กลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติไม่เพียงสร้างความพึงพอใจเพียงอย่างเดียว แต่ยังแฝงคุณค่าในการฟื้นฟูสภาพจิตใจและอารมณ์ตามคุณสมบัติของน้ำมันหอมระเหยแต่ละชนิดอ้างอิงตามหลักอโรมาเธอราพี (Aromatherapy) การใช้น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติเพื่อให้ได้รับประสิทธิภาพสูงสุด คือ การสูดดมกลิ่นหอม และการปล่อยให้น้ำมันหอมระเหยซึมสู่ผิวหนังด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ
แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและความงาม แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและความงาม ‘ธัญ’ (THANN) ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แพทย์หญิงสุรีย์รัตน์ ศรีตั้งรัตนกุล แนะวิธี “ปลุกผิวให้ตื่น พร้อมคืนความสะอาดสดชื่นมีชีวิตชีวาอย่างมั่นใจ” กับผลิตภัณฑ์ Aromatherapy bath collection ทั้ง 4 กลิ่น อาทิ Aromatic Wood, Oriental Essence,Eden Breeze และ Eastern Orchard
แพทย์หญิงสุรีย์รัตน์ ศรีตั้งรัตนกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม ได้แนะวิธีปลุกผิวให้ตื่น พร้อมคืนความสะอาดสดชื่นมีชีวิตชีวาอย่างมั่นใจว่า
“การอาบน้ำเป็นหนึ่งในขั้นตอนของการทำความสะอาดร่างกาย ที่ช่วยกำจัดสิ่งสกปรก เชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อจุลชีพต่างๆ ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อทางผิวหนังและทางการสัมผัส ในแต่ละวันอาบน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ก็เพียงพอ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน เพราะโดยทั่วไปบนผิวหนังของเราจะประกอบด้วยชั้นไขมันและแบคทีเรียชนิดดีที่ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นและมีสุขภาพดี การอาบน้ำบ่อยๆ อาจทำให้ผิวสูญเสียไขมันเคลือบผิว (Hydrolipid Film) ส่งผลให้ผิวแห้ง คัน หรือลอกได้ และอาจทำให้การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของผิวด้อยลง ในทางกลับกันการอาบน้ำแบบนาน ๆ ครั้งก็มีผลเสียด้วยเช่นกัน เพราะจะทำให้แบคทีเรียชนิดไม่ดีเติบโตบนผิวหนังได้เร็วขึ้น จึงเป็นสาเหตุของการเกิดกลิ่นตัว
รวมถึงมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคผิวหนังได้ง่าย เช่น สิว โรคผื่นผิวหนังอักเสบ (Eczema) โรคสะเก็ดเงิน และโรคผิวหนังอักเสบ (Dermatitis) เป็นต้น
การอาบน้ำอย่างถูกวิธีนอกจากจะเป็นการรักษาความสะอาดของร่างกาย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและระบบเมตาบอลิซึมแล้ว ยังส่งผลต่อความสวยงามและสุขภาพที่ดีของผิวหนังของเราด้วย ดังนั้นเราควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่ช่วยรักษาสมดุลความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างเหมาะสม โดยพิจารณาจากส่วนผสมของสารสกัดและน้ำมันจากธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการปกป้องและรักษาสมดุลความชุ่มชื้นให้กับผิว อาทิ น้ำมันรำข้าว, น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน, น้ำมันอาร์แกน เป็นต้น รวมถึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่ปราศจากสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง สี น้ำหอมสังเคราะห์ และสารพาราเบน
• การอาบน้ำเย็นในตอนเช้าช่วยให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัวและสร้างความสดชื่น ส่วนการอาบน้ำอุ่นในตอนเย็นจะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย และทำให้นอนหลับได้ดีขึ้น
• การอาบน้ำอุ่นสลับน้ำเย็นประมาณ 10 นาที จะช่วยกระตุ้นระบบหมุนเวียนโลหิตและทำให้รู้สึกสดชื่นได้
• การอาบน้ำบ่อยเกินไปจะทำให้ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น ขาดความยืดหยุ่นและเกิดริ้วรอยได้ง่าย
• หลีกเลี่ยงการอาบน้ำที่มีอุณหภูมิสูงจนเกินไป เพราะจะทำให้ผิวชั้นนอกเกิดสภาวะเครียด และเซลล์ผิวหนังถูกทำลาย โดยอุณหภูมิน้ำที่เหมาะสมควรอยู่ระหว่าง 37-40 องศาเซลเซียส
• ไม่ควรอาบน้ำทันทีหลังจากออกกำลังกายเสร็จ ควรพักให้ร่างกายปรับอุณหภูมิก่อน 10-15 นาที หากอาบน้ำทันที อาจส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจและสมองไม่เพียงพอ ทำให้มีอาการหน้ามืด หมดสติได้
• ไม่ควรอาบน้ำทันทีหลังรับประทานอาหาร เนื่องจากเส้นเลือดฝอยที่อยู่ตามผิวหนัง เมื่อถูกน้ำอุ่นจะเกิดการขยายตัวและเลือดจะกระจายตัวไปสู่ผิวหนังเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อการย่อยและระบบดูดซึม
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ (Essential oil) ยังมีประโยชน์ในการเสริมสร้างความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลายตามหลักการใช้กลิ่นหอมบำบัด (Aromatherapy)
เมื่อร่างกายได้รับกลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ (Essential oil) กลิ่นจะถูกส่งผ่านประสาทรับกลิ่น (Olfactory Nerves) ซึ่งอยู่เหนือโพรงจมูกไปยังกระเปาะรับกลิ่น (Olfactory Bulbs) และส่งต่อไปยังสมองส่วนควบคุมอารมณ์ และความรู้สึก (Limbic System) อณูของน้ำมันหอมระเหยจะกระจายไปตามประสาทรับกลิ่นเข้าสู่สมองส่วนที่ควบคุมอารมณ์และความรู้สึก (Emotion Center หรือ Limbic System) โดยไปกระตุ้นให้สมองสั่งการไปที่ระบบต่อมไร้ท่อ เพื่อหลั่งสารที่มีประโยชน์ และมีอิทธิพลต่ออารมณ์และความรู้สึก ได้แก่
• Endorphin (เอ็นโดฟิน) คลายความเครียด และความวิตกกังวล
• Enkephalin (เอนเคฟาลีน) ลดความเจ็บปวด ส่งเสริมให้มีอารมณ์ดี
• Serotonin (เซโรโทนิน) ช่วยให้สงบ เยือกเย็น และผ่อนคลาย
• Dopamine (โดปามีน) ช่วยให้เกิดการตื่นตัว หรือสร้างความผ่อนคลาย
นอกจากนี้กลิ่นยังส่งผลต่อสมองส่วนที่เรียกว่า “ไฮโปทาลามัส” (Hypothalamus) ควบคุมสารเคมีและฮอร์โมนเพศ สมองส่วน Frontal Lobe ควบคุมความตั้งใจ สมาธิและความจำ รวมทั้ง Reticular System ช่วยผสมผสานการทำงานของร่างกายและจิตใจ”
‘ธัญ อโรมาเธอราปี บาธ คอลเลกชัน’ ที่คัดสรรคุณค่าของสารสกัดธรรมชาติสู่ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรักษาสมดุลความชุ่มชื้นของผิว ผสานคุณค่าของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติที่ผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน ปราศจากสี น้ำหอมสังเคราะห์ และสารพาราเบน ที่ประกอบไปด้วย ‘อโรมาเธอราปี ชาวเวอร์ เจล’ ขนาด 320 มล. ราคา 650 บาท ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวสูตรอ่อนโยน ที่มีให้เลือก 4 กลิ่นหอม เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์
ซึ่งอุดมด้วยน้ำมันและสารสกัดธรรมชาตินานาชนิด อาทิ น้ำมันรำข้าว (Rice Bran Oil), โปรตีนข้าวสาลี ( Wheat Protein), น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน (Sunflower seed oil), น้ำมันอาร์แกน (Argan oil) และ น้ำมันเมล็ดองุ่น (Grape seed oil) ปกป้องและรักษาสมดุลความชุ่มชื้นของผิว เพื่อผิวสะอาดเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น อย่างมีสุขภาพดี ได้แก่
• อโรมาติกวู๊ด (Aromatic Wood) เติมเต็มความสดชื่น มีชีวิตชีวา ด้วยส่วนผสมของส้ม (Orange), แทงเจอรีน(Tangerine), จันทน์เทศ (Nutmeg) และไม้จันทน์ (Sandalwood)
• อโรมาติกวู๊ด (Aromatic Wood) เติมเต็มความสดชื่น มีชีวิตชีวา ด้วยส่วนผสมของส้ม (Orange), แทงเจอรีน(Tangerine), จันทน์เทศ (Nutmeg) และไม้จันทน์ (Sandalwood)
• โอเรียนทอล เอสเซ้นซ์ (Oriental Essence) สดชื่นเบาสบายแบบกลิ่นอายแห่งโลกตะวันออกด้วยส่วนผสมของ ตะไคร้ (Lemongrass) และมะกรูด (Kaffir Lime)
• อีเดน บรีซ (Eden Breeze) มอบความสงบ สมดุลทางอารมณ์และจิตใจด้วยกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของดอกมะลิ (Jasmine) และดอกกุหลาบ (Rose)
• อีสเทิร์น ออร์เชิร์ด (Eastern Orchard) สดชื่น รื่นรมย์ด้วยกลิ่นหอมของส้มยูซุ (Japanese Yuzu), บลาซีเลียน เนโรลี่ (Brazilian Neroli), มะนาว (Lemon) และดอกมะลิ (Jasmine)
Advertisement