โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ แจกเงิน 10,000 บาท เดินทางมาถึงเฟส 3 แล้ว โดยเฟส 1 ใช้ชื่อว่าโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านสวัสดิการแห่งรัฐและกลุ่มผู้พิการ 14.5 ล้านคน เฟส 2 ใช้ชื่อว่าโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ ประมาณ 4 ล้านคน ทั้ง 2 เฟสที่ผ่านมา ดำเนินการโอนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกเลขประจำตัวประชาชน และสำหรับเฟส 3 นี้ รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังจะแจกเงิน 10,000 บาท ให้สำหรับประชาชนทั่วไป แต่ทว่ารอบนี้จะแจกเป็น "เงินดิจิทัลวอลเล็ต" ไม่สามารถกดออกมาเป็นเงินสดได้
ล่าสุด กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการวางและทดสอบระบบเพื่อให้สมบูรณ์ครบ 100% คาดว่าทุกอย่างจะแล้วเสร็จ และเปิดลงทะเบียนยืนยันตัวตน ภายในเดือนมีนาคม 2568 นี้ หลังจากนั้นจะดำเนินการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ได้ในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2568 (ช่วงเมษายน - มิถุนายน 2568) ใช้เม็ดเงินงบประมาณที่เหลือราว 1.5 แสนล้านบาท เท่ากับว่าสิทธิที่เหลือประมาณ 15 ล้านคน
กระทรวงการคลัง เปิดให้ประชาชนที่มีสมาร์ตโฟน ลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐ ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2567 ที่ผ่านมาแล้ว นอกจากนี้ คุณสมบัติเป็นผู้ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน, ถือสัญชาติไทย, อายุตั้งแต่ 16-60 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่ปิดรับลงทะเบียน (15 กันยายน 2567), ไม่เป็นผู้มีรายได้เกิน 840,000 บาท สำหรับปีภาษี 2566 และไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันเกิน 500,000 บาท (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567)
ทั้งนี้ สำหรับกลุ่มประชาชนที่ไม่มีสมาร์ตโฟน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง จะเปิดให้มีการลงทะเบียนในลำดับถัดไปต่อถัดจากเฟส 3 ซึ่งจะให้ลงทะเบียนผ่านทางธนาคารของรัฐ โดยขอเวลาอีกประมาณ 2 เดือนหลังจากนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับระบบการลงทะเบียน จากการสำรวจ กลุ่มที่ไม่มีสมาร์ตโฟน มีตัวเลขน่าจะไม่ถึง 1 ล้านคน และการแจกรอบนี้น่าจะแจกเป็น "เงินสด"
เบื้องต้น กระทรวงการคลังเตรียมให้ผู้ที่ไม่มีสมาร์ตโฟน ลงทะเบียนรับเงิน 10,000 บาท ผ่านธนาคารของรัฐ ดังนี้
1. ธนาคารออมสิน
2. ธนาคารกรุงไทย
3. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
4. ธนาคารอาคารสงเคราะห์
5. ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
6. ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์)
Advertisement