เปิดประวัติ ‘อดีตพระยันตระ’ อดีตพระสงฆ์ชื่อดัง หลังเสียชีวิตที่แคลิฟอร์เนีย ด้วยวัย 73 ปี
จากกรณี อดีตพระยันตระ เสียชีวิตในวัย 73 ปี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2025 ณ วัดสุญญตาราม รัฐแคลิอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งหลังประกาศเผยแพร่ออกไปไม่นานก็มีลูกศิษย์ที่ยังคงเลื่อมใสศรัทธา ร่วมแสดงความไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก
อดีตพระยันตระ มีชื่อจริงว่า วินัย ละอองสุวรรณ เกิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2494 ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เขาได้ปฏิบัติตนเป็นนักพรตฤๅษีและเรียกตัวเองว่า "ยันตระ" ซึ่งแปลว่า ผู้ไกลจากกิเลส จนเป็นที่รู้จักกว้างขวาง ต่อมาได้อุปสมบทเป็นภิกษุในธรรมยุติกนิกายเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2517 ณ พัทธสีมาวัดรัตนาราม อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช
พระวินัยถือเป็นพระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในยุคนั้น ซึ่ง พระพยอม กัลยาโณ เคยกล่าวถึงอดีตพระยันตระว่า "ต้องยอมรับว่าในอดีตที่ผ่านมา อดีตพระยันตระมีชื่อเสียงโด่งดังมาก ถึงกับขนาดมีคนที่เตรียมของใส่บาตร รอวนใส่บาตรเป็นรอบที่สองที่สาม เพราะใครๆ ก็อยากเห็นอยากเจอตัวพระที่รูปหล่อ เสียงเพราะ พูดภาษาอังกฤษได้ จนวัดแทบแตก" ด้วยวัตรปฏิบัติรวมถึงคำสอนที่เน้นแนวทางปฏิบัติกรรมฐานซึ่งได้รับการยอมรับจากนักวิชาการศาสนาว่าถูกต้องกับพระไตรปิฎก ทำให้ผู้คนเลื่อมใส มีการตีพิมพ์เผยแพร่คำสอนรวมถึงได้รับนิมนต์ไปเทศนายังที่ต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ
นอกจากนี้ยังมีผู้ศรัทธาสร้างสำนักวัดถวายเขาหลายแห่ง โดยทุกวัดที่สร้างในสำนักเขาจะใช้คำว่า "สุญญตาราม" ประกอบด้วยเสมอ สำนักที่เป็นที่รู้จักดีคือ วัดป่าสุญญตาราม กาญจนบุรี และยังมีสำนักวัดป่าสุญญตารามของเขาในต่างประเทศอีกหลายแห่ง เช่นที่ วัดป่าสุญญตาราม เมืองบันดานูน รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เป็นต้น
ในปี พ.ศ. 2537 อดีตพระยันตระถูกฟ้องร้องหลายข้อหาและถูกตั้งอธิกรณ์ว่าล่วงละเมิดเมถุนธรรมปาราชิกาบัติ (ชื่ออาบัติหนักที่สุดในพระวินัย เมื่อภิกษุล่วงละเมิดแม้เพียงข้อใดข้อหนึ่งต้องขาดจากความเป็นภิกษุทันที บวชเป็นภิกษุอีกไม่ได้ มี 4 ข้อ คือ 1.เสพเมถุน 2.ลักทรัพย์ 3.ฆ่ามนุษย์ 4.อวดอุตริมนุสธรรม)
สีกากลุ่มหนึ่งยื่นหนังสือร้องเรียน ต่อสมเด็จพระสังฆราชฯ และอธิบดีกรมการศาสนาในขณะนั้นว่า อดีตพระยันตระเดินทางไปแสดงธรรมเทศนาที่ทวีปยุโรป ระหว่างลงเรือเดินสมุทรได้มีเพศสัมพันธ์กับสตรีบนดาดฟ้าเรือเดินสมุทรระหว่างทางจากประเทศสวีเดนไปยังประเทศฟินแลนด์ โดยเฉพาะกับนางจันทิมา มายะรังษี ถึงขั้นพาเด็กหญิงซึ่งอ้างว่าเป็นบุตรสาวมาแสดงตัว พร้อมกับนำภาพถ่ายการใช้ชีวิตเยี่ยงสามีภรรยามาเปิดเผย มีการท้าให้ตรวจดีเอ็นเอ มีการเปิดเผยสลิปบัตรเครดิตที่มีโยมอุปัฏฐากบริจาคให้ ซึ่งถูกนำไปใช้ในสถานบริการทางเพศในประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ รวมทั้งหลักฐานการเปิดโรงแรมและเช่ารถร่วมกับสตรีเพียงสองต่อสอง
จนในที่สุดเขาได้ถูกมติมหาเถรสมาคมพิจารณาอธิกรณ์ปรับให้เขาพ้นจากความเป็นพระภิกษุ เพราะพิจารณาได้ความว่าเขาต้องอาบัติหนักดังที่ถูกฟ้องร้อง แต่นายวินัยไม่ยอมรับมติสงฆ์ดังกล่าว ด้วยการปฏิญาณตนว่ายังเป็นพระภิกษุและเปลี่ยนสีจีวรเป็นสีเขียว ทำให้ถูกสื่อต่าง ๆ ขนานนามว่า จิ้งเขียว, สมียันดะ, ยันดะ เป็นต้น ก่อนที่จะมีข่าวว่าออกจากประเทศไทยไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกาและได้รับสถานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง
จากนั้น 20 ปีต่อมา อดีตพระยันตระ กลับมาปรากฏตัวที่ไทยอีกครั้ง เมื่อคดีหมดอายุความ เมื่อเดือนเมษายนปี 2557 และยังกลับมาเป็นระยะๆ ซึ่งครั้งล่าสุดที่กลับไทยคือ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 โดยเดินทางมาลงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งมีลูกศิษย์ที่ยังคงให้ความเคารพและเลื่อมใสเดินทางมาต้อนรับเช่นเคย และยังมีคลิปวิดีโอ ที่อดีตพระยันตระ เดินทางไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ที่ท้องสนามหลวงด้วย
ก่อนที่เฟซบุ๊กเพจ “Suññataram California Monastery PhraAjahn Yantra Amaro” จะประกาศว่า “ขอน้อมถวายความอาลัย น้อมส่งหลวงพ่อสู่พระนิพพาน พระอาจารย์ยันตระ อมโร ประธานสงฆ์ และผู้นำทางจิตวิณญาณวัดสุญญตาราม ได้ละสังขารแล้ว เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2025 ณ วัดสุญญตาราม เอสคอนดิโด้ Sunnataram California Monastery 9560 West Lilac Rd. Escondido CA 92026 สิริรวมอายุ 73 ปี พรรษา 51”
Advertisement