เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 2 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) หรือ หมอชิต บริเวณชานชาลาจุดจอดรถขาเข้าได้มีประชาชนทยอยเดินทางกลับมาจากภูมิลำเนา เพื่อกลับเข้ามาทำงานในกทม.อย่างคึกคัก หลังจากหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568
โดย น.ส.ระพิพรรณ วรรณพินทุ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารการเดินรถ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อย และอำนวยความสะดวก เพื่อรองรับประชาชนที่เดินทางกลับเข้า กทม. หลังกลับภูมิลำเนาไปร่วมกิจกรรมฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่า 2567-ต้อนรับปีใหม่ 2568 กับครอบครัว
น.ส.ระพิพรรณ กล่าวว่า จำนวนผู้โดยสารกลับมาจากต่างจังหวัดวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 110,000 คน ถือว่าเป็นวันที่หนาแน่นที่สุด เนื่องจากเป็นการทำงานวันแรกหลังจากช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ แต่วันที่คาดว่าจะหนาแน่นอีกวันหนึ่งก็คือวันที่ 5 ม.ค.โดยคาดการณ์จากจำนวนการสำรองที่นั่ง น่าจะมีประชาชนเดินทางกลับราว 80,000 คน เพราะประชาชนบางส่วนลางานต่อจนถึงวันที่ 5 ม.ค. แต่ยืนยันว่ารถมีจำนวนเพียงพอแน่นอน
อย่างไรก็ตามเมื่อวานนี้ ( 1 ม.ค. 68) มีจำนวนผู้เดินทางกลับราว 80,000 คน พบว่ามีปัญหาเรื่องของรถแท๊กซี่ในช่วงเช้ามีไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้โดยสาร ดังนั้นจึงอยากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนใช้บริการรถโดยสารประจำทางของ ขสมก. ซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าอาคารผู้โดยสารไม่ถึง 100 เมตร และมีบริการถึง 15 เส้นทางครอบคลุมเส้นทางหลักทั่วกทม. และใช้เวลาเดินทางไม่นาน รับรองว่ากลับถึงบ้านได้อย่างรวดเร็ว และสะดวก ส่วนใครที่มีญาติรับก็สามารถนั่งรอได้ที่อาคาร1 ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน
ทั้งนี้ปัญหาเรื่องรถแท็กซี่ที่มีจำนวนไม่เพียงพอต่อผู้โดยสารนั้น เป็นปัญหาที่ทุกภาคการขนส่งเจอ เนื่องจากมีผู้โดยสารเดินทางกลับมาเป็นหลักแสน แต่มีจำนวนแท็กซี่รองรับเพียงหลักพัน โดยเฉพาะในช่วงเช้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนปกติ ก็จะใช้รถแท็กซี่ในการเดินทางไปทำงานด้วยเช่นกัน จึงต้องขอให้ประชาชนหันมาใช้บริการ รถโดยสารประจำทางของ ขสมก.ขึ้น
ส่วนปัญหามิจฉาชีพ การกระชากลากจูงไม่มีเกิดขึ้นในปีนี้ เนื่องจากได้เปลี่ยนอาคารขาเข้ามาเป็นอาคาร1 (อาคารด้านหน้า) เพราะคนที่มีตั๋วเท่านั้นที่จะสามารถเข้าอาคารได้ แต่ก็ขอให้ผู้โดยสารระมัดระวังที่บริเวณด้านนอกอาคารที่อาจจะยังมีผู้ไม่หวังดีเอารัดเอาเปรียบได้
ส่วนเรื่องวินเถื่อน เรื่องนี้ได้ขอกำลังสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่ในส่วนของรถแท็กซี่ที่ปฏิเสธผู้โดยสารสามารถแจ้งได้ที่หมายเลข 1584 เพื่อร้องเรียนได้โดยตรงและในส่วนของมาตรการความปลอดภัย ทั้งขาไปและขากลับได้มีการควบคุมแอลกอฮอล์ โดยร่วมมือกันระหว่าง บขส.และกรมการขนส่งทางบก รวมถึงจีดให้มี Checking point หรือจุดตรวจระหว่างทางตลอดทั่วประเทศเพื่อความปลอดภัยของประชาชน
ทั้งนี้ทาง บขส.ได้ฝากประชาสัมพันธ์มายังประชาชนว่า ใครที่เดินทางกลับหลังช่วงเทศกาลปีใหม่ คือตั้งแต่วันที่ 7-16 ม.ค.นี้จะได้ลดค่าโดยสารของ บขส.10% ไม่รวมค่าธรรมเนียม
Advertisement