เปิดค่าใช้จ่าย หากคุณต้องการขึ้น “เอเวอเรสต์” ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก ดูกันว่าต้องเตรียมตัวอย่างไร และใช้เงินเท่าไหร่?
ความฝันของนักปีนเขาแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประสบการณ์ และเป้าหมายของแต่ละบุคคล แต่มีนักปีนเขาจำนวนไม่น้อยที่มีความฝันที่จะเดินทางไป “พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์” แต่การจะไปถึงจุดสูงสุดของโลกได้นั้น ต้องมีการเตรียมพร้อมทั้งความแข็งแกร่งทางกายภาพและจิตใจ รวมไปถึงการเตรียมตัวที่มีความรอบคอบเป็นอย่างมาก การพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นกิจกรรมที่อันตรายและต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูง ควรเตรียมความพร้อมและหาข้อมูลก่อนการเดินทาง
ยอดเขา “เอเวอเรสต์” Everest หรือที่ชาวทิเบตเรียกที่แห่งนี้ว่า “ยอดเขาโชโมลังมา” Mount Qomolangma หรือ “จูมู่หลั่งหม่า” เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในแนวเทือกเขาหิมาลัย โดยฤดูการปีนเขายอดเขาเอเวอเรสต์จะอยู่ในช่วงเดือน พฤษภาคมและตุลาคม การปีนเขาเอเวอร์เรสต์ มีจุดเริ่มต้นมีอยู่ 2 เส้นทาง คือแคมป์ฝั่งเนปาล ทางด้านใต้ของเมืองลุคลา Lukla และเบสแคมป์ ทางด้านเหนือจากฝั่งทิเบต
หากคุณกำลังวางแผนที่จะไปพิชิตยอดเขาแห่งนี้ ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเอเวอเรสต์ให้ละเอียดก่อนการเดินทาง และข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่มีความสนใจที่จะเดินทางไปเยือนที่แห่งนี้สักครั้งหนึ่งในชีวิต
เตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง
ความพร้อมทางร่างกาย - ควรฝึกซ้อมการปีนเขาในระดับสูงมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการออกกำลังกาย ฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ต้องมีประสบการณ์ในการปีนเขาสูงชัน จะช่วยให้ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมบนเขาเอเวอเรสต์ได้ดียิ่งขึ้น
ใบรับรองแพทย์ – ข้อกำหนดทางกฎหมายการปีนเขาเอเวอเรสต์ ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ (Medical Certificate) เพื่อยื่นขอพาสปอร์ตใบอนุญาตปีนเขา (Climbing Permit) และยืนยันว่าคุณมีสภาพร่างกายพร้อมสำหรับการปีนเขาในพื้นที่สูง
ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพก่อนการเดินทาง การมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงจะช่วยลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยและอุบัติเหตุระหว่างการปีนเขา เนื่องจากบนเขามีสภาพอากาศที่รุนแรง มีอุณหภูมิต่ำ ลมแรง และหิมะตกหนัก อาจจะเกิดอุบัติเหตุและบาดเจ็บได้ตลอดเวลา
ไกด์ท้องถิ่น – ไกด์ท้องถิ่นหรือไกด์ชาวเชอร์ปามีความรู้ความสามารถในการปีนเขาเป็นอย่างมาก พวกเขารู้จักเส้นทางที่ปลอดภัย วิธีการตั้งแคมป์ และวิธีการเอาชีวิตรอดในสภาพอากาศที่เลวร้าย แพคเกจที่คนส่วนใหญ่ใช้คือมีไกด์เชอร์ปาประจำตัว 1 คน ออกซิเจนประมาณ 7 ถัง หรือเชอร์ปา 2 คน สำหรับคนที่ต้องการความปลอดภัยและความช่วยเหลือมากขึ้น
ในกรณีบางคนที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ หรือแบบกลุ่มพร้อมจ่าย อาจใช้เชอร์ปา 3-4 คน ซึ่งราคาก็มากขึ้นตาม โดยส่วนใหญ่แล้วการปีนเขาเอเวอเรสต์จะรวมการจ้างเชอร์ปาไว้ในแพ็กเกจทัวร์ปีนเขา
ราคาแพคเกจทัวร์ - แพ็กเกจแบบประหยัด (Budget Package) ราคา 30,000 - 40,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1 – 1.3 ล้านบาท) รวมไกด์เชอร์ปาและบริการขั้นพื้นฐาน
แพ็กเกจแบบเต็มรูปแบบ (Full-Service Package) ราคา 50,000 - 85,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.6 – 2.8 ล้านบาท) รวมไกด์ส่วนตัว ทีมสนับสนุน อาหาร และอุปกรณ์ที่จัดเตรียมให้
แพ็กเกจระดับหรู (Luxury Package) ราคา 90,000 - 120,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3 -4 ล้านบาท) รวมบริการแบบพรีเมียม เช่น เฮลิคอปเตอร์ ที่พักระดับสูง และทีมงานส่วนตัว
ประกันภัยการเดินทาง – การทำประกันภัยการเดินทางที่ครอบคลุมการปีนเขาสูงชันเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญมาก สำหรับการปีนเขาเอเวอเรสต์ เนื่องจากมีหลายความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เช่น อุบัติเหตุ การเจ็บป่วยในพื้นที่สูง ภาวะขาดอากาศหายใจ ซึ่งการซื้อประกันที่ครอบคลุมจะช่วยป้องกันค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าการประกันภัยของคุณครอบคลุมทั้งการเดินทางของคุณ
ราคาของประกันจะขึ้นอยู่กับ ระดับความสูงที่ต้องการครอบคลุม บริษัทประกันส่วนใหญ่กำหนดความคุ้มครองสำหรับพื้นที่ที่สูงกว่า 6,000 เมตร การปีนเขาเอเวอเรสต์ 8,849 เมตร จะต้องใช้ประกันที่ครอบคลุมถึงความสูงระดับนี้ โดยระยะเวลาเดินทาง การปีนเขาเอเวอเรสต์มักใช้เวลาราว 40-60 วัน ราคาประกันจะเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาที่คุณเดินทาง
ราคาประกันโดยประมาณ - แผนพื้นฐาน (Basic Plan) 150 - 300 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 5 พัน – 1 หมื่นบาท) ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลและอุบัติเหตุในพื้นที่สูงถึง 6,000 เมตร ไม่รวมบริการอพยพทางอากาศ
แผนมาตรฐาน (Standard Plan) 400 – 700 (ประมาณ 1.3 – 2.3 หมื่นบาท) ดอลลาร์สหรัฐฯ ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล การอพยพทางอากาศ และการเจ็บป่วยในพื้นที่สูงถึง 8,000 เมตร
แผนพรีเมียม (Premium Plan) 800 - 1,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.6 – 5 หมื่นบาท) ครอบคลุมครบทุกอย่าง รวมถึงการเสียชีวิต ทุพพลภาพถาวร การยกเลิกทริป และการอพยพทางเฮลิคอปเตอร์ การคุ้มครองที่รวมถึงบริการอพยพฉุกเฉิน เช่น เฮลิคอปเตอร์จะเพิ่มค่าใช้จ่าย แต่เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาอย่างจริงจัง
ใบอนุญาต - จะต้องขอใบอนุญาตปีนเขาจากรัฐบาลเนปาล หรือจีน ขึ้นอยู่กับเส้นทางที่ใช้ในการเดินทาง เป็นเอกสารที่ออกให้โดยรัฐบาลเพื่อควบคุมจำนวนนักปีนเขา และจัดการทรัพยากรธรรมชาติในบริเวณเทือกเขาหิมาลัย
ค่าธรรมเนียมออกใบอนุญาต - อัตราค่าธรรมเนียมใหม่จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่เดือน กันยายน 2025 เป็นต้นไป และจะใช้กับฤดูปีนเขาเดือน เมษายนถึงพฤษภาคม ตามเส้นทาง South East Ridge หรือเส้นทาง South Col ในราคา 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 510,000 บาท
ส่วนค่าธรรมเนียมสำหรับฤดูปีนเขาที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมในเดือน กันยายนถึงพฤาจิกายน และฤดูปีนเขาที่ไม่ค่อยมีคนปีนเขาในเดือน ธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ ราคา 3,750 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 127,000 บาท
การพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ถือเป็นความท้าทายจำเป็นต้องใช้ทั้งความแข็งแรงทางร่างกายและจิตใจ การเตรียมตัวอย่างรอบคอบและการวางแผนที่ดี จะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ ขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการพิชิตยอดเขา และลดความเสี่ยงจากอุบัตติเหตุ อันตรายต่างๆ ที่พร้อมจะเกิดขึ้นตลอดการเดินทาง
สรุปค่าใช้จ่ายโดยประมาณ
โดยทั่วไปค่าใช้จ่ายในการปีนเขาเอเวอเรสต์จะอยู่ที่ประมาณ 60,000 – 110,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ประมาณ 2 ล้าน - 4 ล้านบาทหรือมากกว่านี้ ตามความต้องการของแต่ละบุคคล รวมถึงค่าใบอนุญาตปีนเขา ค่าบริษัททัวร์ ค่าอาหาร ค่าอุปกรณ์ เช่น เสื้อผ้ากันหนาว หมวกกันหนาว รองเท้าปีนเขา ถุงนอน ออกซิเจน และอุปกรณ์ช่วยในการปีนเขาอื่นๆ ทั้งหมดนี้จะยังไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าเดินทาง และค่าวีซ่าเข้าประเทศ
ความเสี่ยงที่ต้องเผชิญ
การปีนเขาเอเวอเรสต์เป็นประสบการณ์ที่ยากจะหาที่ไหนได้ และขึ้นชื่อว่าเป็นกิจกรรมที่อันตราย มีความเสี่ยงสูง หรือแม้กระทั่งการเสียชีวิตบนเขา ค่าดำเนินการเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตลงมานั้นมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ตั้งแต่หลักล้านไปจนถึงหลายสิบล้านบาท ขึ้นอยู่กับความยากลำบากในการช่วยเหลือ ส่งผลให้ร่างของนักปีนเขาหลายคนยังคงถูกทิ้งไว้บนภูเขา
กฎหมายบังคับให้นำขยะกลับลงจากเขา
ปัญหาขยะบนยอดเขาเอเวอเรสต์ยังคงเป็นประเด็นที่ท้าทาย รัฐบาลเนปาลจึงได้ออกข้อบังคับให้นักปีนเขาทุกคนที่ขึ้นไปเหนือเบสแคมป์ของเอเวอเรสต์ ต้องนำขยะลงจากภูเขา อย่างน้อย 8 กิโลกรัมกลับลงมา โดยจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดให้ต้องนำขยะของตนเองกลับลงมาจากเขาให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ หากไม่ปฏิบัติตามจะถูกริบเงินมัดจำจำนวน 4,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 150,000 บาท
ขยะที่พบมากบนยอดเขาเอเวอเรสต์ เช่น ขวดน้ำ ขวดออกซิเจน ถุงพลาสติก กระป๋องอาหาร กระป๋องเครื่องดื่ม อุปกรณ์ปีนเขา เชือก เต็นท์ และอุจจาระของมนุษย์ ซึ่งขณะนี้นับเป็นปัญหาสำคัญและส่งผลกระทบต่อสุขอนามัยและสิ่งแวดล้อมอย่างมาก
สิ่งที่ต้องคิดก่อนลงมือทำตามความฝัน
การพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์จุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทาง การปีนเขาเอเวอเรสต์ไม่ใช่แค่การพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก แต่เป็นการเดินทางที่เต็มไปด้วยความฝัน ความท้าทาย และความอดทนต่อทุกอย่างที่พร้อมจะเกิดขึ้นตลอดเวลา
นอกจากการเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกายแล้ว เงินทุนก็เป็นปัจจัยสำคัญในการพิชิตยอดเอเวอเรสต์ ทั้งนี้นักปีนเขาทุกคนยังต้องช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมบนยอดเขาและรักษาความสะอาด โดยเป็นหน้าที่ที่ทุกคนต้องร่วมมือกัน เพื่ออนุรักษ์ความงดงามของยอดเขาเอเวอเรสต์ให้สวยงามตลอดไป
Advertisement