ที่สุดแห่งปี 2567 "โศกนาฏกรรมไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาคร่า 23 ศพ"
อมรินทร์ทีวี จะพาย้อนข่าวที่สุดแห่งปี 2567 "โศกนาฏกรรมไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาคร่าชีวิต 23 ศพ"
"ตุลาคม" เดือนที่ใคร ๆ ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นเดือนแห่งความร้อนแรง เพราะเริ่มต้นมาก็เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 1 ตุลาคม รถบัสนำนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี เดินทางมาทัศนศึกษาอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เกิดเหตุไม่คาดคิด เมื่อล้อหน้าข้างซ้ายแตกจนรถเสียหลักพุ่งชนกับเกาะกลางถนน ทำให้เกิดประกายไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ขณะกำลังเดินทางไปดูงานต่อที่ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. จ.นนทบุรี โดยเหตุเกิดบนนถนนวิภาวดีรังสิต ขาเข้า เยื้องห้างเซียร์ รังสิต ทำให้มีนักเรียนระดับชั้นอนุบาลและประถมศึกษาเสียชีวิตอย่างน่าสลด 20 ราย นอกจากนี้ ยังสูญเสียคุณครูที่ดูแลนักเรียนจนนาทีสุดท้ายไปอีก 3 ท่าน ยังความเศร้าสลดให้คนไทยทั้งประเทศ
คอนเทนต์แนะนำ
พิสูจน์หลักฐานและผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า รถบัสคันนี้มีอายุการใช้งานมากกว่า 50 ปี แถมยังดัดแปลงติดตั้งถังแก๊ส NGV เกินกว่ากำหนด จึงทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ประตูฉุกเฉินด้านหลังไม่สามารถเปิดได้ จึงทำให้เกิดการสูญเสียมากถึงเพียงนี้
แค่นั้นยังไม่พอ ขณะเกิดเหตุชุลมุน คนขับได้หลบหนีไป ก่อนที่ต่อมาจะขอเข้ามอบตัว พนักงานสอบสวนแจ้ง 4 ข้อหาหนัก ได้แก่ ขับรถโดยประมาทหวาดเสียว, ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล และไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือถึงแก่ความตาย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์รักษาพยาบาลแก่นักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ และทรงมีพระเมตตาพระราชทานแก่ครอบครัวผู้สูญเสีย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับศพผู้เคราะห์ร้าย ทั้ง 23 ราย ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์โดยตลอด นอกจากนี้ ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ไปพระราชทานเพลิงศพที่สนามโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี
นำมาซึ่งข้อถกเถียงอย่างกว้างขวางในสังคม จนเกิดแฮชแท็ก #ยกเลิกทัศนศึกษา ผู้ปกครองบางส่วนสนับสนุนให้ยกเลิกจัด เพราะมองว่าการตัดไฟแต่ต้นลมอาจเป็นทางออกที่ดีกว่า บางส่วนเห็นแย้ง แนะนำให้จัดได้ แต่ต้องไม่ใช่การเดินทางไกลแบบนี้ หรือหากจำเป็นต้องเดินทางข้ามจังหวัดก็ควรเลือกระดับชั้นที่เหมาะสม เพราะเด็กเล็กยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ นอกจากนี้ มีชาวเน็ตจำนวนไม่น้อย ระบุว่า การทัศนศึกษา ไม่ใช่ต้นเหตุที่ทำให้เด็กต้องจบชีวิต แต่เป็นเพราะความประมาทของผู้ใหญ่มากกว่า ทั้งในเรื่องของการดูแลบำรุงรักษารถบัส ไหนจะเรื่องการซ้อมแผนเผชิญเหตุ ฉะนั้นการทัศนศึกษาไม่ใช่จำเลยของสังคม
เหตุการณ์อันเศร้าสลดนี้ เป็นการตอกย้ำให้สังคมไทยตระหนักถึงการให้ความสำคัญของความปลอดภัยบนท้องถนน ปัญหาการคมนาคมขนส่งสาธรณะที่ล้มเหลว แล้วทางแก้ไขคืออะไร หากเรื่องนี้ไม่เกิดขึ้นกับครอบครัวของผู้มีอำนาจ ก็คงอาจไม่เข้าใจ แล้วเราจะป้องกันมันได้อย่างไร เชื่อว่าทุกคนต่างก็พอรู้คำตอบ และช่วยกันป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก
Advertisement
