เมื่อ "ความไว" ไม่ใช่เรื่องของปิศาจ แต่เป็นของเทคโนโลยีสุดล้ำ ในโอลิมปิก 2024

เมื่อ "ความไว" ไม่ใช่เรื่องของปิศาจ แต่เป็นของเทคโนโลยีสุดล้ำ ที่ทั้งคมชัด แม่นยำ โปร่งใสในมหกรรมโอลิมปิกเกมส์ 2024

คอนเทนต์แนะนำ

พาไปรู้จัก "โอมาร์ มาร์มูช" แข้งป้ายแดง "แมนซิตี้" ผลงานไม่ธรรมดา

ด่วน! “สมรักษ์” ได้ประกันตัววงเงิน 4 แสน คดีพยายามขืนใจสาว 17 ปี

"ตะวันฉาย" ปะทะ "ซุปเปอร์บอน" ผ่านตาชั่งพร้อมเดือดศึก ONE 170

ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก โดยเฉพาะประเภท "กรีฑา" หลายคนอาจจะสงสัยว่ามีการจับเวลา หรือการตัดสินอย่างไร หากผู้ชนะมีความไวและสปีดที่สูสีกันจนมองยากด้วยตาเปล่า ต้องใช้เทคโนโลยีอะไรบ้างที่อยู่เบื้องหลังในจังหวะสำคัญที่จะวัดว่าใครกันแน่ที่เป็นผู้ชนะ

OMEGA แบรนด์นาฬิกาหรูจากสวิตเซอร์แลนด์ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังและให้การสนับสนุนหลักโอลิมปิกอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 1932 จนล่าสุด ปารีส 2024 ได้เผยถึงเทคโนโลยีหลักที่นำมาใช้สำหรับการจับเวลา จับความไว และการตัดสินหาผู้ชนะกรีฑา ที่มีความทันสมัย คมชัด แม่นยำ และโปร่งใส

ปืนส่งสัญญาณออกตัวอิเล็กทรอนิกส์ ปิดฉากปืนพกเสียงดัง ปัง!

ปัญหาของปืนพกแบบดั้งเดิมคือ การที่เสียงเดินทางช้ากว่าแสง ซึ่งหมายความว่านักกีฬาในลู่ที่ไกลที่สุด จะได้ยินเสียงสัญญาณช้ากว่าคนอื่นๆ ในขณะที่นักกีฬาที่อยู่ในตำแหน่งใกล้กว่าจะได้ยินเสียงสัญญาณก่อน OMEGA จึงแก้ปัญหานี้ด้วยการใช้ปืนพกไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกับลำโพงที่อยู่ด้านหลังนักกีฬาแต่ละราย เมื่อเหนี่ยวไก เสียงจะดังขึ้นและสัญญาณจะถูกส่งไปยังอุปกรณ์จับเวลาทันที ระบบนี้จัดว่าเป็นวิธีที่ยุติธรรมที่สุดในการให้นักกีฬาทุกคนเริ่มต้นการแข่งขันอย่างเท่าเทียมกัน โดยปืนส่งสัญญาณออกตัวอิเล็กทรอนิกส์เริ่มใช้มาตั้งแต่มหกรรมโอลิมปิกฤดูหนาวที่แวนคูเวอร์ ปี 2010

บล็อกออกตัว แม่นยำจนเห็นภาพการออกตัวที่ผิดกติกาได้

นอกจากมีลำโพงในตัวแล้ว บล็อกออกตัวในการแข่งขันยังประกอบด้วยเซ็นเซอร์ในตัวที่สามารถวัดแรงที่กระทำต่อที่พักเท้าของนักกีฬาได้ถึง 4,000 ครั้งต่อวินาที ระบบตรวจจับจะส่งค่าของแรงไปยังคอมพิวเตอร์ในสนามทันทีเพื่อให้กรรมการออกตัวสามารถเห็นภาพการออกตัวที่ผิดกติกาได้ กติกาขององค์กร World Athletics ได้กำหนดระยะเวลาตอบสนองขั้นต่ำไว้ที่ 100 มิลลิวินาที (หนึ่งส่วนสิบวินาที) การตอบสนองใดๆ ที่น้อยกว่าที่กำหนดไว้จะถือว่าเป็นเร็วกว่ากำหนดและจะทำให้นักวิ่งถูกจัดอยู่ในเกณฑ์ออกตัวแบบผิดกติกา

Scan’O’Vision ULTIMATE ความละเอียดสูง รัวได้ 40,000 ภาพต่อวินาที

กล้องตัวนี้เคยใช้ในโอลิมปิก โตเกียว 2020 รัวภาพถ่ายได้ 10,000 ภาพต่อวินาที แต่ครั้งนี้ OMEGA เตรียมกล้อง Scan‘O’Vision ULTIMATE ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ มาใช้ในโอลิมปิก 2024 เป็นครั้งแรก โดยเป็นกล้องโฟโต้ฟินิช มาพร้อมความละเอียดสูงสุด สามารถถ่ายภาพดิจิทัลได้ถึง 40,000 ภาพต่อวินาที ณ เส้นชัยของการแข่งขันต่างๆ ทำให้คณะกรรมการสามารถตัดสินผลการแข่งขันได้รวดเร็วขึ้น และแยกแยะการเข้าเส้นชัยที่ใกล้เคียงกันได้อย่างชัดเจนที่สุด เซ็นเซอร์สีอันละเอียดอ่อนยังให้ภาพที่คมชัดขึ้นโดยไม่มีการรบกวนพิกเซล

สำหรับกล้องตัวนี้ เราจะได้เห็นมันฉายแสงชัดเจนจากการแข่งขันกรีฑา วิ่ง 100 เมตรชาย เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2024 ที่นักวิ่งทุกคนวิ่งเข้าเส้นชัยแบบไล่เลี่ยกัน และใช้เวลาต่ำกว่า 10 วินาทีทุกคน โดยเฉพาะคู่ของ โนอาห์ ไลล์ส จากสหรัฐอเมริกา และ คิเชน ธอมป์สัน จากจาเมกา ที่เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ด้วยเวลา 9.79 วินาที จนต้องใช้ภาพถ่ายในการตัดสิน ก่อนจะพบว่า ลมกรดสหรัฐชนะด้วยปลายเท้าเข้าก่อนแค่เสี้ยวเดียวเท่านั้น ทำให้สหรัฐคว้าเหรียญทองไปครองในรอบ 20 ปี

โฟโตเซลล์ยิงลำแสง แทนที่เส้นชัยขึงเทป วิ่งผ่านเมื่อไหร่รู้เวลาทันที

ยังจำเส้นชัยแบบเก่าที่ขึงเทปพาดเส้นชัยในการแข่งขันต่างๆ ได้หรือไม่ นับตั้งแต่ปี 1948 สิ่งนี้ถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีโฟโตเซลล์ที่จะปล่อยลำแสงออกมาแทน ทันทีที่ผู้ชนะผ่านลำแสงเหล่านั้น เวลาที่พวกเขาชนะจะถูกบันทึกโดยทันที ในเวลานี้ OMEGA ใช้โฟโต้เซลล์สี่จุดบนเส้นชัย และข้อมูลทั้งหมดจะถูกประกอบรวมกันอยู่ในเครื่องเดียวเพื่อทำให้สามารถตรวจจับรูปแบบของร่างกายได้มากขึ้น ทำให้รู้เวลาเข้าเส้นชัยได้ทันที อย่างไรก็ตาม เวลาอย่างเป็นทางการนั้นจะมาจากกล้องโฟโต้ฟินิชเสมอ

นาฬิกาจับเวลา Quantum Timer แม่นยำขึ้นถึงห้าเท่า

นาฬิกาจับเวลาแบบจักรกลเป็นสิ่งที่โบราณไปแล้ว! ปัจจุบันนี้ OMEGA บอกเวลาด้วย Quantum Timer ที่มีความละเอียดสูงถึงหนึ่งส่วนล้านวินาที ความละเอียดที่ขับเคลื่อนด้วยส่วนประกอบไมโครคริสตัลที่ฝังอยู่ในตัวจับเวลานี้สูงกว่าอุปกรณ์รุ่นก่อนหน้าถึง 100 เท่า ด้วยความเบี่ยงเบนเพียงหนึ่งวินาทีจากทุกๆ สิบล้านวินาที ทำให้นาฬิกานี้แม่นยำขึ้นถึงห้าเท่า

สกอร์บอร์ดความละเอียดสูง พร้อมเอฟเฟกต์ที่ทันสมัย

OMEGA ใช้สกอร์บอร์ดความละเอียดสูง ไม่เพียงแค่แสดงข้อความและข้อมูลสดเท่านั้น แต่ยังสามารถแสดงแอนิเมชัน รูปภาพนักกีฬา และภาพจำลองได้ด้วย ด้วยเอกเฟกต์ที่ทันสมัยทำให้ชื่อของผู้ชนะ ผลการแข่งขัน และธงชาติของพวกเขาแสดงขึ้นอย่างโดดเด่น เพิ่มทั้งอารมณ์ร่วม ความระทึกใจและความตื่นเต้นให้แต่ละการแข่งขัน

และนี่คือเทคโนโลยีที่ OMEGA ในมาใช้ในการแข่งขันกรีฑา โอลิมปิก 2024 ที่คาดว่าครั้งต่อไปที่ ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ในปี 2028 น่าจะมีอะไรที่ทันสมัยและพัฒนาขึ้นอย่างแน่นอน