กัน จอมพลัง เคาะประตูบ้าน เม้งซัง โอริโอ้ หลังถูกด่า “คนขายบะหมี่โง่ๆ”
กัน จอมพลัง เคาะประตูบ้าน เม้งซัง โอริโอ้ หลังถูกด่า “คนขายบะหมี่โง่ๆ” ด้านแม่ เม้งซัง ร่ำไห้ผ่านสายโทรศัพท์ ขอโทษ ยอมรับสอนลูกไม่ฟัง
วันที่ 6 ก.พ. 68 ที่ชุมชนแห่งหนึ่งย่านบางมด นาย กัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของ เม้งซัง โอริโอ้ ซึ่งเป็นคนที่พูดจาเหยียดคนอีสาน นอกจากนี้ยังได้ต่อว่า กัน จอมพลัง วาเป็น คนขายบะหมี่โง่ๆ เดี๋ยวกูโบ้หน้าให้ อีกด้วย
คอนเทนต์แนะนำ
นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า วันนี้ตั้งใจจะมามอบให้ เม้งซัง โบ้หน้าเข้าที่ขมับซ้ายเลย เพราะเห็นว่ามีการพูดจาเหยียดคนอีสาน บอกว่าเสื้อตัวเดียว สร้างบ้านให้คนอีสานได้ นอกจากนี้ยังบอกว่า เล่นกีฬาเทนนิส นอนกอดไม้เทนทิสเลย จึงขอมาดูบ้านของสุลต่านหน่อยว่าเป็นอย่างไร นอกจากนี้ยังพบว่า นางเม้ง มีประวัติ การหนีทหารอีกด้วย
โดยในระหว่างที่ให้สัมภาษณ์อยู่นั้น แม่ของนายเม้ง ได้เปิดใจผ่านโทรศัพท์ และร้องไห้ออกมา ก่อนจะบอกว่า อยากจะขอโทษ กัน จอมพลัง และสังคมที่ลูกก้าวร้าว โดยพฤติกรรม และคำพูดของลูก แม่ไม่เคยรู้มาก่อนเลย เนื่องจากลูกชายจะเช่าห้องอยู่ข้างๆ และไปๆ มาๆ จึงไม่ได้มีการพูดคุยกันเป็นพิเศษ เนื่องจากแม่ทำงานหาเช้ากินค่ำ ไม่ได้เป็นคนรวยอะไร เมื่อวานยังกู้เงินเจ้าหนี้มา 10,000 บาท และจะต้องจ่ายรายวันร้อยละ 20 ด้วย ต้องทำงานส่งหนี้วันละ 1,000 บาท ซึ่งที่ผ่านมาลูกชายก็ไม่ได้มาช่วยทำมาหากินและก็ไม่ได้ทำงานอะไร พอมาให้ช่วยทำงาน ก็ทำได้แปปเดียว บอกว่า ร้อน แล้วก็เข้าห้องไป ในบางครั้งก็มาขอเงินตน ทีละ 100 บาท และไม่มีเงินมาเลี้ยงส่งดูแลลูกเลย
“ทุกวันนี้เหนื่อยมากๆ แม่ขอโทษแทนลูกด้วย ที่มันล่วงเกิน แม่ไม่ได้เห็นด้วยที่มันไปต่อว่าคุณกัน แม่ไม่เคยรู้มาก่อนเลย แต่พี่สาวมาบอกว่า ไอ้บอล (เม้ง) มันไปเล่นของแรงแล้ว หลังจากเกิดเรื่องลูกชายก็ไม่ได้กลับมาที่ห้องเช่าอีก ไม่รู้ว่ามันหายไปไหน เม้งเป็นคนไม่รู้หนังสือ ไม่ได้เรียนหนังสือตั้งแต่ประถมแล้ว ทุกวันนี้ก็ไม่มีใครเลี้ยงดู ส่วนใหญ่ก็ดูแลตัวเอง หากลูกฟังอยู่ก็ให้กลับตัวเป็นคนดี อะไรที่ทำพลาดไป ก็รับกรรมนั้นไว้ ปากเสียอะไรก็ต้องรับผิดชอบ”
ด้าน นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้คุยกับแม่ก็รู้สึกสงสารมาก เพราะว่าต้องทำงานหาเงิน และปัจจุบันแม่ก็อายุประมาณ 60 กว่าแล้ว จะต้องทำงานเพื่อส่งหนี้รายวันอีก ลูกชายก็ไม่ได้มาช่วยอะไร อยากจะให้สังคมแยกแยะว่าแม่กับลูกคือคนละคนกัน ก่อนหน้านี้ตนก็ได้ถามแม่แล้วว่า ถ้าหากจะดำเนินการกับสิ่งที่ลูกชายทำ แม่ยินยอมหรือไม่ ตัวแม่เองก็ยินยอมให้ลูกรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไป
ต่อมา กันจอมพลัง ได้ไปบ้านเช่าของ นายเม้งซัง โอรีโอ้ ซึ่งก็ไม่พบเจ้าตัว แต่ได้เจอกับน้าชายของ เม้งซัง ที่กำลังเตรียมของ เพื่อจะนำไปขายอยู่
โดยน้าชายของนายเม้ง อายุ 49 ปี ได้เปิดใจกับสื่อมวลชน หลังจากทราบข่าวถึงพฤติกรรมของ เม้งซัง ว่า หลานชายมาอยู่ห้องข้างๆ แต่ว่าแยกกันอยู่คนละห้อง และที่ผ่านมา ก็ต่างคนต่างอยู่ ไม่เคยได้คุยอะไรกันเลย แต่มักจะได้ยินเสียงหลานชายตะโกนด่าคนบ่อยๆ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าด่าใครแต่คิดว่าน่าจะเล่นเกมส์ นอกจากนี้หลานชายก็ไม่เคยมาช่วยเตรียมของหรือช่วยกันขายของมาก่อนด้วย
ที่ผ่านมาตนกับแม่ของนายเม้ง ทำกันอยู่สองคน หลังจากเตรียมของขายเสร็จแล้ว ตนก็จะเป็นคนกลับมานั่งล้างจาน เพราะว่าแม่ของนายเม้ง ก็อายุมากแล้ว ในบางวัน ตนก็เห็นว่าแม่ของนายเม้งนั่งร้องไห้อยู่ในห้องคนเดียวด้วยความเหนื่อย
พฤติกรรมของหลานชายที่ไปต่อว่า กัน จอมพลัง นั้น ตนไม่เคยรู้มาก่อนเลยจนกระทั่งเป็นข่าว แล้วหลังจากนั้นหลานชายก็ไม่กลับมาอยู่ที่ห้องนี้อีกเลย เวลาไปไหนมาไหนก็มักจะเดินออกไปโดยที่ไม่ได้บอกอะไร นอกจากนี้ตั้งแต่ที่หลานชายมาเช่าห้องอยู่ข้างๆ ก็พบว่ามีผู้หญิงมาหาอยู่บ่อยครั้ง และเห็นว่าพฤติกรรมของหลานชายนั้น ได้ทำร้ายร่างกายผู้หญิงจนกรามหัก โทรศัพท์มือถือแตกละเอียดอีกด้วย
ทั้งนี้ ตนไม่อยากฝากบอกอะไรถึงหลานชาย เพราะว่าพูดไปมันก็ไม่ฟัง ส่วนใหญ่แล้วนายเม้ง จะฟังแต่แม่เท่านั้น แต่ก็ไม่ได้ฟังตลอด หลังจากนี้หลานชายไปก่อเรื่องอะไรไว้ก็ให้ไปรับผิดชอบเอาเอง
ขณะที่ กัน จอมพลัง ยังให้สัมภาษณ์ทิ้งท้ายว่า หลังจากที่ได้มาดูบ้านและได้พูดคุยกับครอบครัวของนายเม้ง แล้ว ก็อยากจะฝากบอกว่า หากจะเหยียดหรือต่อว่าคนอื่นก็ควรจะทำตัวเองให้ดีก่อน ปากพล่อย พูดออกมา สุดท้ายคนที่ได้รับผลกระทบก็คือครอบครัว แม่เสียใจขนาดไหน แต่ตนคิดว่าคนแบบนี้ ถ้าจะหาความสำนึกก็คงจะลำบาก
นอกจากนี้ ก่อนที่จะสัมภาษณ์เสร็จ ทีมงานทราบว่าคุ กัน จอมพลังได้ลงเครื่อง เมื่อเวลา 06.00 น. และตรงมาที่ สน. บางมด เพื่อติดตามกรณีของ นายเม้ง โดยเฉพาะ จึงได้เตรียมขนมไว้ต้อนรับ เป็นโอริโอ้ 2 ซอง เพื่อต้อนรับ
โดยซองแรกการจองพลังฉีกซองขนมแรงไป จึงทำให้ขนมโอริโอ้ทั้งหมด 3 ชิ้น ตกพื้น จึงได้ฉีกซองขนมอีก 1 ซอง แล้วทาน พร้อมกับบอกสั้นๆ ว่า “จะกินเพื่อระบายความแค้นของผม เมื่อกี้โอริโอ้อยู่ในมือ เคี้ยวอยู่ในปาก ต่อไปเดี๋ยวมันก็หายไป”
Advertisement
