วันที่ 14 มี.ค. 68 นาย ขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย พล.ต.ต.เกรียงไกร บุญซ้อน ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา นายอำนวย เกษตรสินธ์นุกูล นายอำเภอท่าตะเกียบ ประชุมติดตามความคืบหน้า การแก้ไขปัญหา กรณีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อปลูกทุเรียน พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบสวนทุเรียน ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ร่วมกับผู้นำท้องถิ่น นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองตะเกรา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่หลายฝ่าย และสื่อมวลชน ณ ห้องประชุมชั้น 2 องค์การบริหารส่วนตำบลคลองตะเกรา
โดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจังหวัดฉะเชิงเทรา และหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ท่าตะเกียบร่วมกันตรวจสอบ การบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า และการครอบครองป่าสงวนแห่งชาติป่าแควระบม และป่าสียัด โดยไม่ได้รับอนุญาตในท้องที่ตำบลคลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ พบการปลูกทุเรียนในเขตป่าสงวนฯ โดยนายทุนจำนวน 2 แปลง
โดยเบื้องต้นผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราได้มอบแนวทางดำเนินการกรณีกลุ่มทุนปลูกทุเรียนในแปลง คทช. ที่ได้รับอนุญาต (ยังไม่จัดที่ดินให้ราษฎร) แนวทางที่ 1.ผวจ./ผู้แทนแจ้งความดำเนินคดี จังหวัดรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและพืชอาสิน จังหวัดปลูกฟื้นฟูสภาพป่า
แนวทางที่2 ผวจ./ผู้แทนแจ้งความดำเนินคดี จังหวัดส่งคืนพื้นที่ให้กรมป่าไม้ กรมป่าไม้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและพืชอาสิน กรมป่าไม้ปลูกฟื้นฟูสภาพป่า
แนวทางที่3 กรมป่าไม้แจ้งความดำเนินคดี กรมป่าไม้ขอคืนพื้นที่ กรมป่าไม้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและพืชอาสิน กรมป่าไม้ปลูกฟื้นฟูสภาพป่าต่อไป
ต่อมานาย บุญนาค พรพจน์ธนมาศ นายกอบต.คลองตะเกรา ได้นำผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมคณะฯลงพื้นที่แปลงทุเรียนในพื้นที่หมู่ที่ 14 บ้านเขากล้วยไม้ หมู่ที่ 20 บ้านห้วยนา พบชาวบ้านที่ทำกินในพื้นที่พากันมารับฟังแนวทางด้วย ชาวบ้านหลายรายต่างให้การกับตำรวจสอบสวนกลางต่อหน้าผู้ว่าราชการจังหวัดว่า ตนทำกินมานานนับสิบๆ ปี จู่ๆ เจ้าหน้าที่มาเชิญให้ปากคำ ทำให้ต่างพากันตกใจงง ทำไมมีกลุ่มทุนมาปลูกทุเรียนทับที่ตน บางรายก็งงถูกใช้ชื่อไปสวมสิทธิ์ได้อย่างไร ชาวบ้านร้องผ่านสื่อต่อหน้าหน่วยงานขอความเป็นธรรมให้ชาวบ้านเราด้วย ยืนยันไม่ทราบมาก่อนว่า กลุ่มทุนมาปลูกทุเรียนทับที่ตน
ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา บอกว่า ชาวบ้านว่าไม่ต้องกลัว ให้กลับไปหาเอกสารแจ้งกำนันผู้ใหญ่บ้าน นำชี้แจงหน่วยงานให้ได้ ชี้แปลงที่ดินทำกินของตนเองให้ได้ ความยุติธรรม ความถูกต้องมีจริง ในส่วนตำรวจสอบสวมกลางเตรียมลงพื้นที่ต่อ เพื่อสอบชาวบ้านในที่ดินทำกินด้วย แปลกใจทำไมไปมีชื่อทับซ้อนในบางแปลง
ด้านการสอบสวนทางคดี ตอนนี้พล.ต.ต.เกรียงไกร บุญซ้อน ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทราก็ให้ทางรองผู้บังคับการดำเนินนำสอบไปแล้ว 3 ราย รวมถึงคนจันทบุรี ตราด แต่มามีชื่อในที่ดินสวนทุเรียนใน อ.ท่าตะเกียบ และสำหรับวันนี้ที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดฉะเชิงเทรา นำเอกสารแผนที่มารายงานในเบื้องต้น เตรียมนำตรวจสอบ หลังพบพื้นที่รุกเพิ่มอีก 300 ร้อยไร่เศษ ซึ่งทางผู้ว่าฯก็ให้ไปตรวจสอบให้ชัดพร้อมกำชับทุกหน่วยงานบูรณาการทำงานตรงไปตรงมา เพื่อประโยชน์ต่อแผ่นดิน
Advertisement