากลับมาที่บ้านทำไม พล.ต.ท.จิรภพกล่าวว่า ก็ไม่ได้พูดชัดเจน เขาก็ไม่ยอมรับว่าเขาหนี และปฏิเสธทุกอย่าง แต่เราก็มีข้อมูลเชื่อว่าเขามีพฤติการณ์หลบหนี ซึ่งเราเชื่อว่าเขาอาจจะตั้งหลัก และตั้งใจที่จะสู้คดี ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ต้องหา เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาว่าจะปฏิเสธหรือยอมรับหรือจะสู้คดีหรือไม่ เราก็จะดำเนินการตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
เมื่อถามว่า จากการสืบสวนคิดว่าเขาทำกันเป็นครอบครัวหรือไม่ พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ตนไม่อยากไปพูดถึงคนอื่น เพราะคุณพ่อเขาก็เป็นนักดูฮวงจุ้ยเหมือนกัน แต่เราไม่พบว่ามีใครมาร้องทุกข์กล่าวโทษเขา ซึ่งมีแต่ตัวเขาเองที่ถูกผู้เสียหายกล่าวโทษ และเราก็ไปตรวจสอบ ซึ่งก็มีมูลตามที่ผู้เสียหายกล่าวโทษ ทางตำรวจจึงเสนอข้อเท็จจริงให้ศาลพิจารณา ปรากฏว่าศาลก็เห็นว่ามีหลักฐานพอสมควรจึงออกหมายจับให้ และเราก็ดำเนินการจับกุมตามหมายจับ
“ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจตามตัว ตั้งแต่มีหมายจับออกมา แต่ผู้ต้องหาไม่ได้อยู่บ้านเราก็ตามไปบริเวณชายแดน สุดท้ายผู้เสียหายกลับมาที่ผู้ต้องหากลับมาที่บริเวณบ้านของตัวเอง ซึ่งเราก็ติดตามอยู่ตลอด พอเราทราบก็ดำเนินการจับกุมทันที เมื่อเวลาประมาณ 04.30 น. ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่จัดชุดติดตามตัวอยู่ตลอด และมองไปถึงการข้ามไปประเทศเพื่อนบ้าน เรามีข้อมูลพอสมควร คนของเรามอนิเตอร์อยู่ทุกที่ และล็อกทุกพื้นที่ แต่สุดท้ายข้อมูลที่เรามีคือ ผู้ต้องหากลับมาปรากฏตัวอยู่ที่บริเวณแถวบ้าน เราก็ดำเนินการจับกุม ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเราก็จะตามไป”
Advertisement
