เปิด “สถิติอุบัติเหตุรถบัส” สะท้อนปัญหาด้านความปลอดภัย

อุบัติเหตุเป็นเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา และส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินเป็นอย่างมาก สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุมีมากมายหลายอย่าง ทั้งจากปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก

 

ขณะที่รถบัสก็เป็นหนึ่งในระบบขนส่งมวลชนที่สำคัญที่ช่วยให้ผู้คนสามารถเดินทางได้สะดวกและประหยัดค่าใช้จ่าย ทั้งนี้การเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้เสมอ ซึ่งอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับรถบัสมีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในประเทศที่มีการใช้รถบัสเป็นพาหนะหลักในการเดินทางทั้งในเมืองและระหว่างเมือง

 

จากสถิติอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถบัส อุบัติเหตุส่วนใหญ่ มีสาเหตุจากหลายปัจจัย เช่น สภาพถนน การบำรุงรักษารถบัสที่ไม่ดี การขับขี่ที่ขาดความระมัดระวัง หรือแม้กระทั่งแต่ปัญหาด้านเทคนิคของรถบัสเอง

 

เปิดสถิติอุบัติเหตุของรถโดยสารสาธารณะ

 

รายงานการวิเคราะห์สถานการณ์อุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยสำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก (สนภ.) เปิดเผยว่า ในปี พ.ศ. 2567 มีผู้จดทะเบียนรถโดยสารประจำทาง 54,185 คัน และ รถโดยสารไม่ประจำทาง 57,792 คัน

 

สถิติการเกิดอุบัติเหตุของรถโดยสารสาธารณะ ในปี 2567

 

มีจำนวนทั้งหมด 208 คัน โดยแบ่งดังนี้

 

รถโดยสารชั้นเดียว จำนวน 69 คัน/ ครั้ง (33.17%)

รถโดยสารสองชั้น จำนวน 61 คัน/ครั้ง (29.33%)

รถตู้โดยสาร จำนวน 59 คัน/ครั้ง (28.37%)

รถโดยสารสอง แถว จำนวน 14 คัน/ครั้ง (6.73%)

รถมินิบัส จำนวน 3 คัน/ครั้ง (1.44%)

ไม่ระบุ จำนวน 2 คัน/ครั้ง (0.96%)

 

จากสถิตินั้นพบว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจาก รถโดยสารชั้นเดียว และ รถโดยสารสองชั้น มีความถี่ที่ไม่แตกต่างกันมากนัก แม้ว่าทั้งสองประเภทจะมีลักษณะและการใช้งานที่แตกต่างกัน โดยรถโดยสารสองชั้นมักจะมีความจุผู้โดยสารมากกว่า ซึ่งอาจทำให้มีผลกระทบที่มากขึ้นในกรณีเกิดอุบัติเหตุ

 

ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด ในปี 2567

 

1.ช่วงเวลา 08.01 – 12.00 น.

2.ช่วงเวลา 16.01-20.00 น.

3.ช่วงเวลา 04.01 ลา-08.00 น.

 

จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 – 2567

 

1.นครราชสีมา

2.กรุงเทพมหานคร

3.พระนครศรีอยุธยา

4.ชุมพร

5.ขอนแก่น

6.ชลบุรี

7.ร้อยเอ็ด

8.กระบี่

9.อุดรธานี

10.ฉะเชิงเทรา

 

สาเหตุการณ์เกิดอุบัติเหตุ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 – 2567

 

1.ขับรถด้วยความประมาท จำนวน 253 ครั้ง (27.47%)

2.ขับตามหลังในระยะกระชั้นชิด จำนวน 89 ครั้ง (9.66%)

3.หลับใน จำนวน 81 ครั้ง (8.79%)

 

การเกิดอุบัติเหตุจากรถโดยสารสาธารณะสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย สามารถแบ่งออกเป็น 3 ปัจจัยหลัก ๆ

 

ด้านผู้ขับขี่

 

การขับรถด้วยความประมาท ขับรถเร็วเกินกำหนด แซงในที่คับขัน ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร และขับรถตามหลังในระยะกระชั้นชิด รวมไปถึงเรื่องการพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้เกิดอาการหลับใน การดื่มแอลกอฮอล์หรือใช้สารเสพติดขณะขับรถก็ส่งผลต่อสติสัมปชัญญะในการใช้รถ ขณะเดียวกันการขาดทักษะในการขับขี่หรือไม่ชำนาญเส้นทางก็ส่งผลต่อการเกิดอุบัติเหตุได้

 

ด้านยานพาหนะ

 

สภาพรถที่ไม่พร้อมใช้งาน ระบบเบรกขัดข้อง ยางเสื่อมสภาพ อุปกรณ์ความปลอดภัยไม่ครบถ้วน การดัดแปลงสภาพรถที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้รถโดยสารที่มีอายุการใช้งานนาน และรถโดยสารสองชั้นมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูงกว่ารถชั้นเดียว เนื่องจากมีจุดศูนย์ถ่วงที่สูงกว่า

 

ด้านถนนและสภาพแวดล้อม

 

สภาพถนนที่ไม่ดี เช่น ถนนลื่น ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ ทางโค้งอันตราย ด้านสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น ฝนตกหนัก หมอกลงจัด ทัศนวิสัยไม่ดี ปัจจัยเหล่านี้จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน

 

อุบัติเหตุจากรถบัสสามารถลดลงได้ หากทุกฝ่ายร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหา ตั้งแต่การควบคุมพฤติกรรมของคนขับ การบำรุงรักษารถ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของถนน ไปจนถึงการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดมากขึ้น เมื่อมีมาตรการป้องกันที่ดีจะช่วยให้การเดินทางด้วยรถบัสปลอดภัยและลดความเสี่ยงต่อชีวิตของผู้โดยสารและผู้ใช้ถนนโดยรวม