จากกรณีเพจดังโพสต์คลิปชายเมาสุราชักปืนยิงขึ้นฟ้า ก่อนจ่อใส่พลเมืองดีที่เข้ามาห้ามปรามกลางซอยทองหล่อ 10 กรุงเทพฯ สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านที่พบเห็น ต่อมาเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.ทองหล่อ ควบคุมตัวเอาไว้ได้ และพบว่าที่ก่อเหตุคือ จ่าสิบตำรวจ มนตรี (สงวนนามสกุล) ตำแหน่ง ผู้บังคับหมู่ งานป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาล ทองหล่อ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง ผบ.หมู่(ป.) สน.ทองหล่อ
หลังเกิดเหตุชุดสืบสวนได้พาตัวมาสงบสติอารมณ์ในห้องขัง เพราะตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์แล้วพบสูงถึง 136 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ พอสร่างเมาเข้าไปสอบถาม ได้ความว่า หลังออกเวรแล้วไปดื่มกินที่ร้านแห่งหนึ่งใกล้ๆ กัน แล้วดื่มหนักไปหน่อย จำไม่ค่อยได้ว่าไปทำอะไรไว้ที่หน้าสถานบันเทิง
ต่อมา พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 ได้มีหนังสือคำสั่งกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ที่ 384/2567 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ล่าสุดวันที่ 17 ธ.ค. 67 พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ เรียกตำรวจในสังกัดทั้งหมด 140 นาย ประชุมปล่อยแถว และข้อสั่งการเกี่ยวกับการใช้อาวุธปืน รวมถึงการดื่มสุราหลังปรากฏข่าวจ่าสิบตำรวจ ก่อเหตุใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงานรักษาความปลอดภัยของสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ย่านทองหล่อ
เบื้องต้นเน้นย้ำกับผู้ใต้บังคับบัญชาเรื่องระเบียบการใช้อาวุธปืน ซึ่งมี 12 ข้อ โดยปืนมีไว้ใช้กับคนร้าย ไม่ใช่สำหรับนำมาข่มขู่ประชาชน หรือผู้บริสุทธิ์ เพราะถือเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม ตัวเองจึงได้เรียกตำรวจทั้งโรงพักมาพูดคุยทำความเข้าใจ ซึ่งในฐานะที่ตัวเองเป็นผู้บังคับบัญชาไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ ใครกระทำความผิดก็ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย เพราะกฎหมายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยนอกจากเน้นย้ำแล้วยังได้แจก เอกสารซึ่งเป็น คู่มือระเบียบ การใช้อาวุธปืนและโทษการดื่มสุรา
นอกจากนี้ยังสั่งการให้รองผกก. สารวัตร ร้อยเวร กำชับสั่งการผู้ใต้บังคับบัญชาในการออกปฎิบัติหน้าที่ ขอให้ทุกคนมีสติ รักใคร่กลมเกลียว หากพบการกระทำความผิด ก็ขอให้มีการปรับเปลี่ยนหน้าที่ โดยไม่ต้องพบปะประชาชน
จากนั้นได้สั่งการให้ตำรวจทั้ง 140 นาย รวมทั้งตัวเองกอดคอลุกนั่ง 10 ครั้งพร้อมกันเพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบร่วมกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะมีการปล่อยแถว และร่วมกันรับประทานอาหาร เพื่อแสดงถึงความรักความสามัคคี
ส่วนการดำเนินคดีกับตำรวจที่ก่อเหตุในวันดังกล่าว ขณะนี้ทางญาติได้ยื่นขอประกันตัว ในวงเงิน 150,000 บาท เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราว และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มอีก 1 ข้อหาคือ ข่มขู่ทำให้ตกใจกลัว จากเดิมที่แจ้ง 3 ข้อหาคือ ครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในที่สาธารณะ ส่วนทางวินัย ขณะนี้ได้ให้ออกจากราชการไว้ก่อน โดยไม่ได้รับเงินเดือน และสวัสดิการต่างๆ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา
Advertisement