Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เปิดสิทธิประโยชน์ “ประกันสังคม” ที่ไม่ได้มีแค่รักษาพยาบาล

เปิดสิทธิประโยชน์ “ประกันสังคม” ที่ไม่ได้มีแค่รักษาพยาบาล

21 ก.พ. 68
16:48 น.
|
164
แชร์

การจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเป็นการสร้างหลักประกันและความมั่นคงในชีวิตให้กับผู้ประกันตน โดยเงินที่จ่ายไปจะถูกนำไปใช้ในการบริหารจัดการ เพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์และความคุ้มครองในด้านต่างๆ

 

ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ไม่ว่าจะเป็นมาตรา 33, 39 หรือ 40 ถือเป็นหลักประกันความมั่นคงในชีวิตที่สำคัญ เพราะจะได้รับความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ที่จะช่วยแบ่งเบาภาระและสร้างความอุ่นใจในยามที่ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนในชีวิต

 

ในฐานะผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมทุกเดือน คุณมีสิทธิได้รับประโยชน์และความคุ้มครองหลายด้าน ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามมาตราที่คุณเป็นสมาชิกอยู่  โดยผู้ประกันตนตามมาตราต่าง ๆ ของสำนักงานประกันสังคมจะได้รับความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันไปตามเงื่อนไขของแต่ละมาตรา

 

ผู้ประกันตนมาตรา 33

 

ลูกจ้างที่ทำงานในสถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป จะได้รับความคุ้มครอง 7 กรณี

 

1.กรณีเจ็บป่วย

- สามารถเข้ารับการรักษาได้ฟรี ณ สถานพยาบาลตามสิทธิ

2.กรณีคลอดบุตร

- จะได้รับเงินสงเคราะห์การคลอดบุตร 15,000 บาท (ไม่จำกัดจำนวนครั้ง)

- เงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อคลอดบุตร จ่าย 50% ของค่าจ้างเฉลี่ย (เป็นเวลา 90 วัน)

3.กรณีทุพพลภาพ

- เงินทดแทนการขาดรายได้ 50% ของค่าจ้าง

- ถ้าทุพพลภาพรุนแรงได้รับตลอดชีวิต

4.กรณีเสียชีวิต

- ค่าทำศพ 50,000 บาท

- เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิตให้กับทายาท (คิดตามระยะเวลาส่งเงินสมทบ)

5.กรณีชราภาพ

- บำเหน็จชราภาพ (เงินก้อน) กรณีส่งเงินสมทบไม่ถึง 180 เดือน

- บำนาญชราภาพ (เงินรายเดือน) กรณีส่งเงินสมทบครบ 180 เดือนขึ้นไป

6.กรณีสงเคราะห์บุตร

- ได้รับเงินช่วยเหลือ 800 บาท/ต่อเดือน ต่อบุตร 1 คน (อายุไม่เกิน 6 ปี) จำกัดสูงสุด 3 คน

7.กรณีว่างงาน

- กรณีถูกเลิกจ้างได้รับเงิน 50% ของค่าจ้างเฉลี่ย นานสูงสุด 6 เดือน

- กรณีลาออกเองได้รับเงิน 30% ของค่าจ้างเฉลี่ย นานสูงสุด 3 เดือน

 

ผู้ประกันตนมาตรา 39

 

ผู้ที่เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 แล้วลาออกจากงาน แต่ยังต้องการรักษาสิทธิประกันสังคมไว้ จะได้รับความคุ้มครอง 6 กรณี

 

1.กรณีเจ็บป่วย

-สามารถเข้ารับการรักษาได้ฟรี ณ สถานพยาบาลตามสิทธิ

2.กรณีคลอดบุตร

- จะได้รับเงินสงเคราะห์การคลอดบุตร 15,000 บาท (ไม่จำกัดจำนวนครั้ง)

- เงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อคลอดบุตร จ่าย 50% ของค่าจ้างเฉลี่ย (เป็นเวลา 90 วัน)

3.กรณีทุพพลภาพ

- เงินทดแทนการขาดรายได้ 50% ของค่าจ้าง

- ถ้าทุพพลภาพรุนแรงได้รับตลอดชีวิต

4.กรณีเสียชีวิต

- ค่าทำศพ 50,000 บาท

- เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิตให้กับทายาท (คิดตามระยะเวลาส่งเงินสมทบ)

5.กรณีชราภาพ

- บำเหน็จชราภาพ (เงินก้อน) กรณีส่งเงินสมทบไม่ถึง 180 เดือน

- บำนาญชราภาพ (เงินรายเดือน) กรณีส่งเงินสมทบครบ 180 เดือนขึ้นไป

6.กรณีสงเคราะห์บุตร

- ได้รับเงินช่วยเหลือ 800 บาท/ต่อเดือน ต่อบุตร 1 คน (อายุไม่เกิน 6 ปี) จำกัดสูงสุด 3 คน

 

ผู้ประกันตนมาตรา 40

 

ผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระหรือแรงงานนอกระบบ จะได้รับความคุ้มครอง โดยขึ้นอยู่กับทางเลือกในการจ่ายเงินสมทบ มี 3 แผนทางเลือก

 

ทางเลือกที่ 1

 

จ่ายเงินสมทบ 70 บาท/ต่อเดือน จะได้รับความคุ้มครอง 3 กรณี

 

1.กรณีเจ็บป่วย สามารถเข้ารับการรักษาได้ฟรี ณ สถานพยาบาลตามสิทธิ

2.กรณีทุพพลภาพ จะได้รับเงินบำนาญทุพพลภาพ

3.กรณีเสียชีวิต ทายาทจะได้รับเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต

 

ทางเลือกที่ 2

 

จ่ายเงินสมทบ 100 บาท/ต่อเดือน จะได้รับความคุ้มครอง 4 กรณี

 

1.กรณีเจ็บป่วย สามารถเข้ารับการรักษาได้ฟรี ณ สถานพยาบาลตามสิทธิ

2.กรณีทุพพลภาพ จะได้รับเงินบำนาญทุพพลภาพ

3.กรณีเสียชีวิต ทายาทจะได้รับเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต

4.กรณีชราภาพ จะได้รับเงินบำนาญชราภาพ

 

ทางเลือกที่ 3

 

จ่ายเงินสมทบ 300 บาท/ต่อเดือน จะได้รับความคุ้มครอง 5 กรณี

 

1.กรณีเจ็บป่วย สามารถเข้ารับการรักษาได้ฟรี ณ สถานพยาบาลตามสิทธิ

2.กรณีทุพพลภาพ จะได้รับเงินบำนาญทุพพลภาพ

3.กรณีเสียชีวิต ทายาทจะได้รับเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต

4.กรณีชราภาพ จะได้รับเงินบำนาญชราภาพ

5.กรณีสงเคราะห์บุตร จะได้รับเงินสงเคราะห์บุตร

Advertisement

แชร์
เปิดสิทธิประโยชน์ “ประกันสังคม” ที่ไม่ได้มีแค่รักษาพยาบาล