ชาวบ้านโวย หมูแพงสุดในรอบ 2 ปี หมูสามชั้นพุ่งกิโลกรัมละ 200 บาท

24 เม.ย. 68

15:24 น.

แชร์

ชาวบ้านโวย หมูแพงสุดในรอบ 2 ปี หมูสามชั้นพุ่งกิโลกรัมละ 200 บาท ค่าครองชีพพุ่งสูงสวนทางกับรายได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทำไมราคาหมูแพงที่สุดในรอบ 2 ปี?ตามหาหมูกระทะใกล้ฉันราคาแพงขึ้นหรือไม่?

เนื้อหมูแพงรับสงกรานต์ ราคาพุ่งทะลุกก.ละกว่า 200 บาท

อะไรจะแพงขึ้นบ้าง? ถ้าทรัมป์ไม่ระงับขึ้นภาษีนำเข้าแคนาดา-เม็กซิโก-จีน

วันนี้ 24 เม.ย.68 ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ภายหลังจากที่ราคาเนื้อหมูสดหน้าเขียงหมูได้ปรับราคาขึ้นสูงต่อเนื่อง โดยราคาเนื้อหมูแดงปรับขึ้นกิโลกรัมละ 190-200 บาท ส่วนหมูสามชั้นปรับขึ้นราคากิโลกรัมละ 190-200 บาท ส่งผลให้ประชาชนทั่วไปในฐานะผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากราคาเนื้อหมูที่ปรับขึ้นไม่หยุดมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายน

พ่อค้าหมูสดในตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง เปิดเผยว่า ราคาเนื้อหมูแพงช่วงนี้ขึ้นอย่างต่อเนื่อง มาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนแล้ว โดยราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มขึ้นมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 90 - 95 บาท และยังมีโอกาสขยับขึ้นไปเกินกิโลกรัมละ 100 บาท ส่งผลให้ราคาหมูหน้าเขียงปรับราคาเพิ่มโดย หมูสามชั้นกิโลกรัมละ 200 บาท หมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 180 บาท ซี่โครงกิโลกรัมละ 180 บาท หมู 2 ชั้นกิโลกรัมละ 180 บาท กระดูกสันหลังกิโลกรัมละ 170 บาท หมูบดกิโลกรัมละ 170 บาทและ ขาหมูกิโลกรัมละ 150 บาท

ทั้งนี้สาเหตุของการปรับขึ้นราคา มาจากปริมาณหมูเป็นในตลาดลดลง ประกอบกับต้นทุนการเลี้ยงหมูเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งจากราคาอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้น 30% เช่น กากถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นจากกิโลกรัมละ 16 บาท เป็น 21.50 บาท ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากกิโลกรัมละ 6.50 บาท เป็น 10.50 บาท และยังมีค่าใช้จ่ายดูแลป้องกันโรคติดต่ออีก จึงส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคที่ต้องแบกรับรายจ่ายเพิ่มขึ้นและยังไม่รวมค่าครองชีพอย่างอื่นที่ทยอยปรับขึ้น สวนทางกับรายได้ครัวเรือนเปราะบางในยุคเศรษฐกิจตกต่ำเช่นนี้

ส่วนที่จังหวัดนครราชสีมาเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนแล้ว ทำให้บางวันนั้นมีอุณภูมิที่ร้อนไปแตะ 35 องศาฯ ซึ่งจากสภาพอากาศที่ร้อนดังกล่าวนั้น ส่งผลกระทบกับแม่ค้าที่จำหน่ายอาหารสด อย่างอาหารทะเล เนื้อ ไก่ และหมูสด ซึ่งจะต้องดูแลอย่างดี ไม่เช่นนั้นอาหารสดที่วางจำหน่ายจะเน่าเสียได้ง่ายจากอากาศร้อน ซึ่งจากเหตุผลดังกล่าวทำให้แม่ค้าที่จำหน่ายอาหารสดนั้นมีความจำเป็นที่จะต้องสั่งซื้อน้ำแข็งมากกว่าปกติเพื่อที่จะเอาไว้ใช้สำหรับแช่อาหารรวมไปถึงเอาไว้ใช้หน้าแผงสำหรับอาหารที่จะโชว์ให้กับลูกค้า

โดยนางสาวนันทิยา สุพันธุชาติ เจ้าของแผงหมู บอกว่า ตั้งแต่เข้าสู่ช่วงฤดูร้อนที่ร้านของตนนั้นก็มีการสั่งน้ำแข็งเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากน้ำแข็งละลายเร็วกว่าปกติ เนื่องจากที่ร้านของตนนั้นมีความจำเป็นที่ต้องใช้น้ำแข็งจำนวนมากตลอดทั้งวันทั้งเอาไว้สำหรับแช่หมูภายในลังและใช้สำหรับหน้าแผง นอกจากนี้อากาศที่ร้อนขึ้นนั้นอาจทำให้หมูของตนที่วางขายหน้าแผงนั้นเน่าเสียได้ ถึงแม้ที่ร้านของตนจะเป็นหมูสดที่ชำแหละเอง

ส่วนหมูที่โชว์บนแผงหน้าร้านนั้นก็ต้องหมั่นไปดูอยู่ตลอดเวลาและคอยกลับด้านหมูที่วางหน้าแผงให้โดนกับน้ำแข็งที่วางเอาไว้ด้านล่างอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถ้าไม่ทำแบบนี้อาจจะทำให้หมูเน่าเสียได้ โดยน้ำแข็งที่ร้านของตนนั้นสั่งเพิ่มขึ้นจากปกติซึ่งใช้น้ำแข็งวันละ 15 ถุง ในช่วงเข้าสู่ฤดูร้อนนั้นก็เพิ่มเป็น 20 ถุง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นถ้าอุณภูมิเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจากปัญหาดังกล่าวนั้นทำให้ต้นทุนที่ร้านของตนนั้นเพิ่มขึ้น และยังมาโดนปัญหาหมูแพงซ้ำไปอีก ก็ยิ่งทำให้ขายหมูทุกวันนี้แทบไม่เหลือกำไร