วันที่ 14 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.อุดรธานี ที่ลานรับซื้ออ้อยโรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี ต.คำบง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี สมาคมชาวไร่อ้อยอีสานเหนือไทยอุดรธานีบ้านผือ ได้นำเต็นท์เครื่องขยายเสียงนำมาตั้งเพื่อชี้แจงและให้กำลังใจชาวไร่อ้อยที่ไม่สามารถนำอ้อยเข้าโรงงานได้ หรืออ้อยติดคิวทำให้มีรถบรรทุกขนอ้อยตกค้างมากกว่า 1,000 คัน ตั้งแต่วันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมาหลังจากที่โรงงานมีประกาศรับซื้ออ้อยไฟไหม้ไม่เกิน 25%
ขณะที่บรรยากาศที่ลานรับซื้ออ้อยเป็นไปด้วยความเคร่งเครียด มีคณะกรรมการสมาคมชาวไร่อ้อยและชาวไร่ในพื้นที่ที่อ้อยติดคิวได้ผลัดเปลี่ยนกันพูดผ่านเครื่องขยายเสียง เพื่อระบายความเดือดร้อน และมีการนำป้ายผ้าเขียนข้อความเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหา เนื่องจากมองว่านโยบายรับซื้ออ้อยสด 75% อ้อยไฟไหม้ 25% เป็นการมัดมือชก เป็นการออกระเบียบกะทันหัน ทำให้เกิดการตกค้างของอ้อยหน้าลานรับซื้อเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากไม่มีการรับซื้ออ้อยไฟไหม้ชุดนี้จะทำให้เกิดความเสียหายจากอ้อยเน่า และคุณภาพความหวานลดลง
ทั้งนี้ในการแก้ไขปัญหาเมื่อวานนี้(13ม.ค.68)คณะกรรมการของสมาคมชาวไร่อ้อย อีสานเหนือไทยอุดรธานีบ้านผือ ได้ยื่นหนังสือต่อสนง.อุตสาหกรรม จ.อุดรธานี ในฐานะเลขาฯคณะอนุกรรมการบริหารส่วนท้องถิ่นเขต10อุดรธานีผ่านไปยังประธานคณะอนุกรรมการบริหารส่วนท้องถิ่นเขต10อุดรธานี(นายราชันต์ซุ้นหั้วผู้ว่าราชการจ.อุดรธานี) ขอทำการหีบอ้อยไฟไหม้ที่ตกค้างในลานโรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี เบื้องต้นทางจ.อุดรธานีได้นัดหมายให้มีการประชุมการจัดการปัญหาไฟป่าพื้นที่เกษตรไร่อ้อยนาข้าวเร่งด่วนเพื่อรับทราบข้อเท็จในเรื่องนี้ประกอบการพิจารณาแก้ไข
ซึ่งเรื่องดังกล่าวอ้างอิงจากหนังสือสนง.คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายเลขที่อก.0604/ว2177ลว.31ธันวาคม2567 แจ้งเรื่องขอความร่วมมือให้รับอ้อยสดเข้าหีบฤดูการผลิตปี2567/2568เป็นของขวัญวันเด็กประจำปี2568 โดยการขอให้โรงงานน้ำตาลรับเฉพาะอ้อยสดเข้าหีบโดยชะลอระงับยับยั้ง และยุติการเผาไร่อ้อยระหว่างวันที่ 3 ม.ค.2568 เวลา 00.01 น.จนถึงวันที่ 12 ม.ค.2568เวลา 23.59 น.
ในการนี้เพื่อเป็นการให้ความร่วมมือต่อนโยบายของภาครัฐ โรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานีจึงรับอ้อยเข้าหีบในสัดส่วนปริมาณอ้อยสด75%ต่อวันและปริมาณอ้อยไฟไหม้25%ต่อวัน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวทำให้ผู้ส่งอ้อยไฟไหม้ต้องรอคิวในการส่งอ้อยหลายวันก่อให้เกิดปัญหาและความเสียหาย จึงขอความร่วมมือแจ้งสมาชิกชาวไร่อ้อย ทำการตัดอ้อยสดเข้าโรงงานทำให้มีรถบรรทุกอ้อยไฟไหม้ตกค้างในลานจนถึงวันนี้กว่า 1,000 คัน เนื่องจากสามารถนำอ้อยไฟไหม้เข้าโรงงานได้ไม่เกิน 300 คันต่อวัน ซึ่งต้องเฉลี่ยกับอ้อยสดแต่ละวันด้วย เสี่ยงต่อการเน่าเสียและคุณภาพลดล
นายอดิศักดิ์ พรรคพล รองเลขาธิการสมาคมชาวไร่อ้อยอีสานเหนือไทยอุดรบ้านผือ ผู้แทนชาวไร่อ้อยกล่าวว่า ตอนนี้มีอ้อยไฟไหม้ติดคิวมากกว่า 1,000 คันเราก็ต้องเข้าใจทางโรงงานที่ต้องปฏิบัติตามระเบียบทางสมาคมฯเอง ก็ได้มีการเข้ายื่นหนังสือเพื่อแก้ไขปัญหานี้แล้ว ซึ่งมีการสั่งประชุมด่วนในช่วง15.00น.วันนี้ ถือว่ามีความมั่นใจว่าจะได้รับการแก้ไขปัญหา ส่วนตัวคิดว่าจะสามารถนำอ้อยเข้าโรงงานได้ทั้งหมดถ้าไม่มั่นใจก็คงจะเดินหน้าเพื่อช่วยเหลือในเรื่องนี้
“จริงๆวันนี้ว่าจะใส่เสื้อสีดำเพื่อไว้ทุกข์ให้นโยบายของรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหากรรม ผมถือว่าเป็นความรับผิดของรัฐมนตรียังไม่ได้มองภาพรวมของรัฐบาลวันนี้เตรียมตัวว่าจะมาด่าให้มากที่สุด แต่ก็ต้องขอเงียบไว้ก่อนเพราะต้องเข้าไปพูดคุยกับผู้ใหญ่หลายท่านเดี๋ยวจะคุยกันไม่รู้เรื่องก็จะขอเป็นฝ่ายบุ๋น เพราะฝ่ายบู๊มีเยอะแล้วและหากว่ามันหนักมากกว่านี้ ก็อยากจะถามชาวไร่อ้อยทุกท่านว่าพร้อมจะปิดถนนกันหรือไม่”
นายอุดม วงษ์เคน อายุ 71 ปี ชาวไร่อ้อยอ.บ้านผือ ให้ข้อมูลว่าเราเองก็พร้อมทำตามนโยบายแต่รถบรรทุกของเราถูกขังไว้ในนี้เพราะเป็นอ้อยที่ถูกไฟไหม้เขาไม่รับซื้ออ้อยสด เราก็ตัดไว้แล้วแต่ไม่มีรถไปขนจะให้เราทำอย่างไรปัญหาการเผาอ้อยเกิดในกระบวนการการตัดอ้อยเนื่องจากพนักงานตัดอ้อยไม่อยากตัดอ้อยสดเพราะรายได้น้อยขนาดเราให้อ้อยสดตันละ200บาทเขาก็ไม่เอา เขาไม่พอกินถามว่าเราเองทำได้มั้ยก็ทำไม่ได้เพราะเราแก่แล้ว
“นโยบายรับซื้ออ้อยไฟไหม้25%ทำให้เราเดือดร้อนมากเขาหักดิบเราเลยไม่มีการเตือนเรารับมือไม่ทันผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่เห็นตนต้องมาติดอยู่ที่นี่นานกว่า 3 วันแล้วรถต้องติดอยู่ในนี้เราอยากให้ระบายรถในส่วนนี้ออกก่อนได้หรือไม่ เราไม่มีรถไปขนอ้อย ส่วนโยบายเชื่อเหลือลดการเผาอ้อยไร่ละ 1 พัน ตนมองว่ามันไม่คุ้มการตัดอ้อยสดมีต้นทุนมากกว่านั้นหากรัฐบาลอยากจะช่วยจริงๆอยากให้ช่วยผลักดันอ้อยสดให้ถึงตัน 200 บาทยังจะดีกว่าน่าจะอยู่ได้”
ขณะที่นางธัญรดา โชคดี อายุ 47 ปีชาวไร่อ้อย อ.บ้านผือ ให้ข้อมูลกลางวงพูดคุยว่าตนเป็นโควตาน้อยเป็นเกษตรกรรายเล็ก ยอมรับว่าจำเป็นต้องทำอ้อยไฟไหม้เพราะไม่มีคนงานหากทำอ้อยสด คนงานมาทำงานได้แค่ 2 คนตัดยังไงมันจะถึง 1 คันรถอันที่เผาไปแล้วก็ยังต้องมาติดอยู่ในนี้ หากใช้นโยบายรับอ้อยสดคนที่มีทุนน้อยเงินน้อยจะอยู่ยังไง ใครจะไปตัดอ้อยได้เร็วขนาดนั้นอุตสาหกรรมอ้อยถือเป็นอาชีพหลักของชาวไร่อีสาน คิดน้อยใจสส.อยู่บ้างมาหาเสียงก็บอกจะช่วยเหลือ ตอนนี้ก็อยากเห็นการมีปากเสียงในสภาบ้างช่วยเหลือกันบ้างอยากให้ลงมาดูแลกันบ้าง
Advertisement