Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
บอสปันส่ายหัว! “กฤษอนงค์-ฟิล์ม” แก้ตัว ยันไม่เคยจ้างทำ PR

บอสปันส่ายหัว! “กฤษอนงค์-ฟิล์ม” แก้ตัว ยันไม่เคยจ้างทำ PR

15 พ.ย. 67
18:01 น.
|
54
แชร์

“บอสปัน” แฉจากคุก ยันไม่เคยจ้าง “กฤษอนงค์-ฟิล์ม” ทำ PR เตรียมให้ทนายแจ้งความพยายามฉ้อโกงสัปดาห์หน้า

วันนี้ (15พ.ย.67) นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของบอสพอล ผู้ต้องหาในคดีดิไอคอน เปิดเผยภายหลังเข้าเยี่ยม บอสปัน น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร ว่า ได้มีการพูดคุยกับบอสปัน เกี่ยวกับเรื่องคลิปเสียง และจ่ายเงินให้กับน.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ พัช ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ โดยบอสปันให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า เนื่องจากเมื่อเดือนมิถุนายน คาบเกี่ยวกรกฎาคม ที่บอสพอลไปพบที่บ้าน น.ส.กฤษอนงค์ ในนามของบริษัท และจ่ายเงิน 750,000 บาทนั้น โดยอ้างว่าเป็นการจ่ายเงินเพื่อกำจัดเพจผี แต่สุดท้ายเรื่องก็ไม่จบ บอสพอลจึงโกรธ น.ส.กฤษอนงค์

ทนายวิฑูรย์

จากนั้นเมื่อต้นเดือนตุลาคม ที่บริษัทดิไอคอน กำลังเป็นประเด็นทางสังคม น.ส.กฤษอนงค์ จึงได้ชวนให้บอสพอล มาพูดคุยที่บ้านในนามบริษัท แต่บอสพอลยังคงโกรธ ทำให้บอสปัน เข้าไปคุยแทนในนามของบริษัทดิไอคอน ไม่ใช่ไปในนามส่วนตัว ก่อนที่จะปรากฏคลิปเสียงดังกล่าว จึงทำให้แน่ชัดแล้วว่า เหตุการณ์คลิปเสียง 20 ล้านบาทนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นในนามส่วนตัวของบอสปัน แต่เกิดขึ้นในนามของบริษัทดิไอคอน

ดังนั้น ในเรื่องนี้จะดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.กฤษณ์อนงค์ และฟิล์ม รัฐภูมิ ในนามของบริษัทดิไอคอน ซึ่งตอนนี้ทางบอสพอล ได้รับทราบเรื่องแล้ว อยู่ในระหว่างการเซ็นเอกสารมอบอำนาจในนามนิติบุคคล เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับทั้ง 2 คนในข้อหาพยายามฉ้อโกง คาดว่าน่าจะเป็นภายในสัปดาห์หน้า

ทนายวิฑูรย์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หลังจากที่ตนได้เล่าคดีดังกล่าวให้บอสปันฟังว่า ทั้ง 2 คนได้ออกมาพูดแก้ต่างว่าเป็นการจ่ายเพื่อเป็นค่าแผน PR บอสปันได้แต่ส่ายหัว เพราะไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด ยืนยันว่าทางบริษัทได้จ้าง PR กับบริษัท PR โฆษณายักษ์ใหญ่รายหนึ่ง ไม่เคยจ้างทั้ง 2 คน และทั้ง 2 คนนั้น ก็ไม่ได้ทำธุรกิจ PR แต่อย่างใด

ทั้งนี้ บอสปัน ยินดีที่เรื่องดังกล่าวได้เปิดเผยขึ้นมา และยินดีที่จะให้ทางพนักงานสอบสวนเข้ามาสอบปากคำเรื่องดังกล่าว โดยได้มีการหารือเบื้องต้นเกี่ยวกับคำให้การกับทนายความไว้แล้ว

ทนายวิฑูรย์ ยังได้เปิดเผยอีกว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบว่า ผู้เสียหาย 89 รายที่ น.ส.กฤษอนงค์ เคยเปิดประเด็นมาเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทนั้น เป็นผู้ที่เสียหายจากการลงทุนเปิดบิลในระบบของบริษัทดิไอคอนจริงหรือไม่ เนื่องจากตนมีข้อมูลว่า มีบางคนที่สามารถเบิกสินค้าขายได้ตามปกติ แต่มาอ้างว่าเป็นผู้เสียหายที่ไม่สามารถเบิกสินค้าได้ เรื่องนี้รอตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน และจะเปิดเผยอย่างละเอียดภายในสัปดาห์หน้า หากพบว่าใครไม่ใช่ผู้เสียหายที่แท้จริง ก็จะถือว่าเป็นผู้ร่วมขบวนการเดียวกัน

ส่วนกรณีที่มีการปล่อยคลิปเสียงที่อ้างว่า น.ส.กฤษอนงค์ จ่ายเงิน 10 ล้านบาท ให้ DSI นั้น ตนยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าวและยังไม่ได้ฟังคลิปเสียงดังกล่าว

ทวิฑูรย์ ยังได้เปิดเผยถึงกรณีที่ตัวแทนของบริษัทดิไอคอนถูกอายัดบัญชี ไม่ว่าจะเป็นฝั่งผู้เสียหายที่แจ้งความร้องทุกข์ และตัวแทนที่เป็นพยานให้ฝั่งผู้ต้องหา หลังถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI ตั้งเรื่องสอบสวนความผิดฐานฟอกเงิน โดยเป็นการยึดอายัดแบบไม่ตั้งตัว ทำให้ตัวแทนบริษัทใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ตัวแทนหลายคนก็ได้ออกมาบ่นภายในกลุ่มแชตของตัวแทน โดยทนายความก็ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และเชื่อว่าน่าจะมีตัวแทนถูกอายัดบัญชีมากกว่า 50 ราย แต่ฝั่งผู้เสียหาย ตนไม่ทราบจำนวนว่ามีเท่าไหร่ ในวันนี้ตนจึงนำประเด็นเรื่องดังกล่าวไปคุยกับบอสป๊อป นายหัสยานนท์ เอกชิสนุพงศ์ เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือ

ทนายวิฑูรย์ กล่าวว่า สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากกรณีที่มีการเปิดยุทธการลำเลียงระเบิด โดยให้ผู้เสียหายเข้าไปให้การกับพนักงานสอบสวนว่าบริษัทดิไอคอนเป็นแชร์ลูกโซ่ จึงส่งผลทำให้บริษัทถูกดำเนินคดีในเรื่องแชร์ลูกโซ่ และเมื่อเป็นคดีแชร์ลูกโซ่ ก็จะถูกตรวจเส้นทางการเงิน จนนำมาสู่การอายัดบัญชีของตัวแทนทั้งสองฝ่าย เพราะอาจจะเข้าใจว่าเป็นแม่ข่าย

ดังนั้นจึงจะเห็นแล้วว่า คดีแชร์ลูกโซ่ จึงเปรียบเสมือนเป็นระเบิดที่ส่งผลกระทบทั้งสองฝ่ายเสมือนชื่อยุทธการดังกล่าว จากการพูดคุยกับบอสป๊อบ จึงได้แนวทางเบื้องต้นว่า อยากให้ฝั่งผู้เสียหายที่ไปให้ปากคำกับทางตำรวจไปแก้คำให้การว่าไม่ใช่เรื่องแชร์ลูกโซ่และเป็นธุรกิจจริง ๆ เพียงแต่อาจจะเกิดปัญหาเรื่องการขายสินค้าไม่ได้ เพราะตนก็เชื่อว่ามีผู้เสียหายจำนวนไม่น้อย ที่ได้รับผลกระทบว่าถูกอายัดบัญชี ตนมองว่ายังมีโอกาสในการแก้ไขคำให้การ มิเช่นนั้น ถึงไม่แก้คำให้การคุณก็ต้องเตรียมตัวขึ้นไปให้การในชั้นศาล หากกลายเป็นเรื่องเท็จ ก็อาจจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้และไม่เป็นประโยชน์กับใครเลย พวกคุณอย่าไปเชื่อใครมาก พร้อมทั้งระบุอีกว่า ตอนนี้บรรดาบอสที่ถูกจองจำในเรือนจำและทัณฑสถานนั้นเลยจุดที่โกรธบรรดาผู้เสียหายแล้ว ตอนนี้ต้องมาหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

ส่วนฝั่งตัวแทนที่ไม่ได้เป็นผู้เสียหาย ก็ต้องเตรียมคำให้การเพื่อต่อสู้ข้อกล่าวหาเรื่องแชร์ลูกโซ่เช่นเดียวกัน และต้องยืนยันได้ว่าเงินที่ได้มาเป็นเงินจากการขายสินค้า โดยสัปดาห์หน้าตนจะพาพยานตัวแทนเหล่านี้ไปหารือกับทาง DSI เพื่อสอบปากคำอีกครั้งในข้อต่อสู้ข้างต้น

Advertisement

แชร์
บอสปันส่ายหัว! “กฤษอนงค์-ฟิล์ม” แก้ตัว ยันไม่เคยจ้างทำ PR