ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุนสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสัญญา นิลสุพรรณ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานกมธ. ได้เชิญผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน มาชี้แจง หลังเกิดปัญหาด้านภาพลักษณ์ และความน่าเชื่อถือ พร้อมถูกตั้งคำถามถึงเรื่องความโปร่งใส จากเหตุการณ์ตึกสตง.แห่งใหม่ถล่ม โดย ผู้ว่าฯสตง. ได้มอบหมาย นายสุทธิพงษ์ บุญนิธิ และนางพิมพา วภักดิ์เพชร รองผู้ว่าฯสตง. พร้อมคณะมาชี้แจงแทน และถือว่าเป็นครั้งแรกที่ สตง. มาชี้แจงเรื่องนี้
โดย นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ยินดีชี้แจง เพราะต้องการนำเสนอข้อเท็จจริง เพราะมั่นใจในการปฎิบัติหน้าที่ แต่ถนนสุดสายวิ่งมาที่ สตง. แมลงวันบินผ่านก็ด่าได้ วันนี้จึงอยากพูดข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น โดยโครงการนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่พิเศษ เพราะฉะนั้นการก่อสร้างทั้งหมดต้องจ้างออกแบบและจ้างควบคุมงาน ส่วนเรื่องการป้องกันแผ่นดินไหว ต้องไปถามผู้ออกแบบ ซึ่งเข้าก็บอกว่าดำเนินการแล้ว
นายสุทธิพงษ์ ยังกล่าวต่อด้วยว่า มีการตั้งคำถาม ว่า มีคนแค่ 500 คนทำไมต้องสร้างตึกใหญ่โต คนที่พูดแสดงว่าไม่มีความรู้จริงๆ สตง.มีพนักงาน 4,000 คน จึงต้องสร้างตึกสูงแบบนี้ เห็นเมื่อไรก็เสียใจทุกครั้ง เพราะตอนนี้ไม่มีให้เห็นแล้ว พร้อมยืนยัน การดำเนินการทุกอย่างยึดหลักกฎหมาย ตั้งแต่จ้างผู้ออกแบบ มีการแต่งตั้งกรรมการจ้างออกแบบ ส่งหนังสื่อเชิญผู้ให้บริการมา 24 ราย แต่มายื่นข้อเสนอ 3 ราย จากนั้นคณะกรรมการพิจารณาตามเกณฑ์คะแนน พบว่า บริษัท บจก.ฟอ-รัม อาร์คิเทค และ บจก.ไมนฮาร์ท ประเทศไทย ได้รับคะแนน 91.12 คะแนน จึงอนุมัติจ้างออกแบบ ในวงเงิน 73 ล้านบาท จากนั้นคัดเลือกบริษัทควบคุมงาน คณะกรรมการได้ส่งหนังสือเชิญผู้ให้บริการ จำนวน 19 ราย มี 5 รายที่ส่งข้อเสนอมา ระหว่างนั้น สตง.ได้ขอเข้าร่วมข้อตกลงคุณธรรมด้วย แต่คณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต แจ้งไม่คัดเลือกตึก สตง.เข้าร่วมข้อตกลงคุณธรรม
ขณะที่การจัดซื้อจัดจ้างก็เป็นไปตามเงื่อนไขของกรมบัญชีกลาง ซึ่งมีผู้เข้าประกวดราคา 16 ราย แต่ "กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี" เป็นผู้ชนะการประกวดราคา โดยไม่พบช่องว่า มีการฮั้ว และคำตอบที่ได้รับ คือบริษัทดังกล่าวมีทุน และเทคโนโลยีจากจีน และบริษัทก็อ้างว่าทำงานได้ แม้จะได้งบประมาณตามที่เสนอราคาไว้ นอกจากนี้เพื่อความโปร่งใส สตง.ยังได้ทำ MOU กับ ACT องค์การต่อต้านคอรัปชั่น ประเทศไทย เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบร่วมด้วย
นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อด้วยว่า ระยะเวลา ก่อสร้าง 3 ปี ขยาย 2 ครั้ง เนื่องจากโควิดและมีการปรับรูปแบบ แต่นี่ 4 ปี เพิ่งได้ 33 % เพราะผู้รับก่อสร้างมีปัญหาเรื่องทุน คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ จึงมีมติบอกเลิกสัญญา เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 68 แล้ว และอยู่ระหว่างการเสนอผู้มีอำนาจดำเนินการ แต่ปรากฏว่ามาเกิดเหตุเสียก่อน พร้อมยืนยันว่า ไม่เคยรู้เรื่องบริษัทจีนที่มาร่วม เพราะอิตาเลียนไทยออกหน้ามาตลอด สตง.ยังดีอยู่เลยที่ได้บริษัทที่มีระดับเบอร์ 1 ของประเทศ
หลังจากนั้นประธานในที่ประชุม ได้ขอเชิญสื่อมวลชน ออกจากห้องประชุมเนื่องจากต้องซักถามในประเด็นที่ละเอียดอ่อน
Advertisement