วันนี้ (29 เม.ย.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า จากกรณีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ออกมาเปิดเผยว่าครม.มีมติเมื่อวันที่ 17 มี.ค.2563 ให้จัดสรรงบประมาณ งบกลาง จำนวน 65 ล้านบาทผลิตหน้ากากผ้าและแจกจ่ายให้ประชาชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงพื้นที่เสี่ยงอื่น จำนวน 10 ล้านชิ้น เพิ่มเติมจากที่กระทรวงมหาดไทยได้ผลิตหน้ากากสำหรับแจกจ่ายให้ประชาชนในส่วนภูมิภาค จำนวน 50 ล้านชิ้น เพื่อลดปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัย และป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า หน้ากากผ้าที่แจกจ่ายให้ประชาชนผ่านไปรษณีย์มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งเรื่องจำนวนที่แจกแค่ครอบครัวละ 1 ชิ้น และคุณภาพหน้ากาก ซึ่งรศ.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เปิดเผยว่าหน้ากากที่นำมาแจกให้ประชาชนนั้น ไม่ตรงคุณสมบัติที่กระทรวงกำหนด เพราะไม่มีลวดล็อกตรงจมูกตามที่กำหนด และเมื่อทดลองเทน้ำลงบนหน้ากากผ้า น้ำก็รั่วซึมทันที สวนทางกับคุณสมบัติที่แจ้งไว้ข้างบรรจุภัณฑ์ และยังได้ทดลองเปรียบเทียบกับหน้ากากอนามัยที่ขายในร้านขายยา ให้เห็นถึงความแตกต่างเรื่องการกันน้ำอย่างชัดเจน สุดท้ายจึงได้ผลการประเมินว่า หน้ากากอนามัยของกระทรวงอุตสาหกรรม ยังไม่ผ่านมาตรฐานหน้ากากที่ใช้ป้องกันเชื้อโรค
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ศรีสุวรรณ" ร้อง สตง. สอบการไฟฟ้า ส่อทุจริตจัดซื้อ สาเหตุต้นทุนค่าไฟแพง
"ตรวจสอบสถานะ" การจัดส่ง "หน้ากากผ้า" จากรัฐบาล ผ่าน www.หน้ากากไทยต้านโควิด.com
เผยโฉม "หน้ากากผ้า" จากรัฐบาล เตรียมจัดส่งถึงมือ ชาวกรุงฯ-ปริมณฑล กลาง เม.ย. นี้
ดังนั้นจึงเป็นคำถามของคนในสังคมว่าเมื่อหน้ากากไม่ผ่านมาตรฐานป้องกันเชื้อโรคไม่ได้เอามาแจกให้ประชาชนทำไม และการใช้จ่ายงบประมาณ 65 ล้านบาท มีประสิทธิผลและคุ้มค่าหรือไม่ จากข้อมูลการดำเนินการของกระทรวงอุตสาหกรรม ในการผลิตและจัดส่งหน้ากากผ้า 10 ล้านชิ้นนั้นแจ้งว่าส่งไปยังบ้านเรือนประชาชนตามบ้าน 5.6 ล้านชิ้น จำนวน 3,050,000 ครัวเรือน อีก 4.4 ล้านชิ้น ส่งตามหน่วยงาน
หากประเมินค่าใช้จ่ายเป็นค่าผลิตหน้ากากผ้า 10 ล้านชิ้น ชิ้นละ 2.5 บาท 25 ล้านบาท ค่าซองน้ำตาลจดหมาย 3,050,000 ซอง ซองละ 0.50 บาท รวม 1,525,000 บาท ค่าซองพลาสติก 3,050,000 ซอง ซองละ 0.25 บาท รวม 762,500 บาท ค่าส่งจดหมาย 3,050,000 ชิ้น ชิ้นละ 2.25 บาท รวม 6,862,500 บาท รวมทั้งหมดประมาณ 34 ล้านบาท แล้วงบประมาณอีก 30 ล้านบาทหายไปเข้ากระเป๋าใครหรือไม่ อย่างไร
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความไปร้องเรียนต่อผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ในวันที่ 30 เม.ย.63 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ซ.อารีย์ พญาไท กทม. เพื่อให้ใช้อำนาจตามกฎหมายและตามรัฐธรรมนูญในการตรวจสอบว่าการใช้จ่ายงบประมาณ 65 ล้านบาทมีประสิทธิผลและคุ้มค่าหรือไม่ หากพบการกระทำที่ส่อไปในทางมิชอบให้ดำเนินการเอาผิดตามครรลองของกฎหมายต่อไป
Advertisement