วันที่ 18 มี.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวประมงเรือเล็กชายฝั่งแสมสาร และพ่อค้าแม่ค้าอาหารทะเลสด บริเวณโค้งศาลพญายม ชุมชนบ้านช่องแสมสาร ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากปัญหา ปลาหมอคางดำระบาดในท้องทะเล แนวชายฝั่งอ่าวแสมสาร ส่งผลให้ระบบนิเวศในทะเลเสียหาย สร้างความเดือดร้อน จึงรวมตัวเรียกร้องผ่านสื่อ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน
ต่อมา น.ส.อุรุอายา บุญนำมา ประมงอำภอสัตหีบ พร้อมด้วยนายประเสริฐ พิทักษ์กรณ์ นายกสมาคมการประมงแสมสาร ลงพื้นที่มาตรวจสอบ ยืนยันเป็น ปลาหมอคางดำจริง จึงได้รายงานปัญหาไปยังประมงจังหวัดชลบุรี เพื่อหาแนวทางแก้ไข
ด้านนายประเสริฐ พิทักษ์กรณ์ นายกสมาคมการประมงแสมสาร กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาเร่งคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งการแพร่ระบาดของ ปลาหมอคางดำอาจกำลังขยายพันธุ์กระจายตัวเป็นวงกว้าง โดยจะให้ชาวประมงเรือเล็กช่วยกันนำอวนวางล้อมจับนำมาขายให้เรือวางลอบ เพื่อเป็นเหยื่อล่อปูและปลา เพราะปลาหมอคางดำมีลักษณ์คล้ายปลานิล ซึ่งมีความคาว โดยชาวประมงเดิมใช้เป็นเหยื่อล่อจะให้มาใช้ปลาหมอคางดำเป็นเหยื่อล่อแทน เพื่อเป็นการสร้างรายได้ และลดประชากรของปลาหมอคางดำให้หมดสิ้นไปจากท้องทะเลแสมสาร
นายนที เสียงเสนาะ อายุ 32 ปี ชาวประมง ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 16 มี.ค. 68 ได้นำเรือประมงเล็กออกไปวางอวนดักปลากระบอก บริเวณหาดขลอด ระหว่างกองการบินทหารเรือ และค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า ได้มองเห็นฝูงปลากระบอกกระโดดขึ้นเหนือผิวน้ำ เหมือนจะหนีสัตว์บางชนิด จึงได้ลงอวน เพื่อล้อมปลา ปรากฎว่าได้ปลาหมอคางดำมาหลายตัว ส่วนปลากระบอกได้มาเพียงไม่มากเหมือนเช่นเคย
ผู้สื่อข่าวเปิดเผยว่า บริเวณที่ชาวประมงล้อมอวนได้ปลาหมอคางดำไม่ห่างจากชายฝั่งมากนัก และเป็นช่องทางที่น้ำจืดไหลลงสู่ทะเล ทั้งจากคลองบางไผ่ และคลองอู่ตะเภา ซึ่งสันนิษฐานได้ว่าปลาหมอคางดำอาจจะหลุดรอดเข้ามาจากช่องทางน้ำจืด บริเวณดังกล่าว รวมถึงเส้นทางอื่นๆ ก่อนมาดำรงชีวิตขยายพันธุ์อยู่ในทะเลแสมสารก็เป็นได้
Advertisement