จากกรณีที่โลกออนไลน์ แห่วิพากษ์วิจารณ์ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ที่พูดถึงตำรวจนายหนึ่งที่แต่งเครื่องแบบไปจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมว่าไม่เหมาะสมนั้น
วันที่ 8 ก.พ. 68 พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้กล่าวในไลฟ์สดผ่านยูทูบช่อง “โจ เรวัช กลิ่นเกษร” ตอนหนึ่งว่า เรื่องที่ตนไปว่าตำรวจนายหนึ่งที่แต่งเครื่องแบบไปจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม ส่วนตัวตนจากใจจริงสนับสนุน สมรสเท่าเทียม และระหว่างรับราชการตอนที่เป็นผู้การ หรือผู้บัญชาการ มีตำรวจน้องๆ ผู้หญิง จะเป็นทอม หรือผู้ชาย หรือผู้หญิง ตนพูดเลยว่าแต่งได้เต็มที่ ผู้หญิงจะมาแต่งผู้ชาย ตัดผมสั้น เอาเลยลูก และมีผู้ชายยศ ร.ต.ท. หรือ ร.ต.อ. เขาเป็นผู้ชาย ตนบอกหนูแต่งเลยแต่งผู้หญิงเลย เขาไม่กล้าแต่ง ตนก็บอกมึงแต่งเลย ตนชอบตรงที่ว่าเวลาตำรวจจะไปตามคนร้าย เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นทอม เกาะคู่ไปกับตำรวจผู้ชายเลย เพราะไม่มีทางมีเรื่องชู้สาวแน่นอน เวลาปลอมตัวก็ไม่กลัว ตนสนับสนุน
มีน้องคนหนึ่ง ร.ต.ท. หรือ ร.ต.อ. ตนจำไม่ได้ เป็นผู้ชายใจเป็นหญิง ตนบอกหนูไม่ต้องแต่งเครื่องแบบ เพราะแต่งเครื่องแบบดูพิกลอยู่ ให้แต่งชุดสวยเลย วันรุ่งขึ้นตนยังตกใจ คิดว่าเป็นดารามาร้องเรียน เพราะสวยเลย
พล.ต.ท.เรวัช กล่าวต่อว่า ส่วนน้องที่แต่งเครื่องแบบไปจดทะเบียนวันนั้น ถ้าแต่งเครื่องแบบเฉยๆ ก็ไม่เป็นไร แต่แต่งเครื่องแบบแล้วน้องไปกอดไปจูบกัน มันไม่เหมาะสม แสดงว่าตอนที่น้องฝึกอบรมในโรงเรียนเขาไมได้สอนน้องว่าเวลาแต่งเครื่องแบบแล้วจะต้องวางตัวอย่างไร มันเป็นจริยธรรมของตำรวจ ต้องรู้จักกาลเทศะ ตนด่าเพราะตรงนี้
และพล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โทรมาหาตนก็ให้ดำเนินการกับตำรวจคนนี้ แต่ที่ตนออกมาว่า เพราะอยากให้เด็กรู้ระเบียบบ้าง ใส่เครื่องแบบตำรวจจะเดินดูดไอติม หรือนั่งฟุตพาทไม่ได้ จะใส่เครื่องแบบนั่งกินเหล้าในเวลาราชการผิดวินัยอยู่แล้ว จะมาเล่นติ๊กต็อกก็ต้องเป็นเวลาพักเที่ยง หรือหมดเวลาราชการแล้ว
“ผมไมได้ว่าสมรสเทียมเทียม เพราะสนับสนุน แพรรี่ ไพรวัลย์ก็เหมือนกัน ผมไม่ได้ไปว่า และยังเมตตา ผมยังอยากให้ได้กับอ.เบียร์ด้วยซ้ำไป เพราเป็นคู่จิ้นกัน ผมมองน่ารัก แต่เวลาพอมองน้องๆ ตำรวจรุ่นใหม่ หนูต้องดูต้องวางตัวให้เหมาะสม มันไม่ได้ผิดวินัยร้ายแรง แต่เป็นเรื่องจริยธรรม ส่วนที่ใส่เครื่องแบบไปรอดซุ้มกระบี่ มันเป็นค่านิยมที่เขาทำกัน แต่น้องสองคนไปจดทะเบียนแล้วหอมแก้มกันมันไม่ได้ มันผิดกาละเทศะ”
Advertisement