ปัญหาอัตราการเกิดต่ำไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของประเทศใดประเทศหนึ่งอีกต่อไป แต่กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหานี้ โดยเฉพาะประเทศเกาหลีใต้ ปัญหาดังกล่าวได้ทวีความรุนแรงจนกลายเป็นวิกฤตระดับชาติ
อัตราการเกิดที่ต่ำลงของประเทศเกาหลีไม่เพียงส่งผลต่อโครงสร้างประชากรเกาหลีใต้ แต่ยังเป็นภัยคุกคามต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในระยะยาว เพื่อแก้ไขปัญหานี้ทางรัฐบาลเกาหลีใต้ได้พิจารณาถึงมาตรการต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาการเกิดต่ำอย่างเร่งด่วน
GRI เสนอ 35 ชั่วโมง กู้วิกฤตอัตราเกิดต่ำ
สถาบันวิจัยคยองกี (Gyeonggi Research Institute หรือ GRI) ได้เผยแพร่รายงานอัตราการเกิดที่ลดลงของเกาหลีใต้ว่า อัตราการเกิดที่ลดลงของเกาหลีใต้ โดยจำนวนทารกเกิดจากผู้หญิงเกาหลีใต้ ซึ่งอยู่ในช่วงวัยเจริญพันธุ์ลดลงจาก 0.78 ในปี 2022 มาเหลือที่ 0.72 ในปี 2023 ซึ่งต่ำกว่าระดับที่มีความจำเป็นในการรักษาจำนวนประชากรเกิดใหม่ที่ระดับ 2.1 ของประเทศเกาหลีใต้
ทั้งนี้รายงานของสถาบัน GRI ได้ให้ความเห็นเรื่องนี้ด้วยว่า ชั่วโมงการทำงานไม่สามารถสร้างสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวที่เพียงพอสำหรับครอบครัวรุ่นใหม่ได้ เนื่องจากมีเวลาทำงานที่ยาวนานเกินไป
โดยกฎหมายของเกาหลีใต้กำหนดชั่วโมงทำงานไว้ที่ 52 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แบ่งเป็นสัปดาห์ละ 40 ชั่วโมงมาตรฐาน หรือ 8 ชั่วโมงต่อการทำงานแต่ละวัน และทำงานล่วงเวลาได้สูงสุด 12 ชั่วโมง ซึ่งมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2018
ขณะที่ชั่วโมงการทำงานกลายเป็นภาระที่หนักสำหรับคนวัยทำงาน โดยเฉพาะคู่รักที่ต้องการสร้างครอบครัว เมื่อมีชั่วโมงทำงานที่ยาวนานเกินไปจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการตัดสินใจมีครอบครัวของคนรุ่นใหม่
ดังนั้นการลดชั่วโมงทำงานลงเหลือ 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จึงเป็นการสร้างสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและการสร้างครอบครัว
คนเกาหลีอยากทำงานน้อยลงวันละหนึ่งชั่วโมง
สถาบัน GRI ทำการสำรวจปี 2024 ในกลุ่มคนทำงานอายุระหว่าง 20-59 ปี จำนวน 1,000 คน พบว่า ชั่วโมงการทำงานที่มากเกินไปและภาระงานเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการสร้างสมดุลระหว่างงานและครอบครัว ผลสำรวจยังพบว่า คนทำงานต้องการทำงานน้อยลงประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อวัน
โดยเฉลี่ยแล้ว
ผู้ชายทำงาน 8.3 ชั่วโมงต่อวัน แต่ต้องการทำเพียง 7.2 ชั่วโมง
ผู้หญิงทำงาน 7.5 ชั่วโมงต่อวัน แต่ต้องการทำเพียง 6.5 ชั่วโมง
ทั้งนี้ความต้องการลดชั่วโมงทำงานเด่นชัดที่สุดในกลุ่มครอบครัวที่มีรายได้สองทาง คือสามีและภรรยาทำงานทั้งคู่ และอยู่ในวัย 30 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญของการมีบุตรและการเลี้ยงดูเด็ก โดยผู้ชายในกลุ่มนี้ต้องการลดเวลาทำงานลงประมาณ 84 นาทีต่อวัน ขณะที่ผู้หญิงต้องการลดลง 87 นาที
อย่างไรก็ตามการลดชั่วโมงทำงานอาจช่วยเพิ่มอัตราการเกิดได้ โดยการลดชั่วโมงทำงานจะทำให้คู่รักมีเวลามากขึ้นในการดูแลครอบครัวและเลี้ยงดูบุตร นอกจากนี้ยังอาจช่วยลดความเครียดและความเหนื่อยล้า ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจมีบุตร
การแก้ไขวิกฤตประชากรเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและต้องใช้มาตรการหลากหลายด้าน การลดชั่วโมงทำงานเป็นหนึ่งในทางเลือกที่จะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างสังคมที่เอื้อต่อการมีบุตรและการเลี้ยงดูบุตรได้อย่างมีคุณภาพ
Advertisement