จากผู้ผลิตเอสเอ็มอี เติบโตสู่ขนมไหว้พระจันทร์ แบรนด์ดัง Bakery Hut
ในวันที่ 17 กันยายน 2567 คือ วันไหว้พระจันทร์ อันเป็นสิริมงคลของชาวไทยเชื้อสายจีน เทศกาลขนมไหว้พระจันทร์จึงกลับมาอีกครั้งท่ามกลางการแข่งขันสูงและมีแบรนด์เกิดขึ้นมากมาย หนึ่งในแบรนด์ดังของตลาดขนมมงคลนี้คือ Bakery Hut ที่เติบโตจากเอสเอ็มอีขนาดเล็กสู่ผู้ผลิตขนมไหว้พระจันทร์แบรนด์ดังของไทย
จะเรียกว่าเป็นโชคชะตาฟ้าลิขิตก็ไม่ผิดนัก สำหรับเส้นทางของร้านขนมไหว้พระจันทร์ชื่อดัง ‘Bakery Hut’ ที่ก่อตั้งมายาวนานเกือบ 20 ปี โดยคุณพรนรินทร์ สัตยาพันธุ์ หรือ ‘คุณหนู’ ที่ปัจจุบันนี้ส่งไม้ต่อให้กับลูกๆ คือ คุณหมิง หรือคุณสุวิธาน สัตยาพันธุ์ เข้ามาบริหารธุรกิจอย่างเต็มตัว
จากสูตรขนมไหว้พระจันทร์ที่อาม่าทำขายในวัยเด็กแถวละแวกยศเส สู่ขนมไหว้พระจันทร์นับร้อยรสชาติที่สร้างความแปลกใหม่และน่าลิ้มลองแก่ผู้พบเห็นในปัจจุบัน คุณพรนรินทร์สร้างขึ้นด้วยมันสมองและสองมือของตัวเอง
แรกเริ่มคุณพรนรินทร์อยู่ในแวดวงเสริมสวย ไม่คิดจะทำขนมแต่อย่างใด แต่ไปๆ มาๆ วันหนึ่งมีโอกาสได้ทำขนมไหว้พระจันทร์เล่นๆ ให้รุ่นน้องชิมผลปรากฏว่าอร่อยมาก จนมีโอกาสได้ส่งให้ทีมงานของห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่างพารากอนได้ลิ้มลอง ซึ่งก็สร้างความประทับใจเป็นอย่างมาก ให้ส่งขนมไหว้พระจันทร์เข้าไปขายในทันที คุณพรนรินทร์จึงไม่ยอมให้โอกาสนี้หลุดลอยไป ตัดสินใจหันหลังให้วงการเสริมสวยแล้วหันมาปั้นขนมไหว้พระจันทร์อย่างเต็มตัว
ต้องก้าวไปก่อนหนึ่งก้าว
แนวคิดง่ายๆ ของผู้นำคือต้องก้าวไปก่อนคนอื่นหนึ่งก้าวเสมอ ไม่ว่าจะเป็นขนมไหว้พระจันทร์รายแรกที่ทำไซส์เล็ก ข้าวหมูแดงเจ ขนมส้มแมนดาริน หรือแม้แต่ขนมไหว้พระจันทร์รสชาติแปลกใหม่อย่าง แบล็คทรัฟเฟิลแมคคาเดเมีย องุ่นเคียวโฮ เอสเพรสโซ่ลำไยสีทอง มะม่วงน้ำปลาหวาน และรสชาติอื่นๆ ที่ออกมาใหม่ทุกปี คุณพรนรินทร์เริ่มต้นเองตั้งแต่มีไอเดีย ทดลองทำ ปรับพัฒนาสูตร จนถึงทำออกมาวางจำหน่าย ล้วนแล้วเป็นรายแรกที่ทำ แล้วยังคงพัฒนาต่อเนื่องอย่างไม่หยุดยั้ง และนี่คือสิ่งสำคัญที่ทำให้กิจการ Bakery Hut เติบโตขึ้นทุกปี และยังคงเป็นเช่นนี้ต่อเนื่องกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
คุณภาพคือคำตอบ
ขนมไหว้พระจันทร์ของ Bakery Hut คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสูงจากแหล่งกำเนิดทุกชิ้น อย่างทรัฟเฟิลจากอิตาลี ใบเตยจากสิงคโปร์ เมลอนและพีชจากญี่ปุ่น ลำไยสีทองจากลำพูน เป็นต้น ไม่ใช้กลิ่นสังเคราะห์ แม้วัตถุดิบบางอย่างจะมีต้นทุนสูงก็ตาม ทำให้ได้รสชาติจากธรรมชาติแท้ๆ ตามคติที่อาม่าของคุณพรนรินทร์เคยสอนไว้ว่า “เจ๊งช่างมันห้ามเสียหน้า” ที่สำคัญคือยังทำมือแบบชิ้นต่อชิ้น เนื่องจากในกระบวนการทำต้องมีความประณีตและเพื่อควบคุมคุณภาพให้ได้ตามจำนวนวัตถุดิบชั้นดีที่ได้มา ส่งผลให้ขนมไหวพระจันทร์ของ Bakery Hut ได้รับการพูดถึงแบบปากต่อปาก และด้วยกระบวนการผลิตที่เปรียบเสมือนงานฝีมือเช่นนี้เอง จึงได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ชื่อดังหลากหลายวงการ อาทิ McLaren, HUAWEI, Jubilee, JASPAL, Marc Jacobs และอื่นๆ อีกมากมาย ให้ผลิตขนมไหว้พระจันทร์เฉพาะของแบรนด์ในรูปแบบ OEM ซึ่งสามารถทำลายหน้าขนมเป็นโลโก้องค์กร สี รวมถึงรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละแบรนด์ได้อีกด้วย ซึ่งการผลิตในรูปแบบ OEM นี้เป็นสัดส่วนถึง 60% ของจำนวนการผลิตเลยทีเดียว
ปรับแบบไม่เกินกำลัง
Bakery Hut จัดเป็นธุรกิจครอบครัวที่ส่งผ่านจากรุ่นของคุณพรนรินทร์สู่ลูกๆ อีกสองคน โดยยังคงไว้ซึ่งกำลังการผลิตในแบบ SME ที่ยังไม่ต้องการขยายธุรกิจให้ใหญ่จนเกินไปนัก ทั้งนี้ก็เพื่อให้ควบคุมคุณภาพการผลิตเอาไว้ให้ได้มาตรฐานอย่างที่ต้องการ เพียงแต่ในอนาคตอันใกล้นี้จะปรับโครงสร้างภายในเพื่อให้เป็นรูปแบบของธุรกิจมากขึ้น
Bakery Hut ท้าให้ลอง
ขนมไหว้พระจันทร์ที่ทางร้านแนะนำได้แก่รสเอสเพรสโซ่ลำไยสีทอง มะม่วงน้ำปลาหวาน เมล่อนญี่ปุ่น กุหลาบลิ้นจี่เบอร์รี่ และทีรามิสุ
โชว์รูมของ แบรนด์ Bakery Hut ตั้งอยู่ซอยพัฒนา ถนนสุรวงศ์ ติดกับโรงแรม แบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์
หรือสั่งซื้อได้ทาง
Line : @bakeryhut2007
Facebook/ Instagram : bakeryhut2007
Tel : 080-424-4868 , 080-424-6848
Advertisement