สะเทือนกรุง! คลัสเตอร์คลองเตยพุ่ง 304 ราย กู้ภัยเก็บศพลุงตายคาบ้าน เผาแบบกันเชื้อ (คลิป)

กรณีศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานณ์คลัสเตอร์เสี่ยงพื้นที่ชุมชนคลองเตย พบผู้ติดเชื้อในการระบาดระลอกเดือนเม.ย.64 ทั้งสิ้น 304 ราย เป็นคนที่อาศัยในแหล่งชุมชนแออัด 193 ราย, อาศัยอยู่แหล่งอื่น ๆ เช่น คอนโดฯ หอพัก จำนวน 111 ราย ผู้ติดเชื้อรายแรกที่พบเป็นพนักงานสถานบันเทิงย่านทองหล่อ

กระทั่งมีการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก 3 ชุมชนในวันที่ 27 เม.ย.64 ด้วยรถพระราชทาน ลงเก็บตัวอย่าง ชุมชน 70 ไร่ จํานวน 436 ราย พบเชื้อ 21 ราย (4.81%), วันที่ 27 เม.ย.64 รถพระราชทาน ลงเก็บตัวอย่างที่ ชุมชนริมคลองวัดสะพาน จํานวน 489 ราย พบเชื้อ 29 ราย (5.93%) และวันที่ 30 เม.ย.64 รถพระราชทาน ลงเก็บตัวอย่างที่ ชุมชนพัฒนาใหม่ จํานวน 411 ราย ผลพบเชื้อ 49 ราย (11.92%) ทั้ง 99 คน เข้าสู่การรักษาในโรงพยาบาลและรพ.สนาม แล้ว

สำหรับชุมชนคลองเตย มีทั้งหมด 39 ชุมชน แบ่งเป็นชุมชนเมือง 10 ชุมชน, ชุมชนแออัด 21 ชุมชน, อาคารสูง 2, เคหะชุมชน 6 และจัดสรร 1 โดยมีการติดเชื้อกระจาย 12 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนตลาดท่าเรือคลองเตยติดเชื้อ 7 คน, ชุมชนพัฒนาใหม่ติดเชื้อ 78 คน, ชุมชนวัดคลองเตยใน 2 ติดเชื้อ 14 คน, ชุมชนร่มเกล้า 2 ติดเชื้อ 2 คน, ชุมชนแฟลต 1-10 ติดเชื้อ 6 คน, ชุมชนแฟลต 11-16 ติดเชื้อ 2 คน, ชุมชนแฟลต 19-22 ติดเชื้อ 2 คน, ชุมชนล็อก 1-2-3 /ชุมชนร่มใจไพรินแดง ติดเชื้อ 8 คน, ชุมชน 70 ไร่ ติดเชื้อ 37 คน, ชุมชนล็อก 4-5-6 ติดเชื้อ 2 คน ชุมชนบ้านมั่นคง ติดเชื้อ 3 คน และ ชุมชนริมคลองวัดสะพาน ติดเชื้อ 17 คน

ล่าสุดวันที่ 3 พ.ค.64 ช่วงสายมีรายงานว่า ร.ต.อ.ธนเดช จันทร์มาลา รองสว.(สอบสวน) สน.ท่าเรือ รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิต ภายในบ้านพักหลังหนึ่ง ภายในชุมชน 70 ไร่ ซอย 29 แขวง-เขตคลองเตย กรุงเทพฯ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

นายชลอ เสือกระจ่าง อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู นคร 58 กล่าวว่า เมื่อไปถึงพบเป็นบ้านพักอาศัยภายในชุมชนที่ปลูกติดกันหลายหลังคาเรือน เจ้าหน้าที่ต้องสวมใส่ชุดปฏิบัติการพิเศษ PPE เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ได้เข้าตรวจสอบภายในบ้านพักบริเวณห้องนอนชั้นที่ 2 พบศพนายบุญจร สุวะชัย อายุ 58 ปี นอนเสียชีวิต

จากการตรวจสอบตามร่างกายไม่มีบาดแผล และไม่มีประวัติการรักษาโรค เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ เจ้าหน้าที่จึงมอบหมายให้ทางอาสามูลนิธิร่วมกตัญญูนำศพส่งสถาบันนิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์ เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุการตายต่อไป

ขณะเดียวกันเป็นที่สังเกตว่าหลังจากอาสามูลนิธิร่วมกตัญญูปฏิบัติหน้าที่เสร็จ ได้มีการถอดชุด PPE ใส่ถุงแยกขยะติดเชื้ออย่างดี นายชลอ เสือกระจ่าง อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู นคร 58 หนึ่งในผู้ปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้ เปิดเผยว่า เคสนี้หลังได้รับแจ้งก็ประเมินข้อมูลจากร้อยเวรว่ามีความเสี่ยงแค่ไหน ก่อนนำทีมลงปฏิบัติหน้าที่ประมาณ 8 นาย สวมชุด PPE ปฏิบัติ 6 นาย

เมื่อถึงพื้นที่ก็สอบสวนโรคจากคนในครอบครัว ว่ามีใครเป็นโควิด-19 หรือไม่ และผู้ตายมีอาการ ไข้ ไอ จาม มาก่อนหน้านี้หรือไม่ ซึ่งเคสนี้ประเมินแล้วมีความเสี่ยงแค่ 20% จากการเสียชีวิตในพื้นที่สีแดง เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นจะต้องใส่ชุด PPE ปฏิบัติหน้าที่

สำหรับขึ้นตอนการเก็บร่างผู้เสียชีวิต ในขั้นตอนแรกจะใช้ผ้าใบคลุมศพ 2 ชั้น จากนั้นนำใส่ซีพล็อกอีก 3 ชั้น ซึ่งการเก็บศพในช่วงสถานการณ์นี้จะใช้เวลานานไม่ต่ำกว่า 1 ชม. เพราะต้องสอบสวนโรคคนครอบครัวให้ครบทุกคน

ส่วนภาพที่ปรากฏหลังปฏิบัติหน้าที่ คือ การปฏิบัติการที่ถูกต้องตามที่อบรมมากับผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านประสบการณ์กับโรคระบาด โดยเฉพาะการถอดชุด ที่จะต้องยืนในถุงขยะแยกเชื้อ ตามด้วยการถอดเฟซชีลด์, ชุด, ถุงเท้า และสุดท้ายคือถุงมือ ขั้นตอนนี้เสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุดหากทำไม่ถูกต้อง

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ศูนย์พักคอยสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่วัดสะพานพระโขนง เขตคลองเตย ระหว่างรอนำส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล หรือ รพ.สนาม เพื่อแยกผู้ติดเชื้อและดูแลเบื้องต้น

บรรยากาศในวันนี้มีประชาชนคลองเตยเดินทางมาตรวจโควิด-19 จำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่แบ่งพื้นที่เป็น 3 โซนหลัก ได้แก่ จุดพักคอย, จุดคัดกรอง เอกสาร และจุดตรวจก่อน Swap มีเจ้าหน้าที่ 12 คน และจุดตรวจสวอปด้วยรถพระราชทาน 2 คัน โดยตัวอย่างจะถูกนำไปส่งตรวจด้วยรถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษพระราชทานทราบผลภายใน 24 ชม.

นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หรือผู้ประสานสถานที่พักคอยผู้ติดเชื้อวัดสะพานฯ เปิดเผยว่า การตรวจเชิงรุกรอบนี้ทำขึ้นอย่างเร่งด่วน ตามที่ชาวบ้านร้องเรียน วันนี้แจกคิวไปประมาณ 300 กว่าคน คาดว่าจะตรวจเชิงรุกช่วงบ่ายเป็นต้นไปของทุกวันจนกว่าจะ 100% ซึ่งมีการประชาสัมพันธ์ขอให้ประชาชนทยอยกันมา เพื่อลดการแออัดภายในวัด

โดยในขั้นตอนหลังตรวจเชื้อ ประชาชนจะกลับไปรอผล 24 ชม.ที่บ้าน หากผลออกว่าติดเชื้อโควิด-19 จะมีรถของหน่วยงานไปรับมาพักคอยที่วัดแห่งนี้ เพื่อรอการลำเลียงออกไปโรงพยาบาล และโรงพยาบาลสนาม ซึ่งผู้ป่วยจะอยู่ในพื้นที่ของตึกปฏิบัติธรรม (ชั้น 4-8) ของวัด รองรับได้ 400 คน เบื้องต้นมีความพร้อม 50 เตียง ชั้น 8

ทั้งนี้จะคัดแยกอาการเริ่มต้นสีเขียว ตอนนี้รพ.สนาม หลายแห่งมีเพียงพอหากประสานและผู้ป่วยพร้อมก็จะนำส่ง รพ.สนาม ทันที แต่หากมีอาการสีแดงหรือสีเหลือ อาจจะต้องพักคอยที่วัด เพื่อรอเตียงในโรงพยาบาลว่างก่อน แต่ยืนยันว่าศูนย์พักคอยที่นี่ได้รับการอำนวยความสะดวกจากเจ้าอาวาสวัด และจะมีแพทย์, พยาบาล และอาสา คอยดูแลเบื้องต้น

แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ก็คาดว่าจะใช้โกดังสเตเดียม การท่าเรือแห่งประเทศไทย ขอใช้เป็นรพ.สนาม รองรับผู้ป่วยโควิด-19 จากพื้นที่ชุมชนคลองเตย แต่ย้ำว่าที่วัดจะเป็นศูนย์พักพิงก่อน อย่างน้อยได้แยกผู้ป่วยโควิด-19 ออกจากชุมชน

ทีมข่าวได้พบกับนายเสกสรรค์ พงสกุล อายุ 54 ปี พนักงานส่งเอกสาร เป็นคนชุมชนริมทางรถไฟสายท่าเรือ เขตคลองเตย วันนี้พาคนในครอบครัวที่อาศัยอยู่ด้วยกันกว่า 10 คน มาตรวจหาเชื้อโควิด-19 ส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็ก 7 คน แบ่งเป็นอายุตั้งแต่ 3 เดือน-15 ปี

นายเสกสรรค์ บอกว่า ตนเป็นหัวหน้าครอบครัว มีอาชีพขับรถจักรยานยนต์ส่งเอกสาร ไปพื้นที่เสี่ยงทั่วกรุงเทพฯ จึงเป็นห่วงหลาน ๆ เมื่อมีโอกาสจึงพากันมาตรวจโควิด-19 ยกครัว ซึ่งก็สบายใจไปหนึ่งเปราะ ถ้ารู้ผลเร็วก็จะได้รักษาเร็ว

ส่วนตัวไม่ค่อยมั่นใจ มองว่าตนมีความเสี่ยงมากถึงร้อยละ 80 แต่ก็ยังคงต้องออกไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัวอยู่ดี แต่หลัก ๆ ก็ป้องกันตัวเอง ไม่ใกล้ชิดลูกค้า เวลาส่งเอกสารจะฉีดสเปรย์ทุกครั้งที่หยืบจับเอกสาร และทุกวันที่กลับเข้าบ้านก็จะแยกเสื้อผ้าซัก และอาบน้ำทันที

สำหรับลูกหลานขณะนี้ให้งดออกจากบ้าน ส่วนใหญ่ตนจะเป็นคนหาอาหารมาดูแลในครอบครัวด้วยตัวเอง ส่วนเด็ก ๆ มีความเครียดบ้าง เข้าใจบ้างตามอารมณ์เด็กเล็ก เพราะไม่ได้ออกไปเที่ยวเล่น แต่ก็ทำได้แค่ให้เด็ก ๆ เล่นในบ้าน ดูทีวี สลับกันไป

อย่างไรก็ตาม พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับให้กระจายวัคซีน และจะเริ่มฉีดให้คนชุมชนคลองเตยในวันที่ 4 พ.ค.64 จำนวน 2 จุด คือ ที่โลตัสพระราม 4 และรร.คลองเตยวิทยา ตั้งแต่เวลา 13.00 น. คาดว่าจะฉีดได้ประมาณ 1,000 คน

ขณะที่วันต่อไป จะสามารถฉีดได้วันละ 2,000-3,000 ขณะเดียวกันเร่งเดินหน้าตรวจหาเชื้อเชิงรุก ให้ได้วันละ 1,000 คน จนถึงวันที่ 19 พ.ค.64 คาดว่าจะได้ถึง 20,000 คนจากคนในชุมชนประมาณ 90,000 คน