นักเรียนโวยยืนสูด PM 2.5 หลังครูไม่ยอมเลิกแถว ให้ทำกิจกรรมหน้าเสาธงใหม่อ้างร้องเพลงไม่ดัง เมื่อแย้งแล้วโดนตะคอกหยาบคาย รร.เรียกครูตักเตือนแล้ว
จากกรณีโซเชียลมีเดียแชร์คลิปจากทวิตเตอร์ ที่ถูกเผยแพร่โดยนักเรียนคนหนึ่ง ซึ่งเป็นนักเรียนจากโรงเรียนชื่อดังย่านอุดมสุขแห่งหนึ่งได้พูดคุยกับครู เพื่อขอให้ในเช้าวันนี้ยกเลิกการเข้าแถวตอนเช้าเนื่องจากปริมาณฝุ่นสูงเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่อาจารย์ไม่ได้ทำตามคำขอของนักเรียนคนดังกล่าว โดยเมื่อเข้าแถวแล้วร้องเพลงไม่ดัง จึงไม่ให้นักเรียนขึ้นชั้นเรียน ทั้งยังตะคอกนักเรียนด้วยคำหยาบคาย
ทีมข่าวเดินทางไปยังโรงเรียนดังกล่าวซึ่งตั้งอยู่ในซอยอุดมสุข 30 กรุงเทพมหานคร ได้พูดคุยกับ น.ส.เอ(นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นม.6 ผู้ถ่ายคลิป กล่าวว่าเมื่อวานนี้(14 ธ.ค.) เวลาประมาณ 08.00 น. ขณะที่กำลังเข้าแถวบริเวณสนามหน้าโรงเรียนซึ่งค่าฝุ่น PM 2.5 สูงมาก หลังจับกิจกรรมมีการปล่อยแถวระดับชั้นม.1- ม.5 โดยมีครูสอนวิชาคณิตศาสตร์รายหนึ่งซึ่งพูดหน้าแถวสั่งให้นักเรียนชั้น ม.6 ทำกิจกรรมใหม่ทั้งหมด โดยอ้างว่าร้องเพลงไม่ดัง
ตนจึงพูดตามคลิปว่าฝุ่น pm 2.5 สูงอยากให้ปล่อยแถวนักเรียนได้แล้ว เพราะห่วงปัญหาสุขภาพ แต่ครูกลับถามว่า ไหนฝุ่น พร้อมทั้งให้นักเรียนใส่มาส์ก ซึ่งนักเรียนทุกคนใส่อยู่แล้วแต่ไม่สามารถป้องกันได้แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ จึงมีการถกเถียงกันตามในคลิป โดยครูรายดังกล่าวพูดคำหยาบและเสียงดัง แต่ไม่ได้เรียกตนออกไปหน้าแถวแต่อย่างใด หลังจบคลิปนักเรียนชั้นม.6 ต้องร้องเพลงชาติ สวดมนต์ และร้องเพลงมาร์ชโรงเรียนใหม่อีกรอบ ใช้เวลาเกือบ 10 นาทีจึงได้ปล่อยแถว
โดยวันนี้ทางโรงเรียนได้ให้เข้าแถวบนอาคารเรียน หน้าห้องโฮมรูม ไม่ต้องลงมาเข้าแถวที่หน้าอาคารเรียนแล้ว ซึ่งหลังเกิดเหตุทางโรงเรียนไม่ได้เรียกคุยกับตนที่ไปถกเถียงกับครู โดยตนก็อยากให้การพูดคุยดังกล่าวสามารถทำได้ตามปกติ และทางโรงเรียนควรห่วงสุขภาพของนักเรียนเป็นอันดับแรก
ด้านนายอาจินต์ แซ่อุน รองผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า เมื่อวานนี้(14 ธ.ค.)เป็นวันแรกของสัปดาห์ที่เริ่มเปิดเรียน จึงมีกิจกรรมหน้าเสาธง เพื่อให้ผู้อำนวยการได้ชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องค่าฝุ่นที่ค่อนข้างสูง ขอให้นักเรียนใส่มาส์กตลอด แต่หลังจบกิจกรรมมีการเรียกประชุมฝ่ายบริหารหารือถึงแนวทาง ก่อนสรุปออกมาว่าหลังจากนี้จะปรับมาทำกิจกรรมหน้าเสาธงบนอาคารเรียนแทนจนกว่าค่าฝุ่นจะดีขึ้น
ส่วนครูในคลิปที่ให้นักเรียนทำกิจกรรมใหม่นั้น อาจจะเห็นว่านักเรียนยังไม่เรียบร้อยจึงขอให้ทำใหม่อีกรอบ โดยการใช้คำพูดหยาบคาย ทางโรงเรียนได้เรียกมาตักเตือนพร้อมให้เขียนชี้แจงแล้ว ส่วนนักเรียนไม่ได้ลงโทษหรือเรียกมาพูดคุยใดๆ เพราะไม่ได้มีความผิด
Advertisement