เจ๊พัช กฤษอนงค์ แจงแล้ว! ปมคลิปเสียงอ้างชื่อ รัฐมนตรีน้ำ

เจ๊พัช กฤษอนงค์ แจงแล้ว! ปมคลิปเสียงอ้างชื่อ รัฐมนตรีน้ำ อ้างโดนตัดต่อบางช่วง โอดกระแสสังคมตัดสิน ขอพึ่งพาอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยด้วย 

จากกรณีที่มีคลิปเสียงนักร้องเรียนสาว พูดคุยกับชายคนหนึ่งที่คาดว่าคือ บอสพอล หรือ นาย วรัตน์พล วรัทน์วรกุล ผู้ต้องหา คดีดิไอคอนฯ อ้างว่า “ต้องนำเงินให้พ่อของรมต.น้ำ และได้ตั้งเป็นคณะทำงาน” 

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

"ใหม่ ดาวิกา" ไม่ทน! ฟ้องคนด่าแรง เอาเงินมาช่วยเหลือสัตว์

ตำนาน นางนพมาศ จากพิธี "จองเปรียง" สมัยสุโขทัย สู่ประเพณี "ลอยกระทง"

จนต่อมา น.ส. จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมายืนยันไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว ไม่เคยคุย ไม่เคยทำงาน ไม่เคยใช้งาน ทั้งทางตรงและทางอ้อม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น 

ล่าสุดวันที่ 15 พ.ย. 67 น.ส. กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ เจ๊พัช ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่ายออนไลน์ โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กเพจ “กฤษอนงค์ เจ๊พัช /Jephat Kritanong Consulting Company Limited” ชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า “สวัสดีค่ะ ขออนุญาตชี้แจงดังนี้” 

“ในกรณีของท่านรัฐมนตรี กฤษอนงค์ขอชี้แจงอย่างตรงไปตรงมาว่าไม่ได้มีความสัมพันธ์ส่วนตัวใดๆ กับท่านรัฐมนตรีเลยค่ะ ไม่เคยพบปะหรือพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวมาก่อน สิ่งที่เกิดขึ้นในคลิปนั้นเป็นเพียงการประสานงานโครงการที่กฤษอนงค์ได้นำเสนอผ่านคนกลาง เพื่อสนับสนุนธุรกิจด้านขายตรงและออนไลน์ เป็นโครงการภาคเอกชนที่ตั้งใจให้เป็นการยกระดับ และให้ความรู้เฉพาะทางเท่านั้น” 

“ในคลิปที่เป็นการสนทนาระหว่างบุคคล 2 คนที่ถูกเผยแพร่ และตัดต่อบางช่วงนั้น เป็นเพียงการสนทนาเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมอาชีพเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาอื่นใด หากการสนทนานี้ส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิด กฤษอนงค์ขอกราบขออภัยท่านรัฐมนตรี น้ำจิราพร สินธุไพร และคุณพ่อท่านอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ขอน้อมรับผิดไว้แต่เพียงผู้เดียวค่ะ” 

“สำหรับกรณีอื่นๆ ที่มีการกล่าวถึงเพิ่มเติม กฤษอนงค์อยากเรียนให้ทราบว่า ทุกคำชี้แจงในที่นี้มาจากความตั้งใจจริงที่จะสื่อสารให้เกิดความเข้าใจ แต่ในขณะเดียวกันการพยายามอธิบายกลับดูเหมือนยิ่งเพิ่มความเข้าใจผิดมากขึ้น กฤษอนงค์เป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาในสังคมที่ไม่มีพลังหรืออำนาจ ไม่มีสื่ออยู่ในมือ ไม่มีอำนาจใดๆ จะไปต่อสู้กับกระแสสังคม ที่ตอนนี้ได้ตัดสินไปแล้ว” 

“ความเชื่อของกฤษอนงค์ที่ว่า “ความจริงจะเอาชนะทุกอย่าง” กำลังเลือนลางลงทุกทีในสถานการณ์นี้ เหลือเพียงความหวังในกระบวนการยุติธรรม ที่จะเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ทุกอย่างคลี่คลายลงได้ แม้ว่าการเดินทางเพื่อค้นหาความยุติธรรมจะเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและหนักหนา ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะมีแรงสู้จนถึงวันที่ความจริงปรากฏหรือไม่” 

“ในเวลานี้กฤษอนงค์ขอพึ่งพาอำนาจแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์และผู้มีบารมีในสังคม ขอให้ทุกท่านที่มีอำนาจหน้าที่ ได้โปรดมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับประชาชนคนธรรมดาในสังคม ขอให้ท่านช่วยพิจารณาและรับฟังเสียงเล็กๆ ของประชาชนในครั้งนี้ว่า การเป็นอยู่ของเราจะเป็นไปอย่างไร หากสื่อและสังคมสามารถตัดสินได้โดยไร้กระบวนการยุติธรรม และหากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ก็แทบไม่มีทางที่ประชาชนอย่างเราๆ จะลุกขึ้นต่อสู้ได้อีก กราบขอบพระคุณ กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ 15 พฤศจิกายน 2567 (กราบขออภัยสื่อมวลชน ช่วงนี้ไม่สะดวกสัมภาษณ์ และออกสื่อใดๆ ก่อนค่ะ)”