ประกาศยกเลิกเงินรางวัล 2หมื่น! หนุ่มรับเหมาก่อสร้างเลิกตามหาเมีย
ประกาศยกเลิกเงินรางวัล 2หมื่น! หนุ่มรับเหมาก่อสร้างเลิกตามหาเมีย หลังได้เบาะแสมีชีวิตอยู่ดี แต่ไม่ยอมกลับมาคบกันอีก เดินหน้าขอดูแลลูก 3คนต่อเองคนเดียว
จากกรณีนาย คมสันต์ พูลกลาง อายุ 36 ปี อาชีพรับเหมาก่อสร้าง ตั้งรางวัลตามหาเมีย 2 หมื่นบาท น.ส.เจ้ย เมียรัก หากใครมีเบาะแส หลังหายตัวออกจากบ้านตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 19 ก.พ. 68 จนนำไปสู่การพบตัว รับสินน้ำใจไปทันที ท่ามกลางความสนใจของชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุดวันที่ 24 ก.พ. 68 นายคมสัน เปิดเผยว่า ตนเองได้ออกติดตามหาเรื่อยมาจนกระทั่งช่วงเช้าวันที่ 23 ก.พ. 68 ได้รับแจ้งเบาะแสว่า มีคนพบ น.ส.เจ้ย มาเป็นลูกจ้างร้านอาหารตามสั่งขายไก่ย่างในซอยเซิดน้อย เขตเทศบาลเมืองบ้านบึง ตนเองพร้อมทั้งพี่สาว และ แม่ของน.ส.เจ้ย ก็ได้รีบเดินทางมาตรวจสอบ แต่ปรากฏว่าทางน.ส.เจ้ยรู้ และไหวตัวทัน ไม่มาทำงานที่ร้านอาหารตามสั่งร้านไก่ย่างเหมือนเดิม จากนั้นจึงได้ขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดพบ น.ส.เจ้ย มารับจ้างทำงานย่างไก่ย่างขายในร้านดังกล่าวจริง ตนเองยืนยันจำได้แม่น
ตนเองไม่มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับ น.ส.เจ้ย มีเพียงการว่ากล่าวตักเตือนเรื่องความสะอาดของเสื้อผ้า ที่พักอาศัยที่เตือนอยู่บ่อยๆ เนื่องจากระยะเวลา 10 ปี ที่อยู่กินกับน.ส.เจ้ย ตนเองให้ น.ส.เจ้ย มีหน้าที่ทำงานบ้าน ดูแลเสื้อผ้าของลูกๆ ทั้ง 3 คนเท่านั้นไม่ได้ให้ทำงานหนัก หรือว่ามีความเดือดร้อนในเรื่องเงินทองแต่อย่างใด ซื้อทองให้ใส่ ดูแลดีทุกอย่าง จนกระทั่งกลางดึกของวันที่ 18 ก.พ. ก่อนวันที่หายตัวไปตนได้ต่อว่าภรรยาในเรื่องของการเล่นโทรศัพท์ดึกดื่น และพูดคุยกับคนอื่นไปแอปพลิเคชัน TikTok แต่ทุกอย่างก็ดูปกติ จนกระทั่งถึงช่วงเช้า พอตนเองออกไปทำงานมาทราบว่าภรรยาได้หนีออกจากบ้านไปแล้ว มีเพียงสาเหตุนี้เดียวเท่านั้น
เมื่อถามว่า จากนี้จะทำอย่างไร หากไม่พบตัวภรรยายหรือทราบข่าวภรรยา นายคมสัน กล่าวว่า ตนเองมีหน้าที่การงาน และต้องดูแลครอบครัว มีลูกอีก 3 คนต้องดูแล คงต้องโฟกัสไปเรื่องงาน กับลูกอีก 3 คนมากกว่าที่จะตามหาภรรยา อีกอย่างก็มาทราบภายหลังว่าภรรยาตั้งใจที่จะทิ้งตนกับลูกไปจริงๆ ต้องการมีอิสระ ตนเองก็ไม่รั้ งหรือออกติดตามหาต่อไปอีก สาเหตุตั้งเงินรางวัลถึง 20,000 บาท เพื่อตามหาภรรยานั้นก็เพราะต้องการทราบว่าภรรยายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ปลอดภัยหรือไม่ พอทราบว่ายังมีชีวิต และไม่อยากจะกลับมาใช้ชีวิตคู่ด้วยกันอีก ตนเองก็คงตัดใจ ไม่ตามหาหรือเหนี่ยวรั้งเอาไว้ เมื่อลูกๆ ถามจะได้มีคำตอบให้กับลูกๆ ว่าแม่ออกจากบ้าน มาทำงาน ไม่ได้อยู่กับลูกๆ แล้ว ภายหลังตนเองก็โพสต์เฟซบุ๊กแจ้งยกเลิกให้รางวัล 2 หมื่นบาทหากใครพบเห็น น.ส.เจ้ย และยกเลิกตามหา น.ส.เจ้ย เอาเงินสองหมื่นบาทมาส่งเสียเลี้ยงลูกดีกว่า ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปขอเลี้ยงลูกทั้ง 3 คนเอง
ด้านเจ้าของร้านอาหารตามสั่งที่ น.ส.เจ้ย เข้ามาเป็นลูกจ้างทำงาน กล่าวว่า มีพลเมืองดีที่รู้จักกัน พาน.ส.เจ้ย มาฝากให้ทำงาน ตนเองกำลังหาคนช่วยขายของหน้าร้านอยู่จึงรับให้มาทำงานด้วย ทำงานวันแรกในวันที่ 20 ก.พ. ระหว่างนั้นก็ได้สอบถามน.ส.เจ้ย ถึงเรื่องต่างๆ ได้ข้อมูลว่าทะเลาะกับสามี มีความเป็นอยู่ลำบาก กินอดๆ ยากๆ ให้ทำงานบ้านสารพัด กินของเหลือคนในครอบครัวของสามี ไม่มีใครรัก และชอบจึงหนีออกมาจากบ้าน ตนเองก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่พอฝ่ายสามีมาตามหาจึงทราบข้อเท็จจริงอีกด้านหนึ่ง ก็รู้สึกตกใจกับข้อมูลที่ได้มา
น.ส.เจ้ย มาทำงานตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. 68 กระทั่งมาถึงวันนี้ ไม่เห็น น.ส.เจ้ย มาทำงาน อาจจะเป็นเพราะว่ามีข่าวออกทางทีวี และสื่อโซเชียล จึงหลบหน้าสามีและญาติๆ ที่กำลังตามหาอยู่ เมื่อวานเป็นวันสุดท้านที่มาทำงานตนเองยังถาม น.ส.เจ้ย เลยว่า เนี่ยข่าวออกทีวีแล้ว มีรางวัลเงินสองหมื่นเชียวน่า แต่ น.ส.เจ้ย ยังปฎิเสธหน้าตาเฉยสุ ดท้ายก็ไม่มาทำงาน คงจะหนีไปที่อื่น
ขณะที่ นางคำภู นามบุญเรือง อายุ 54 ปี แม่ผัวของน.ส.เจ้ย เปิดเผยว่า ตั้งแต่รับลูกสะใภ้มาอยู่บ้านหลังเดียวกัน นับ 10 ปี นิสัยเหมือนเดิมคือขาดความสะอาด ทั้งที่หน้าที่ที่มอบหมายจากลูกชายที่ให้สะใภ้ทำนั่นคือ ดูแลเสื้อผ้า อาหารการกินของลูกๆ ทั้ง 3 คน แต่ น.ส.เจ้ย ยังรับผิดชอบไม่ได้ บ่อยครั้งที่ลูกๆ ใส่ชุดเดิมๆ ไปเรียน น้ำท่าไม่ได้อาบ ตนเองก็ว่ากล่าวตักเตือนบ้าง เนื่องจากลูกชายไม่เคยต่อว่า กระทั่งเมื่อคืนวันที่ 18 ก.พ. 68 ลูกชายดุน.ส.เจ้ย เรื่องการคุยกับคนอื่นผ่านติ๊กต๊อกจนรุ่งเช้าวันที่ 19 ก.พ. 68 หนีหายจากบ้านไป
ส่วนนางบุญแจ่ม กิแมน อายุ 49 ปี แม่ของ น.ส.เจ้ย กล่าวว่า ตนเองเดินทางมาพร้อมกับฝ่ายลูกเขย และญาติของลูกเขยตามหาลูกสาวคือ น.ส.เจ้ย แต่เมื่อมาถึงปรากฏว่าไม่พบก็รู้สึกผิดหวัง หลังจากนี้ก็จะขอออกติดตามหาลูกสาวต่อ และหากพบเห็นก็จะนำตัวมาดูแลต่อ
Advertisement
