ตำรวจสตูลเร่งสอบพยานแวดล้อมทุกมิติหลัง ทูตยูเครน ประจำประเทศไทย เสียชีวิตที่เกาะหลีเป๊ะ ขณะที่ญาติขอนำร่างผ่าชันสูตรที่ รพ.ตำรวจ
ทูตยูเครน เสียชีวิตบนเกาะหลีเป๊ะ เบื้องต้นไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย
วันที่ 31 พ.ค.64 ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วย พลตำรวจตรีอรุษ แสงจันทร์ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดและคณะกรรมการตำรวจได้ร่วมประชุมก่อนจะตอบข้อซักถามความคืบหน้าของคดีหลัง เอกอัครราชทูตยูเครนประจำประเทศไทย ได้มาจบชีวิตลงบน เกาะหลีเป๊ะ เมื่อเช้ามืดวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา
นายเอกรัฐ หลีเส็นผวจ.สตูล กล่าวว่าผลจากการตรวจของแพทย์โรงพยาบาลสตูลยืนยันว่าไม่พบเชื้อไวรัสโควิด19 ซึ่งตัดประเด็นนี้ออกไปได้เลย และสันนิษฐานเบื้องต้นว่าเกิดจากหัวใจล้มเหลวฉับพลัน โดยญาติๆ ไม่ประสงค์จะให้ผ่าตัดพิสูจน์ที่สตูล จึงได้นำตัวส่งไปยังสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ โดยเดินทางไปด้วยรถมูลนิธิธรรมรังสีและมีรถนำของตำรวจท่องเที่ยว โดยทางจังหวัดสตูลได้อำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่
โดยพลตำรวจตรีอรุษ แสงจันทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล ระบุว่าทางคดีหลังเกิดเหตุขณะนี้ศพถูกนำส่งไปที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจเพื่อทำการชันสูตรอย่างชัดเจนว่าเหตุของการเสียชีวิตหัวใจล้มเหลวเกิดจากสาเหตุอะไร
ในส่วนของรูปคดีทางรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9 ได้บินลงมาตรวจยังที่เกิดเหตุเพราะเป็นคดีสำคัญ โดยผู้บังคับบัญชาได้สั่งให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนในทุกมิติโดยได้นำชุดสืบสวนสอบสวนและชุดพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่เก็บข้อมูลทุกอย่างในที่เกิดเหตุ
จากการลงเก็บหลักฐานในห้องที่เกิดเหตุ ยังไม่พบตัวบ่งชี้ถึงสาเหตุการทำร้ายร่างกายหรือมีบุคคลภายนอกงัดแงะเข้าไป จากการสอบถามพยานก่อนเกิดเหตุ หลังเกิดเหตุ ก็จะมีแต่เพียงบุตรชายวัย 17 ปี อยู่ในห้องเกิดเหตุเพียงลำพัง เมื่อบุตรชายเห็นว่าคุณพ่อมีอาการหนักจึงได้เรียกห้องข้างเคียงที่มาด้วยกันช่วยดูอาการ แล้วก็แจ้งกับเจ้าของรีสอร์ทและประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขบนเกาะหลีเป๊ะดูแลอาการ ยังไม่พบว่ามีบุคคลภายนอกและจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็ไม่พบบุคคลอื่น นอกจากบุคคลที่มาด้วยกันทั้งนั้น
ทั้งนี้ ได้มีการสอบปากพยานแวดล้อมฝ่ายที่อยู่ในที่เกิดเหตุขนาดนี้ก็ยังอยู่ระหว่างการทำงานอยู่ อย่างไรก็ต้องรอผลการตรวจสอบจากสถาบันนิติเวชชัดเจนจากโรงพยาบาลตำรวจ โดยทางตำรวจสตูลก็ได้ทำงานครบทุกมิติทุกด้าน และจัดเก็บข้อมูลเพื่อตอบคำถามหลายท่านที่อาจจะยังมีคำถามอยู่เพื่อให้เคลียร์ในทุกประเด็น
นายอันดรีย์ เบซตา อายุ 45 ปี เอกอัครราชทูตยูเครนประจำประเทศไทย เดินทางมากับบุตรชายและคนสนิท 6 คนในโอกาสมาลาเพื่อนที่เป็นนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว หลังตนจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในไทย แต่มาเสียชีวิตที่เกาะหลีเป๊ะ ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมืองจังหวัดสตูล ในเวลา 04.00 น. โดยประมาณ (วันที่30พ.ค.64) ขณะอยู่ในห้องพักของรีสอร์ตกับบุตรชายวัย 17ปี เกิดอาการอาเจียนอย่างหนักจากการเข้าช่วยเหลือจนสุดความสามารถไม่สามารถจะยื้อชีวิตไว้ได้
Advertisement