ปรากฏการณ์เดินหน้าปราบปราม "บุหรี่ไฟฟ้า" ของรัฐบาล ที่นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ลั่นวาจาไว้ว่า "ไม่จบไม่เลิก" สั่งการหน่วยงานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งทลายโกดังใหญ่ หวังตัดตอนผู้ค้ารายย่อย ขยายผลตัดรากถอนโคน ตั้งแต่ขบวนการน้ำเข้า เพิ่มช่องทางออนไลน์แจ้งเบาะแส นอกจากนี้ ยังเรียกประชุมติดตามการบ้านเป็นรายสัปดาห์ จนตอนนี้คืบหน้าไปมาก เห็นได้จากสถิติการเข้าจับกุมผู้กระทำความผิด จำนวนของกลาง และร้านค้าออนไลน์ที่ลดจำนวนลงอย่างเห็นได้ขัด
"บุหรี่ไฟฟ้า" นอกจากจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างเลวร้ายแล้ว ยังมีโทษตามกฎหมาย ทั้งผู้ค้า ผู้ครอบครอง และผู้สูบ
1. ผู้ขายหรือผู้ให้บริการบุหรี่ไฟฟ้า
ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า "บารากู่ บารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า" ฝ่าฝืนจะมีความผิดตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. ผู้นำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า
มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 5 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ ริบบุหรี่ไฟฟ้า รวมทั้งสิ่งที่ใช้บรรจุและพาหนะใด ๆ ที่ใช้ในการบรรทุกสินค้าบุหรี่ไฟฟ้านั้นด้วย นอกจากนี้ ยังถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 244 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3. ผู้ครอบครองหรือรับฝากไว้
มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 246 วรรคหนึ่งของ พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560
4. สูบในที่สาธารณะ
หากสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่มี "นิโคติน" เป็นส่วนประกอบ "ในเขตปลอดบุหรี่" ถือเป็นความผิดตามมาตรา 42 ของ พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท (บัญญัติไว้ในมาตรา 67)
Advertisement