หลังจากศาลพิพากษา เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 68 ที่ผ่านมา คดีต่อเนื่องจากผู้บริหารสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ชุดที่แล้ว จากที่ บมจ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท ยื่นฟ้อง สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เรื่องลิขสิทธิ์ สัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ ละเมิด ต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง คดีสู้กันผ่านศาลชั้นต้น ที่สั่งให้ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จ่าย บมจ.สยามสปอร์ต 50 ล้านบาท และศาลอุทธรณ์ ที่ให้ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จ่าย บมจ.สยามสปอร์ต 450 ล้านบาท พร้อมกันนี้ ก็ให้ บมจ.สยามสปอร์ตฯ จ่าย 240 ล้านบาท แก่ บจก.ซีนิเพล็กซ์ ที่ยื่นฟ้อง บมจ.สยามสปอร์ตฯ ด้วย
ก่อนจะถึงฎีกา ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา แก้เป็นว่าให้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จำเลยที่ 1 ใช้ค่าเสียหายแก่ บมจ.สยามสปอร์ตฯ โจทก์เป็นเงิน 360 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยนับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ
ขณะที่ มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โพสต์เฟสบุ๊ก Madam Pang - มาดามแป้ง - นวลพรรณ ล่ำซำ ระบุว่า ทุกปัญหา(คง)มีทางออก ‘It’s not the end of the world’ (ขอยกคำสอนของคุณพ่อโพธิ์พงษ์ ไว้เตือนใจ)
สำหรับ มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ คนที่ 18 หลังชนะการเลือกตั้ง ด้วยคะแนนโหวตสูงถึง 68 จาก 73 เสียง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2567
Advertisement