ฉันจะทำเพื่อความสุขในบั้นปลายชีวิต "แม่โสภิต" เน็ตไอดอลรุ่นใหญ่ 60+ ยังแจ๋ว และเบื้องหลังชีวิตกว่าจะมาถึงวันนี้ ผ่านเรื่องราวความผิดพลาดนับไม่ถ้วน
เป็นเน็ตไอดอลรุ่นใหญ่ที่สร้างพลังบวกให้กับผู้คนที่ได้ติดตามอย่างมาก สำหรับ แม่โสภิต สุนทรธนสถิตย์ เจ้าของเพจ SopitChitchat โสภิตชิทแชท ที่มีคนติดตามมากกว่า 2 แสนคน พลังบวกให้กับสาวๆ ได้มีความสุขกับการใช้ชีวิตและดูแลตัวเอง แต่รู้ไหมว่าเบื้องหลังกว่าจะมาถึงวันนี้เคยผ่านเรื่องราวความผิดพลาดมานับไม่ถ้วน
พี่เกิดในครอบครัวคนจีน เป็นครอบครัวใหญ่ 8 คน มีผู้หญิง 5 คน พ่อทำงาน แม่เป็นแม่บ้าน เงินเดือนก็แบบเดือนชนเดือน อยู่ที่ภาคใต้ ตอนนั้นมันก็มีผู้ก่อการร้าย ก็เลยได้ขึ้นมาอยู่กรุงเทพฯ ตื่นเต้นมากได้ขึ้นมาอยู่กรุงเทพฯ รู้ไหมครั้งแรกในชีวิตได้มาอยู่แฟลตที่อยู่ติดริมน้ำ ขึ้นบันไดไปชั้นสูงๆ เป็นห้องเล็กๆ ที่ถูกซอยอยู่กันแบบอัดแน่นมาก จุดนั้นต้องเรียกว่าเราจนก็แล้วกัน ที่ไหนมีงานให้เราทำ เราก็ไปหาไปทำกับแม่ ทำทุกอย่างเพื่อให้มีรายได้เข้ามา
เรื่องราวสุดน่าอาย
มีเรื่องหนึ่งที่อายมาก ที่ไม่เคยเล่าที่ไหนเลย สมัยก่อนเราเรียน มศ. เนอะ เพื่อนพาไปเดินห้าง สมัยก่อนมีกำไรนาคสร้อยนาค ใครมีถือว่าโอเคแล้วนะ เราก็ไปเดินห้างกับเพื่อน เพื่อนก็บอกให้หยิบ เราเห็นเพื่อนหยิบก็หยิบบ้าง แต่เพื่อนรอด เราไม่รอด โดนจับได้ ซึ่งมันคือการขโมย หยิบของที่ไม่ใช่ของๆ เรา แล้วหลังจากนั้นรู้ไหมเกิดอะไรขึ้น สร้อยดิฉันหาย สร้อยของตัวเองที่แพงกว่าของที่เราหยิบอีก เพราะมันหล่นระหว่างที่เราไปทำความสะอาด เก็บของเก็บทิ้งขยะ จากที่เราไปหยิบของของเขามาแล้วถูกจับได้ เพราะเราโดนทำโทษไม่ได้ปรับเงิน
โดนกดดันตั้งแต่เด็ก
สิ่งที่เป็นแรงกดดันสำหรับชีวิตก็คือ "คนในบ้าน" ที่มักจะบอกเราว่า เธอต้องไปเรียนโรงเรียนที่ดีที่สุด ไปแข่งขันกับคนเก่งๆ นี่ก็บอก "แต่ฉันไม่เก่งไง ให้ไปแข่งขันกับคนเยอะๆ เพื่อจะเข้าไปโรงเรียนก่งๆ ฉันทำไม่ได้" แล้วสุดท้ายก็ทำไม่ได้จริงๆ เพราะเราบอกตัวเองเสมอว่าฉันไม่เก่ง เป็นคนบ้านนอกที่เข้ามาอยู่ในกรุง ภาษาอังกฤษฉันก็ไม่ดี อะไรก็ไม่ดี
แล้วฉันก็ไปเรียนจนจบพาณิชย์ พ่อบอกว่าเป็นคนจีน ไม่ต้องเรียนสูงหรอก จบพาณิชย์ก็พอแล้ว ไม่ส่งแล้วนะ ส่งไม่ได้ แต่พี่สาวบอกไม่ต้อง เอาเป็นว่าแจ้จะส่งเรียนเอง
ชอบดูถูกตัวเองว่าไม่เก่ง
คือจะบอกว่าฉันไม่เก่ง จะเล่าเรื่องน่าอายก่อนก็แล้วกันเนอะ ฉันไปเรียนเอาปริญญาเรียนมหาลัย ก็กดว่าตัวเองไม่เก่งไง ก็เลยลอกข้อสอบนั่นนี่ สุดท้ายถูกจับได้ อาจารย์เห็น ถูกดรอป เกรดก็ถูกตัด อันนี้ไม่อายที่จะเล่าให้ฟัง ต้องเล่าเพราะมันเป็นบทเรียนชีวิต ความผิดพลาดที่มันเกิดขึ้นเพราะเรา ที่มักจะบอกตัวเองว่าเราไม่เก่ง ตอนนั้นมันเสียใจมาก รู้สึกว่าตัวเองแย่มาก ฉันเหลวไหลมาก ทำให้พี่ที่ส่งฉันเรียนหมดค่าเทอมไปเยอะมาก ก็เลยรู้สึกไม่อยากเรียนแล้ว แต่พี่สาวก็บอกไปเรียนเถอะ เลยไปอีกมหาวิทยาลัยหนึ่ง คุณรู้ไหมฉันจบภายใน 3 ปี ตอนนั้นรู้สึกว่าฉันเก่งนี่หน่า แล้วทำไมบอกตัวเองว่าไม่เก่ง พอเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นมามันก็เป็นบทเรียนให้เราบอกกับลูกๆ ให้สอนกับทุกคนว่า อย่าคิดว่าตัวเองทำไม่ได้ ได้ลองทำดูแล้วหรือยัง
บทพิสูจน์วัยทำงาน
พอเรียนจบก็ได้ไปทำงานที่หนึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดซื้อ เจ้านายก็ให้เราเลือกทำ มีเลขาแล้วก็มีจัดซื้อ เราคิดว่าเราเป็นเลขาไม่เหมาะ เพราะว่าแนวโน้มคนชอบบอกว่าอีนี่น่าจะไปเป็นเมียน้อยเจ้านายได้ ด้วยรูปร่างหน้าตาเรา กิริยาเราไม่ใช่คนเรียบร้อยไง สุดท้ายก็เลือกจัดซื้อเพราะเป็นสิ่งที่ท้าทาย มันมีโอกาส เขาเห็นในความขยันทำงานของเรา สนับสนุนให้เราเป็นผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ซึ่งตอนนั้นมีคนงาน 700-800 คน
รักแท้เกิดในที่ทำงาน
พร้อมมรสุมชีวิตเป็นบททดสอบชีวิตคู่
ตอนนั้นไปเจอแฟนที่นั่น แฟนเขามาขายของ ก็เลยได้พบรักมาถึงวันนี้ ฉันหมายมั่นปั้นมือมากว่าต้องเป็นคนนี้ เคยไหม เจอคนแล้วมันรู้สึกใช่ มรสุมชีวิตมีเยอะมาก สามีทำงานแล้ววันนึงก็อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ สร้างโรงงานแต่เงินไม่มี ก็ไปขอเจ้าของที่ บอกว่าเฮียหนูไม่มีเงินเลย หนูขอก่อนได้ไหมเดี๋ยวหนูกู้แบงค์แล้วมาคืน เฮีย เขาก็ให้ เขาไม่ใช่ญาติเราแต่เขาให้ สมัยก่อนเป็น 10 ล้าน แอบร้องไห้เลยนะ แล้วเราจะทำยังไง เราสองคนรู้ว่านาวาเรือจะไม่ทิ้งเรือ เราเป็นลูกเรือที่พร้อมผจญภัยในเรือลำนั้น แล้วพาลูกอีก 3 คน มาถึงฝั่ง สิ่งที่เรามีที่เรารอดมาได้เพราะเราสองคนไม่ปล่อยมือกัน ทุกวันนี้ก็เลยบอกเขาเสมอว่า ช่วยรักตัวเองให้มากๆ นะ รอให้เราจากไปก่อน เพราะเราอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา
กลัวจน
เราเห็นคุณค่าในสิ่งที่เราสร้างมาทุกอย่าง และเราก็รักในสิ่งที่เราหวงแหน เรากลัวจนเพราะเราเคยจน กลัวลำบากไหม เราไม่กลัวลำบาก เราลำบากได้อีก แต่ทำไมเราต้องกลับไปลำบากล่ะ
บทพิสูจน์หัวใจพ่อแม่
พี่มีลูกสามคน คนโตเป็นผู้หญิง วันนึงเขาถามเราว่ามามี้ขา..มามี้จะเสียใจไหมถ้าหนูจะรักกับผู้หญิงด้วยกัน ขอโทษที่ทำให้มามี้ผิดหวัง เราบอกไม่ผิดหวัง ถ้าเป็นความสุขลูก ไม่เป็นไรเลย
ลึกๆ ในใจ มันก็คงมีนิดนึงเนอะ แต่เราก็กอดลูก นอนไม่หลับกลับมาจะบอกพ่อเขายังไง แต่สุดท้ายก็ต้องบอก ก็บอกเฮียขาหนูมีเรื่องจะเล่านะ เล่าจบเขาก็เงียบไปสองวันนะ ก็รับได้ แล้วทุกวันนี้ก็รับได้จริงๆ ถามว่าเห้ยคุณแม่ทำไมโคตรเปิดใจเลย เมื่อสมัยก่อน เพื่อนดิฉัน ป.3 เป็นทอม มศ. เป็นทอม เพื่อนเป็นทอมหมด ฉันอยู่กับเพื่อนเหล่านั้นได้ แล้วทำไมลูกฉันจะเป็นอะไรสักอย่าง แล้วฉันรับลูกฉันไม่ได้
บั้นปลายชีวิต "แก่อย่างมีความสุข"
61 ปี ก็เรียกว่าบั้นปลายชีวิตแล้วเนอะ ก็ตอบไม่ได้ว่าพรุ่งนี้จะมีอยู่จริงไหม เพราะเราแก่แล้ว อะไรก็ตามที่เป็นความสุขในช่วงเวลาที่เหลือของตัวเอง ฉันจะทำมัน การแต่งตัวมันก็แค่รูปลักษณ์ภายนอก ไม่ได้ทำให้ชีวิตเราเป็นคนไม่ดีนะ หลายปีก่อนฉันลงรูปชุดว่ายน้ำทูพีซ คนก็รู้จักฉัน ชื่นชมว่าเป็นคนแก่ที่ดูแลสุขภาพ ก็ต้องบอกว่าเราดูแลสุขภาพเพราะเรายังอยากมีชีวิตอยู่ไง เป็นแรงบันดาลใจให้คนลุกขึ้นมาแต่งตัว ถ้าถามเคล็ดลับความสวย ฉันไม่รู้ว่าฉันสวยหรอก จริงๆ ไม่ใช่คนสวย หน้าไม่ได้ไปทำอะไรเลย ไม่ได้ฉีดอะไร หน้าอกคุณสามีให้มา เขาพาไปทำ
ถ้าวันนึงต้องจากโลกนี้ไปเสียดายชีวิตไหม ตอบว่าคงไม่เสียดายแล้ว เพราะว่าถ้าลูกจะมีเรื่องเล่าให้หลานเหลนฟัง กลับไปดูเรื่องราวของแม่ไปเสิร์ช โสภิต สุนทรธนสถิตย์ SopitChitchat โสภิตชิทแชท ให้อะไรกับสังคม เป็นแรงบันดาลใจให้ใครบ้าง หรือมีเรื่องราวดีๆ ที่เป็นสตอรี่ที่แม่เขียนไว้ บันทึกไดอารี่ความสุข แล้วลูกมีเรื่องเล่าให้หลานฟัง ฉันมีสิ่งที่ผิดพลาดในชีวิต ฉันมีสิ่งดีๆ ฉันมีต้นทุนชีวิตที่แตกต่างแล้วฉันรู้สึกว่าการที่มายืนถึงวันนี้ได้ ฉันว่าฉันครบร้อยแล้วนะ...
Advertisement