วันนี้ (15 พ.ย.67) ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.บัญชา ศรีสุข รอง ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.ฐาปกรณ์ หนุมาศ ผกก.3 บก.สอท.5 ได้ทำการจับกุมตัวนายสุเทพ หรือนกยูง จูม่วง อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่จ.566/2567 ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2567 ข้อหา ร่วมกัน ฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน เปิดหรือยินยอม ให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนโดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด ได้ที่บริเวณข้างบ้านเลขที่ 45/7 หมู่บ้านหนองแจง หมู่ 7 ต.วังศาลา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายอายุ 19 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของนายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาหาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม สอบถามว่าได้เปิดบัญชีธนาคารกรุงไทย ให้นายสุเทพ ผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้หรือไม่
เมื่อผู้เสียหาย ปฏิเสธว่าไม่ได้เปิดบัญชี จึงหลอกว่า เพื่อเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ ให้ติดต่อทางบัญชีไลน์ ชื่อ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และให้ถ่ายบัตรประชาชนส่งทางข้อความไลน์ สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเงินในบัญชี และต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ด้วยความกลัวผู้เสียหาย ได้โอนเงินให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ครั้งแรก 56,000 บาท หลังจากนั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีการเปิดวิดีโอคอลพูดคุยกับผู้เสียหาย โดยอีกฝ่ายใส่ชุดเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้หลงเชื่อว่าเป็นตำรวจจริงโอนเงินอีก 2 ครั้ง จำนวน 100,000 บาท และ 101,000 บาท จากนั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกให้ผู้เสียหายกลับบ้านที่ต่างจังหวัด เพื่อไปหาเงิน ไม่เช่นนั้นจะทำให้ พ่อ รวมถึงญาติพี่น้องเสื่อมเสียชื่อเสียง และจะแบล็คเมล์รูปที่วิดีโอคอลกันไว้ ผู้เสียหายจึงได้เดินทางกลับไปที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ไปเอาเงินที่ยายแล้วโอนเงินให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีก 393,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 650,000 บาท หลังจากนั้นผู้เสียหายเริ่มรู้สึกผิดสังเกต เกรงว่าจะถูกหลอกอีกจึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดี
จากการสอบสวนนายสุเทพ ให้การยอมรับว่า ได้รับจ้างเปิดบัญชีจากนายหน้าชาวจีน และได้ข้ามไปฝั่งประเทศกัมพูชา โดยช่องทางธรรมชาติ ฝั่ง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อไปสแกนหน้าถอนเงินแล้วกลับมาฝั่งไทย โดยไม่รู้ว่าผู้เสียหายเป็นใคร
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
Advertisement