ภรรยา-ลูกหมอบุญ โผล่มอบตัวตำรวจ หลังมีชื่อในหมายจับฉ้อโกง-ฟอกเงิน ปฏิเสธไม่เกี่ยวข้อง อ้างโดนปลอมลายเซ็น
จากกรณีของ นพ.บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี พร้อมภรรยา ลูกสาว และพวกรวม 9 คน ที่ถูกตำรวจออกหมายจับในความผิดฐานฉ้อโกง-ฟอกเงิน โดยตำรวจควบคุมตัวได้เเล้ว 6 ราย และได้มีการนำตัวส่งศาลอาญาฝากขังเรียบร้อยเเล้ว
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา (23 พฤศจิกายน 2567) นางสาวจารุวรรณ และนางสาวนลิน ภรรยาและลูกสาวของนายแพทย์บุญ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาได้เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 เพื่อสู้คดี
โดยระหว่างที่ทั้งสองเดินขึ้นไปที่ห้องประชุม นักข่าวพยายามสอบถามนางสาวจารุวรรณ ว่ามีส่วนรู้เห็นกับการกระทำของหมอบุญ ผู้เป็นสามีหรือไม่ และเมื่อเป็นครอบครัวเดียวกันเหตุใดจึงต้องปลอมลายเซ็น เจ้าตัวตอบเพียงสั้นๆว่าไม่ทราบ และเมื่อนักข่าวสอบถามว่าต้องการพูดหรือชี้แจงสิ่งใดหรือไม่ เจ้าตัวและลูกสาวก็ตอบว่าไม่มี แล้วนิ่งเงียบไม่ตอบอะไรอีก ก่อนจะเดินเข้าห้องประชุมด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย
ด้าน นายชำนาญ ชาดิษฐ์ ทนายความของทั้งสองคน ยืนยันว่า ลูกความไม่ทราบและไม่ได้มีส่วนรู้เห็น ทั้งสองคนโดนปลอมลายเซ็น ก่อนจะเดินเข้าห้องไป และเมื่อออกมาพบกับสื่อมวลชนอีกครั้งก็ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า วันนี้ลูกความปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และยังยืนยันว่าลูกความทั้งสองคนถูกปลอมลายเซ็นโดยบุคคลหนึ่งและได้มีการแจ้งความดำเนินคดีไว้หลายครั้ง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือที่กองบังคับการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจหรือ บก.ปอศ. ซึ่งกรณีที่โดนออกหมายจับนี้ เจ้าตัวพบว่ามีการปลอมแปลงลายเซ็นช่วงระหว่างปี 2566-2567 หลายครั้ง โดยสาเหตุที่ทราบว่าลายเซ็นดังกล่าวถูกปลอมแปลงเนื่องจากลักษณะเฉพาะของลายเซ็นถูกปลอมและมีความไม่เหมือนอย่างชัดเจนหลายจุด เช่นจากก.ไก่ เป็นว.แหวน
ประเด็นนี้นักข่าวได้สอบถามว่าเหตุใดจึงไม่ส่งตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ให้เกิดความชัดเจน ทนายความชี้แจงว่าเพราะมองด้วยสายตาก็ทราบว่ามีความต่างและเคยนำลายเซ็นทั้งสองไปใช้ประกอบในชั้นศาล พร้อมทั้งแจ้งความดำเนินคดีมาแล้ว เพียงแต่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อให้เป็นข่าว ช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาหลายคดี โดยเอาผิดสามีและทุกคนที่ทำให้เกิดความเสียหาย แต่ปฏิเสธที่จะตอบว่าใครที่ทำให้เกิดความเสียหายบ้าง โดยไม่ทราบว่าบุคคลที่ปลอมแปลงเป็นใคร แต่ยืนยันว่าได้มีการฟ้องร้องและแจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว เมื่อนักข่าวถามว่า ลูกความเชื่อหรือไม่ว่าผู้ที่ปลอมแปลงลายเซ็นคือสามีและบิดาของตัวเอง ทนายความเปิดเผยว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น เนื่องจากลายเซ็นที่ถูกปลอมแปลงในสัญญาเอกสารกู้ยืมคือชื่อของนายแพทย์บุญ ผู้เป็นสามีและบิดา อีกทั้งยังเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากเงินจำนวนดังกล่าว
นอกจากนี้ นักข่าวได้พยายามสอบถามถึงความสัมพันธ์ของทั้ง 3 คน ทนายความระบุว่า นางสาวจารุวรรณได้หย่าร้างกับนายแพทย์บุญมาเป็นเวลานานแล้ว และการปลอมแปลงลายเซ็นหลายครั้งก็เกิดขึ้นหลังจากการหย่าร้าง นอกจากนี้การปลอมแปลงลายเซ็นยังเกิดขึ้นระหว่างที่นางสาวจารุวรรณเดินทางไปยังต่างประเทศหลายครั้ง ตั้งแต่ปี 2561 และมาพบว่ามีการปลอมแปลงลายเซ็นหนักขึ้นช่วงระหว่างปี 2566-2567 ที่เป็นคดีในวันนี้ ส่วนเหตุผลที่ไม่ได้ลงบันทึกประจำวันในสนพื้นที่ที่เกิดเหตุการปลอมลายเซ็น เพราะมีการพบกันปลอมแปลงลายเซ็นเป็นจำนวนมากและมองว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายอาชญากรรมทางเศรษฐกิจจึงตัดสินใจไปแจ้งความที่บก.ปอศ.
Advertisement