เสียงจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ สะท้อนวิกฤตการท่องเที่ยวไทย

เสียงบ่นจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สะท้อนอยู่ในโลกออนไลน์ในขณะนี้ กำลังเปิดเผยปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทย คอมเมนต์ที่ถูกหยิบยกขึ้นมานั้นจะชี้ให้เห็นถึงหลายปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวเริ่มหันหลังให้กับ "สยามเมืองยิ้ม" และเริ่มมองหาจุดหมายปลายทางใหม่ๆ ที่น่าสนใจและคุ้มค่ากว่า

 

ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น

 

หนึ่งในประเด็นหลักที่นักท่องเที่ยวต่างชาติพูดถึงคือ การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการเดินทางจากต่างประเทศมายังประเทศไทย ค่าเครื่องบินและค่าที่พักในปัจจุบันสูงขึ้นอย่างมาก ทำให้การท่องเที่ยวในประเทศไทยไม่คุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย

 

“คิดว่าเพราะราคาตั๋วเครื่องบินกับโรงแรมที่ราคาขึ้นสูงมาก”

 

“ตอนนี้ค่าเดินทางรวมๆ ขึ้นมา 25% เมื่อเทียบกับปีก่อน”

 

“ทุกปีไปกรุงเทพฯ ปีละหลายครั้ง เพราะราคาโรงแรมดี มีร้านขายของไม่แพงเยอะ แต่หลังโควิด ค่าตั๋วแพงมาก แพงจนไม่น่าไป”

 

“เพิ่งกลับไปแล้วพบว่ามันแพงขึ้นสองเท่า เลยไปอยู่เขมรหนึ่งอาทิตย์ นับเป็นการตัดสินใจที่ถูกมาก”

 

ปัญหาเรื่องความสะอาด

 

หลายพื้นที่ที่เคยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมกลับมีปัญหาเรื่องความสะอาดและการดูแลสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะชายหาดและสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น หลายคนเริ่มบ่นถึงปัญหาขยะและสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

 

“ตอนนี้อยู่ที่กระบี่และภูเก็ต สองที่นี้คนเยอะมาก แต่ก็น่าเศร้าที่หาดเริ่มสกปรก ภูเก็ตแย่กว่ากระบี่ เพิ่งไปหาดกะตะมาวันนี้ ขยะก็เต็มสองข้างทาง ฟุตบาทก็พัง พวกนี้ควรต้องปรับปรุงขนานใหญ่ ถ้าจะยังอยากทำเงินจากการท่องเที่ยวอยู่”

 

“ลองคิดดูว่ามันจะดีขึ้นแค่ไหน ถ้าพวกเขาปรับปรุงเรื่องความปลอดภัย ด้านโครงสร้าง ด้านมาเฟียแท็กซี่และตุ๊กตุ๊ก ทำความสะอาดบ้าง และทำให้การเดินเท้าสะดวกขึ้น แต่พวกเขาดูจะไม่อยากได้อะไรพวกนี้เลย”

 

“เพิ่งไปพัทยามาเดือนมกราคม หาดก็สกปรก รถก็ติด แน่นเกินไป ระบบระบายน้ำก็เหม็นหึ่ง ไม่ไปอีกแน่ๆ”

 

“หาดสกปรก น้ำเสีย พลาสติกเต็มไปหมด ไม่มีการบริหารจัดการของเสีย ไม่มีการดูแลธรรมชาติ เพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืน และไม่มีการพยายามแก้เรื่องฝุ่น รถติดเสียงดังแม้กระทั่งบนเกาะไปที่อื่นดีกว่า”

 

การแข่งขันจากประเทศอื่นๆ

 

การเปลี่ยนแปลงในนโยบายและการพัฒนาของประเทศต่างๆ ทำให้ประเทศไทยไม่ใช่ตัวเลือกเดียวสำหรับนักท่องเที่ยว ขณะที่ในหลายๆ ประเทศเริ่มพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการที่ดีกว่าและในราคาที่ต่ำกว่า ซึ่งทำให้หลายคนหันไปเที่ยวประเทศเหล่านั้นแทน

 

“กฎคนเข้าเมืองเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีกจนงง ไม่รู้อยู่นานได้แค่ไหน และไม่มีอะไรราคาถูกอีกต่อไป ประเทศข้างเคียงดูน่าสนใจ น่าเที่ยวกว่ามาก”

 

“ประเทศไทยเคยมีวันที่ดีและรุ่งเรือง แต่ตอนนี้มันผ่านไปละ มีที่ใหม่ๆ ที่น่าสนใจและถูกกว่ามาแทน”

 

“ปัญหาคือแต่ก่อนมีแต่ประเทศไทยเป็นตัวเลือก ตอนนี้มีหลายประเทศมากที่ต้อนรับนักท่องเที่ยว ประเทศใหม่ๆ เริ่มสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างรถไฟความเร็วสูงและอื่นๆ ซึ่งมันถูกกว่ามาก จะไปเวียดนาม เขมร ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตัวเลือกอีกเยอะ”

 

ปัญหาด้านความปลอดภัยและการบริการ

 

ความปลอดภัยและบริการที่ไม่ดีเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้หลายคนเลือกที่จะหลีกเลี่ยงประเทศไทย โดยเฉพาะในบางเมืองใหญ่ที่มีปัญหาความปลอดภัยสูง เช่น ปัญหาจากนักท่องเที่ยวด้วยกัน หรือความไม่สะดวกในบริการด้านต่างๆ

 

“เพิ่งโดนเก็บ 200 บาทเข้าอุทยาน แต่แฟนโดนเก็บแค่ 40 เพราะหน้าเหมือนคนไทย จะหานักท่องเที่ยววิธีนี้ ใครจะอยากมา”

 

“ขายกัญชาและให้สูบตามสบายนี่คือปัญหา”

 

“ปัญหาเยอะมาก ไม่รู้จะเลือกปัจจัยไหนดี คนไทยชอบซ้อมคนต่างชาติที่เริ่มเมา ตำรวจก็ไถทุกเรื่องจากนักท่องเที่ยว พวกแบ็คแพ็คที่มาเที่ยวก็ไม่มีตังค์ แล้วเริ่มทำตัวเป็นขอทาน ประเทศไทยดูจะเลี้ยวผิดทุกการตัดสินใจ คนที่ไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้ก็ไปประเทศอื่นดีกว่า โดยเฉพาะคนที่พอมีตังค์ใช้จ่ายตามประเทศยุโรป”

 

ปัจจัยต่างๆ ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่อาจนำไปสู่การสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ การปรับปรุงในหลายๆ ด้านทั้งในเรื่องของค่าใช้จ่าย การพัฒนาความสะอาด การรักษาความปลอดภัย และการยกระดับการบริการจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องได้รับความใส่ใจและดำเนินการอย่างเร่งด่วน