Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เปิดโปงทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก เขย่าความเชื่อมั่นระบบสาธารณสุขไทย

เปิดโปงทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก เขย่าความเชื่อมั่นระบบสาธารณสุขไทย

5 มี.ค. 68
17:23 น.
แชร์

กรณีทุจริตยาในโรงพยาบาลทหารผ่านศึกเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการใช้ทรัพยากรของรัฐโดยมิชอบ โดยเฉพาะในภาคสาธารณสุข ซึ่งควรเป็นพื้นที่ที่เน้นการดูแลประชาชนอย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

ขณะเดียวกันควรมีความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ แต่กลับกลายเป็นแหล่งที่เกิดการทุจริต ทำให้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพการรักษาและงบประมาณของประเทศ รวมไปถึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน

 

แฉขบวนการทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก

10 กุมภาพันธ์ 2568

 

สำหรับจุดเริ่มต้นของคดีการทุจริตนี้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อนายธนเดช เพ็งสุข ส.ส.กทม.พรรคประชาชน และรองประธาน กมธ.ทหารฯ ทวีตภาพและข้อความไว้บนแอปพลิเคชันเอ็กซ์ แฉเรื่องราวของแพทย์อาวุโส สังกัดโรงพยาบาลทหารผ่านศึก มีพฤติกรรมทุจริตนำยาที่สั่งจ่ายให้ผู้ป่วยไปขาย นอกจากนี้ยังมีการแท็กไปถึง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

 

โดยระบุข้อความว่า “อัปยศหมอทหาร ไร้ซึ่งจรรยาบรรณของแพทย์ได้รับเรื่องร้องเรียนของแพทย์ทหารอาวุโส สังกัดโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ที่หากินกับการทุจริตนำยาออกมาขาย โดยกระทำเป็นขบวนการ ซ้ำร้ายคอยสั่งให้ผู้ป่วยกินของหวาน กินของมัน ให้นอนน้อย แสร้งเจ็บป่วย เพื่อสั่งเบิกยา และนำออกไปจำหน่าย ผมขอร้องเรียนเรื่องนี้ถึงท่าน @phumtham ให้เร่งดำเนินการสอบสวน และยุติวงจรอุบาทว์นี้เสีย รวมถึงตรวจสอบแพทย์ในสังกัด”

 

รมว.กห. ตั้งกรรมการการสอบปม รพ.ทหารผ่านศึก

12 กุมภาพันธ์ 2568

 

โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ว่า “ตนสั่งการผู้อำนวยการโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบ และนำข้อมูลส่วนนี้มาพิจารณา ขณะเดียวกันยังได้สั่งการไปที่ ป.ป.ท. ให้ลงไปดำเนินการ ซึ่งขณะนี้ได้ข้อมูลเบาะแสมาพอสมควร และขณะนี้กำลังตรวจสอบอยู่ว่าเกี่ยวโยงกับเครือข่ายใดและเกี่ยวข้องใครบ้าง”

 

โรงพยาบาลทหารผ่านศึก สั่งเด้งแพทย์หญิง บ.

14 กุมภาพันธ์ 2568

 

จากนั้นทางโรงพยาบาลทหารผ่านศึกได้ออกหนังสือชี้แจง ว่า “ได้ตรวจสอบแล้ว แพทย์ที่กล่าวถึงไม่ใช่แพทย์หรือบุคลากรของโรงพยาบาลแต่อย่างใด แต่คนไข้มีประวัติการรักษาจริง”

 

ขณะที่แพทย์หญิงจิตติมา ปรีชา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ได้ลงนามคำสั่งโรงพยาบาลทหารผ่านศึก เรื่อง ให้พนักงานปฏิบัติงาน โดยระบุว่า เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ให้ทราบข้อเท็จจริงที่ชัดเจน และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายในทุกๆ ประเด็น จึงให้ นางสาว บ. ผู้ชำนาญการ รพ.ผศ. (อัตราเงินเดือนระดับ 10) งดการตรวจรักษา และให้ปฏิบัติหน้าที่ สน.ผอ.รพ.ผศ. จนกว่าการสอบสวนจะดำเนินการแล้วเสร็จ

 

ทหารยศสูงร่วมทุจริตยา ขบวนการแอบโกงนานกว่า 10 ปี

3 มีนาคม 2568

 

ความคืบหน้าเรื่องนี้ พล.อ.เดชนิธิศ เหลืองงามขำ ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก นำหลักฐานเข้าแจ้งความเอาผิดต่อผู้ร่วมขบวนการทุจริตยาของโรงพยาบาลทหารผ่านศึกทั้งหมด ซึ่งคาดว่ามีผู้ที่จะรับโทษในระดับข้าราชการระดับสูงทั้งที่เกษียณไปแล้ว และดำรงตำแหน่งอยู่มีประมาณ 20 คน ส่วนมูลค่าความเสียหายมีจำนวนมากมหาศาล

 

พล.อ.เดชนิธิศ เปิดเผยว่า หลังทราบว่ามีการทุจริตยาเกิดขึ้น ไม่ได้นิ่งนอนใจ รีบดำเนินการใน 2 ส่วน ส่วนแรกคือ ทาง ป.ป.ท.เข้ามาร่วมตรวจสอบพยานหลักฐาน ส่วนที่สองคือตั้งคณะกรรมการสอบสวนภายในองค์การทหารผ่านศึก ส่วนพยานหลักฐานที่พบไปในทิศทางเดียวกันว่ามีการกระทำความผิดจริง

 

อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบระยะเวลาการทุจริตน่าจะยาวนานเกือบ 10 ปี มีผู้ร่วมขบวนการตั้งแต่ผู้ป่วยถึงข้าราชการทหารระดับสูง มีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดประมาณหลักร้อยความเสียหายน่าจะมีเป็นจำนวนมาก ก่อนหน้ามีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ไปแล้วหนึ่งครั้ง พบมีมูลความผิดให้บุคคลบางส่วนย้ายตำแหน่งหน้าที่ออกไปจากส่วนที่เกี่ยวข้อง

 

จากข้อมูลพบด้วยว่า มีบางส่วนที่เชื่อมโยงกันกับการทุจริตอยู่ในขณะนี้ด้วย ทั้งนี้หลังจากที่รับตำแหน่งตั้งแต่เดือนตุลาคม 66 ช่วงสองถึงสามเดือนแรกพบความผิดปกติแล้ว มีรถตู้นำผู้ป่วยมาจาก จ.ลพบุรี เข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลขอรับยากลับไปครั้งละ 10-20 คน และยังเป็นผู้ป่วยชื่อเดิมๆ หลายครั้งเป็นแบบนี้ตลอดแทบทุกเดือน

 

ด้านนายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบแผนประทุษกรรมชัดเจนแล้ว ในส่วนข้าราชการไม่ว่าจะเกษียณหรือยังอยู่ในตำแหน่งหากพบเส้นเงินที่ไปเกี่ยวข้องจะถูกเรียกตัวมาสอบ ส่วนข้อกังวลว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหน่วยงานทหารจะทำให้ตรวจสอบยากขึ้นหรือไม่นั้น ยืนยันว่าทุกคนต้องอยู่ใต้กฎหมายฉบับเดียวกัน รับผิดเหมือนกันไม่มียกเว้นอะไรทั้งสิ้น

 

ขณะที่พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวว่า ตอนนี้ได้ประสานงานกับทุกหน่วยแล้วได้ดำเนินการกับกลุ่มเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ขณะนี้มีข้อมูลการกระทำความผิดและแผนประทุษกรรมต่างๆ แล้ว หลังจากทำงานมาได้ระยะหนึ่งได้ข้อเท็จจริงมีการกระทำความผิดจริง จะดำเนินการกับผู้ต้องหากลุ่มแรกก่อน จากนั้นจะขยายผลต่อเนื่อง โดยไปสอบพยานต่างๆ ไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว ในส่วนความผิดในส่วนเจ้าหน้าที่รัฐจะเข้าข่าย ม.157 แต่หากเป็นคนปกติทั่วไปต้องพิจารณาเป็นรายๆ ไป

 

พบมีร่วมขบวนการ 600 คน เอาผิดย้อนหลังทุกคน

4 มีนาคม 2568

 

ต่อมาพล.อ.เดชนิธิศ เหลืองงามล้ำ ผอ.อผศ. ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าคดีทุจริต รพ.ทหารผ่านศึก ว่า “พบว่าในพื้นที่จังหวัดลพบุรี มีขบวนการ แบ่งเป็น 6 ทีม ทีมละ 60-70 คน รวมกว่า 600 คน ซึ่งหากสืบทราบมาว่าเกี่ยวข้องกับผู้ใดจะย้อนหลังกลับไปดำเนินการหมดทุกคน อะไรที่ทำได้และเจ้าหน้าที่ตร.ปปป.และปปท. ทำได้ทำหมดดำเนินการทุกคดี หากพบว่าผู้เกี่ยวข้องเกษียณราชการไปแล้วก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายไม่ว่าจะเรียกเงินคืนหรือการดำเนินคดีอาญา ทั้งนี้ขอเวลาอีก 1 สัปดาห์และทุกอย่างก็น่าจะชัดเจนขึ้น”

จับกุมผู้ต้องหา ขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

26 มีนาคม 2568

 

ล่าสุด “บิ๊กเต่า" พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 18 จุดในพื้นที่ กทม. ลพบุรี ปราจีนบุรี และชลบุรี เพื่อจับกุมผู้ต้องหาขบวนการทุจริตเบิกจ่ายยา รพ.หารผ่านศึก ก่อนนำไปขายต่อให้กับบุคคลภายนอก

 

โดยเป้าหมายจุดแรกคือที่บ้านพักย่านเกียกกาย ของ พ.อ.หญิง กัญญารัตน์ ข้าราชการบำนาญ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ม.157, เป็นเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์, เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสาร อันเป็นเท็จ, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ

 

หลังพบพยานหลักฐานว่า พ.อ.หญิง กัญญารัตน์ นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการทุจริตดังกล่าว เนื่องจากเป็นหัวหน้าขบวนการ ทำหน้าที่จัดหาเครือข่ายบุคคลจากจังหวัดลพบุรี เข้ามารับยาจากโรงพยาบาลทหารผ่านศึก และนำยาทั้งหมดที่ได้ให้กับแม่ทีมเครือข่าย เพื่อแลกกับค่าจ้างร้อยละ 10 ของค่ายา ซึ่งแม่ทีมเครือข่ายจะได้ค่าจ้างรายหัวอีกรายละ 1,500 บาท

 

รวมถึงเป้าหมายสำคัญอีกหนึ่งจุด คือ บ้านพักย่านลาดพร้าว 71 ของแพทย์หญิงบรินดา ตำแหน่งผู้ชำนาญการ รพ.ทหารผ่านศึก ถือเป็นอีกหนึ่งผู้ต้องหาคนสำคัญของขบวนการ เนื่องจากเป็นคนทำหน้าที่สั่งจ่ายยา โดยการวินิจฉัยโรคให้เกินจากโรคที่เป็นอยู่จริงให้กับผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นผู้ป่วยที่เข้ามารับยาในขบวนการนี้

 

ทั้งนี้จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของ พ.อ.หญิง กัญญารัตน์ พบในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ปี 2561-2568 มีเงินถูกโอนเข้าบัญชีรวมกว่า 40 ล้านบาท ขณะที่ความเสียหายจากการทุจริตดังกล่าวมีการประเมินความเสียหายไว้อยู่ที่ 80 ล้านบาท

 

การทุจริตยาในโรงพยาบาลทหารผ่านศึกไม่เพียงแต่เป็นการทำลายงบประมาณของชาติ แต่ยังเป็นการละเมิดสิทธิของผู้ป่วยที่ควรได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม กรณีนี้ควรเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ผลักดันให้ภาครัฐเร่งปฏิรูปและแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังมากขึ้น เพื่อให้ระบบสาธารณสุขของไทยเป็นไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรมที่สุด

 

Advertisement

แชร์
เปิดโปงทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก เขย่าความเชื่อมั่นระบบสาธารณสุขไทย