ความคืบหน้าโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงินหมื่นเดินทางมาถึงระยะ 3 หรือแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 3 อย่างที่เราทราบกันว่า 2 ครั้งที่ผ่านมานั้น รัฐบาลได้แจกให้กลุ่มเป้าหมายไปแล้ว 2 เฟส เฟสแรกแจกให้กลุ่มเปราะบางผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และบัตรคนพิการ ประมาณ 14.5 ล้านคน สำหรับเฟส 2 แจกให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป อีกประมาณ 3 ล้านคน ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการโอนรอบเก็บตกไปจนถึงเดือนเมษายน
ทั้งนี้ ทั้ง 2 เฟสที่ผ่านมา มีผู้ได้รับสิทธิประมาณ 17 ล้านคนเศษ ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 1.85 แสนล้านบาท ปัจจุบันมีงบประมาณเหลือราว 1.5 แสนล้านบาท เท่ากับว่าสิทธิที่เหลือมีไม่เกิน 15 ล้านคน
ล่าสุด ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้ข้อสรุปแล้วว่า การแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 3 รอบนี้จะแจกให้ในรูปแบบ "เงินดิจิทัลวอลเล็ต" สำหรับกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 16-20 ปี เพราะอายุกำลังเหมาะสมกับการเข้าใจการใช้เทคโนโลยี เพราะรอบนี้จะแจกเป็นเงินดิจิททัลวอลเล็ต กลุ่มนี้มีตัวเลขกลม ๆ อยู่ที่ 2.7 ล้านคน ส่วนกลุ่มที่อายุเกิน 20-60 ปี รัฐบาลจะดูความเหมาะสมในช่วงเวลาแจกอีกครั้งหนึ่ง โดยรัฐบาลยืนยันว่าจะได้เงินครบทุกคนทุกกลุ่ม
แจกเงิน 10,000 บาท เฟส 3 วันไหน ?
ไทม์ไลน์การแจกจะเคาะวันแจก หลังนำวาระเข้าสู่ที่ประชุม ครม. คาดว่าเร็วสุด คือภายในไตรมาส 2 หรือช่วงต้นไตรมาส 3 ปี 2568 ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับงบประมาณที่ใช้เป็นหลัก ซึ่งเฟส 3 ต้องใช้งบประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาท หากแจกเงินให้กลุ่มเป้าหมายเฟส 3 แล้ว จะทำให้มีวงเงินงบประมาณเหลืออยู่อีก 1.2 แสนล้านบาท สำหรับเหลือแจกในรอบถัดไป ซึ่งเท่ากับว่าเหลือสิทธิเป็นตัวเลขกลม ๆ 12 ล้านคน
เงิน 10,000 เฟส 3 ใช้จ่ายอะไรได้บ้าง ?
ล่าสุด รัฐบาลตัดเงื่อนไขเดิมออก คือ ตัดรายการสินค้าต้องห้าม (Negative List) ออกทั้งหมด เพราะได้ตรวจสอบร้านค้าที่ขึ้นทะเบียนแล้ว เพื่อให้คนกลุ่มนี้ใช้จ่ายได้สะดวกขึ้น เช่น ซื้อสินค้าร้านโชห่วย หรือร้านที่มีสินค้าหลายประเภท เปิดให้ร้านค้าทุกประเภทสามารถถอนเงินสดออกมาได้ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ
เงื่อนไขการใช้จ่าย ?
1. ใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" เป็นระบบดิจิทัลวอลเล็ต สแกน QR code
2. ใช้จ่ายซื้อสินค้าภายในร้านค้าหรือห้าง เฉพาะที่อยู่ในพื้นที่เขต หรืออำเภอที่มีอยู่ตามทะเบียนบ้าน
3. ใช้จ่ายได้ประมาณปลายไตรมาส 2 หรือต้นไตรมาส 3 ปี 2568
Advertisement