มอบเงินช่วยเด็ก อ.2 นักเรียนโรงเรียนเรือนแพ ที่ถูกไฟไหม้บ้านแพวอด
ผู้อำนวยการ สพป.ลำพูน 2 นำเงินกองทุนช่วยเหลือครอบครัวเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล 3 นักเรียนโรงเรียนเรือนแพ ต.ก้อ อ.ลี้ ที่ถูกไฟไหม้บ้านแพกลางน้ำวอดทั้งหลัง
จากรณีเพจเฟซบุ๊กของผู้ที่ใช้ชื่อว่า ครูน้อย เรือนแพ หรือ นายปริญญา ขันอาษา โพสต์คลิบวีดีโอขณะที่เกิดเพลิงไหม้บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านเรือนแพลอยอยู่กลางแม่น้ำปิง ใกล้กับโรงเรียนบ้านก้อจัดสรร สาขาห้องเรียนเรือนแพ ต.ก้อ อ.ลี้ จ.ลำพูน ต่อมาครูน้อยได้บรรยายในคลิบวีดีโอว่าเป็นบ้านของ น้องเฟรม นักเรียนชั้นอนุบาล 3 โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเย็นเมื่อวานนี้ ก่อนเกิดเหตุผู้ปกครองของ น้องเฟรม ได้มารับลูกสาวที่โรงเรียนกลับไปที่บ้านได้ไม่นานก็ได้เกิดเหตุไฟไหม้ขึ้น เมื่อช่วงเวลา 5 โมงเย็น ขณะเกิดเหตุครูน้อยเห็นว่าเกิดไฟไหม้บ้านน้องเฟรมจึงนำนักเรียนที่โรงเรียนสวมเสื้อชูชีพนั่งเรือยนต์ไปช่วยเหลือน้องเฟรมที่อยู่ห่างจากโรงเรียนประมาณ 1 กม. ซึ่งขณะนั้นน้องเฟรมพร้อมแม่และพ่อได้หลบออกมาจากบ้านอยู่บนเรือและร้องไห้ออกมาด้วยความตกใจ น้องเฟรมและครอบครัวปลอดภัยดีแต่บ้านที่พักอาศัยทุกอย่างได้รับความเสียหายหมด ส่วนสาเหตุเกิดจากแม่ทำกับข้าวทิ้งไว้แล้วลืมปิดแก๊ส
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุด ดร.ดวงใจ ถวิลไพร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูนเขต 2 พร้อมด้วยผู้บริหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านก้อจัดสรร ผู้นำชุมชน ได้นั่งเรือเข้าพื้นที่นำข้าวของเครื่องใช้และเงินกองทุนช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่ประสบความยากลำบาก ศูนย์ความปลอดภัย สพป.ลำพูน 2 ไปมอบให้กับผู้ปกครองของน้องเฟรม พร้อมกันนี้ได้เยี่ยมให้กำลังใจกับ นายปริญญา ขันอาษา หรือ ครูน้อย ครูโรงเรียนเรือนแพ ที่เป็นเรี่ยวแรงสำคัญในการให้ความช่วยเหลือครอบครัวน้องเฟรมขณะเกิดเหตุ พร้อมกันนี้ได้กำชับให้ครูน้อยดูแลเด็กนักเรียนอย่างเต็มที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเฝ้าระวังการเกิดอุบัติเหตุ
ขณะที่ โรงเรียนบ้านก้อจัดสรร ได้โพสต์เฟซบุ๊กเปิดรับบริจาคครอบครัวของ น้องเฟรม ระบุว่า โรงเรียนบ้านก้อจัดสรร เชิญร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือบ้าน(แพ)นักเรียนไฟไหม้ เด็กหญิงจรัญญา หล้าบัววงค์(น้องเฟรม) นักเรียนชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนบ้านก้อจัดสรร สาขาห้องเรียนเรือนแพ โดยผ่านบัญชีผู้ปกครองโดยตรง
ด้าน นายปริญญา ขันอาษา หรือ ครูน้อย เล่าว่า วันที่เกิดเหตุผู้ปกครองของน้องเฟรมได้นั่งเรือมารับน้องที่โรงเรียน หลังจากนั้นไม่นานตนเห็นว่าเกิดไฟลุกไหม้ที่บ้านของน้องเฟรมซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียนประมาณ 1 กม. จึงตกใจมาก กลัวว่าน้องและคนในครอบครัวจะได้รับอันตรายตนจึงเรียกให้เด็กนักเรียนที่อยู่ในโรงเรียนรีบสวมเสื้อชูชีพนั่งเรือไปช่วยเหลือแต่ก็ช้าไป เนื่องจากไฟได้ไหม้อย่างรวดเร็ว ส่วนสาเหตุทราบว่าเกิดจากการที่เปิดเตาแก๊สทิ้งไว้แล้วลืมปิด ประกอบกับบนเรือนแพที่เกิดเหตุมีน้ำมันเบนซินที่เติมเครื่องยนต์เรืออยู่หลายแกลลอน และตัวแพทำจากไม้ ทำให้ไฟไหม้อย่างรวดเร็ว หลังเกิดเหตุคุณพ่อของน้องเฟรมยังอยู่ในอาการช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ครูน้อยได้ประสานไปยังชาวบ้านบนฝั่งนำรถกู้ชีพมารับพ่อน้องเฟรมและภรรยาลูกสาวไปอยู่บ้านบนบก ที่ บ้านก้อท่า ต.ก้อ อ.ลี้ แล้วกลับมาสำรวจความเสียหายอีกครั้ง
ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ ตนได้สอนให้เด็กนักเรียนรู้จักการใช้เครื่องมือดับเพลิงและช่วยเหลือตนเองหากเกิดเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งเด็กนักเรียนที่นี่ส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนกินนอน เนื่องจากผู้ปรกครองประกอบอาชีพทำประมง ตอนกลางคืนต้องออกไปวางเบ็ด วางตาข่ายจับปลา ส่วนตอนเช้ามืดก็จะนั่งเรือไปเก็บปลาที่ดักไว้
ขณะที่ ดร.ดวงใจ ถวิลไพร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาลำพูน เขต 2 เปิดเผยว่า โรงเรียนเรือนแพปัจจุบันมีเด็กนักเรียน 5 คน ประกอบด้วยชั้นอนุบาล 2 คน ชั้นประถมศึกษารวม 3 คน หลังเกิดไฟไหม้บ้านน้องเฟรมจึงได้นำเงินกองทุนช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่ประสบความยากลำบากมามอบให้กับผู้ปกครองนักเรียน เพื่อเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น ซึ่งหลังจากนี้จะได้มีการระดมเงินช่วยเหลือครอบครัวน้องเฟรมระยะยาวอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากการลงพื้นที่มาดูทราบว่าบ้านที่ปลูกเป็นเรือนแพทั้ง 3 หลัง ประกอบด้วยห้องนอนห้องครัวและห้องเก็บของและข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เครื่องมือทำประมงถูกไฟไหม้จนไม่เหลืออะไรเลย จึงอนุญาตให้ครอบครัวน้องเฟรมพักอาศัยที่โรงเรียนเรือนแพไปก่อน จนกว่าจะมีการสร้างบ้านหลังใหม่ให้ครอบครัวน้อง
ส่วนบุคคลภายนอกที่จะให้ความช่วยเหลือครอบครัวน้องเฟรมสามารถติดต่อให้ความช่วยเหลือโดยตรงที่โรงเรียนบ้านก้อจัดสรรหรือที่ผู้ปกครองน้องได้ ขณะเดียวกันทราบว่าขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้น้องเฟรมมีการผวาดผวาร้องไห้ จึงได้นำนักจิตวิทยาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูนเขต 2 มาพูดคุยและสังเกตอาการของน้อง ซึ่งขณะนี้น้องมีอาการดีขึ้นและพร้อมกลับมาเรียนหนังสือแล้ว
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ผู้สื่อข่าวนั่งเรือเข้าพื้นที่โรงเรียนเรือนแพพบว่า เกิดไฟป่าขึ้นภูเขาด้านหลังโรงเรียนเป็นแนวยาวหลายจุด บางจุดใกล้กับอาคารโรงเรียนทำให้ผู้ปกครองเด็กนักเรียนต่างกังวลว่าไฟป่าจะลุกลามไหม้ตัวอาคารโรงเรียนซ้ำรอย เนื่องจากตัวอาคารโรงเรียนเรือนแพมีขนาดใหญ่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ง่าย หากเกิดเหตุไฟป่าลุกลาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลากลางคืนจะทำให้ความช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก
Advertisement
