บัตรเครดิตที่มีอิทธิพลที่สุดในไทย คือ เดอะวิสดอมกสิกรไทย (วีซ่า อินฟินนิท) ต้องมีเงินลงทุน 150 ล้านบาทขึ้นไป
บัตรเครดิตที่มีอิทธิพลที่สุดระดับโลก คือ อเมริกัน เอ็กซ์เพรส เซ็นจูเลี่ยน การ์ด มีผู้ใช้ไม่ถึง 10,000 ใบทั้วโลก
จากกรณีที่มีชาวโซเชียลรายหนึ่งได้โพสต์ขาย บัตรเครดิต “เดอะวิสดอมกสิกรไทย” เป็นบัตรแท้แต่ถูกอายัดไปแล้ว จึงไม่สามารถใช้รูดได้ นำมาขายในราคาใบละ 14,000 บาท โดยบัตรใบดังกล่าวหมดอายุ 01/25
เจ้าของโพสต์ยังได้พูดถึงสิทธิประโยชน์จากตัวบัตร เช่น ใช้ทำคอนเทนต์ถ่ายรูปอวดลงใน TikTok การสร้างโปรไฟล์ลงในโซเชียล การใช้โชว์บัตรแทนสติ๊กเกอร์จอดรถในห้างสรรพสินค้า
ซึ่งประเด็นนี้ได้กลายเป็นกระแสไวรัลในโลกออนไลน์ และมีคนมาคอมเมนต์ในเชิงเสียดสีจำนวนมาก
บัตรเครดิต “เดอะวิสดอมกสิกรไทย”คืออะไร?
บัตรเครดิต “เดอะวิสดอมกสิกรไทย” ของธนาคารกสิกรไทย คือ บัตรเครดิต ที่กำหนดคุณสมบัติผู้ถือบัตร ต้อง มีเงินฝาก เงินลงทุน หรือ ประกันชีวิต รวมกัน 10 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งสิทธิประโยชน์ที่ผู้ถือบัตรได้รับจากธนาคารย่อมมีความพิเศษด้วย ทั้งการลงทุน การใช้บริการของธนาคาร และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพราะถือเป็นลูกค้าที่มีคุณภาพ
แต่จากเหตุการณ์ที่มีการโพสขายบัตรวิสดอมกันในโลกโซเชี่ยลนี้ ก็ทำให้ธนาคาร กสิกรไทย ต้องออกมาชี้แจงผ่าน KBank Live Facebook ถึงกรณีการโพสต์ขายบัตรเดอะวิสดอมกสิกรไทยในโซเชียลมีเดียว่า
"บัตรเดอะวิสดอมกสิกรไทย เป็นบัตรเดรดิตที่ธนาคารอนุมัติให้กับผู้ผ่านเกณฑ์ใช้เท่านั้น หากมีการซื้อขาย เมื่อนำไปใช้รับประโยชน์จะถือว่าผู้ซื้อมีความผิดทางกฎหมาย และผู้ขายยังถือว่าเป็นผู้กระทำผิดร่วมหรือสนับสนุนการกระทำผิดดังกล่าวด้วย และเมื่อพบการกระทำผิดเงื่อนไข ธนาคารมีสิทธิ์ระงับและยกเลิกการใช้บัตรเดอะวิสดอมกสิกรไทยของลูกค้าได้ทันที โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า"
ทีม SPOTLIGHT จะพามาเจาะลึกถึงอธิบายเรื่องของบัตรเครดิต และพามาดูสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับเมื่อเป็นผู้ถือบัตรบัตรเครดิต จาก 5 ธนาคาร โดยเป็นบัตรเครดิตในกลุ่มลูกค้าพรีเมี่ยมที่ต้องมีเงินฝากหรือเงินลงทุน จำนวน 10 ล้านบาท และ บัตรตัวท็อปในประเทศไทยและต่างประเทศ มีอะไรมาดูกัน
ในปัจจุบัน ประเทศไทยเริ่มเป็นสังคมไร้เงินสด หลังจากการหลีกเลี่ยงสัมผัสเงินสด ตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 บัตรเครดิต นับว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกของ มนุษย์เงินเดือนหลายๆคน เพราะนอกจากจะสามารถแสดงสถานะทางสังคมแล้ว ยังสามารถใช้สิทธิประโยชน์ที่ธนาคารร่วมทำกับพาร์ทเนอร์ และหนึ่งในโปรโมชั่นดีๆที่เราคุ้นหูกัน เช่น การเลือกผ่อนชำระสินค้าแบบ 0%
บัตรเครดิตคืออะไร?
บัตรเครดิต (Credit Card) คือสินเชื่อบุคคลประเภทหนึ่ง ที่สถาบันทางการเงินออกให้แก่ลูกค้า ที่มีรายได้ขั้นต่ำตามที่ธนาคารกำหนด เพื่อใช้จ่ายแทนเงินสด โดยที่ธนาคารจะเป็นคนอนุมัติวงเงินตามรายได้ของผู้สมัคร และผู้ใช้จะต้องชำระคืนเต็มจำนวน
คุณสมบัติผู้มีบัตรเครดิต
ตามข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดว่า คุณสมบัติผู้มีบัตรเครดิตต้องเป็นคนไทย มีอายุ 18 ปีขึ้นไป มีรายได้ขั้นต่ำที่ 15,000 บาท/เดือน
เป็นวงเงินสูงสุดที่เราสามารถรูดจากบัตรเครดิต โดยธนาคารจะเป็นคนอนุมัติวงเงินจากรายได้เงินเดือนของผู้สมัคร ซึ่งแต่ละธนาคารก็จะมีนโยบายและเงื่อนไขที่ต่างกันออกไป แต่สำหรับผู้ที่มีรายได้ขั้นต่ำในการทำบัตร 15,000 บาทมีการกำหนดเพดานวงเงินบัตรเครดิตสูงสุดไม่เกิน 1.5 เท่าของรายได้ และไล่เรียงลำดับดังนี้
ทีม SPOTLIGHT พามาดูสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับเมื่อเป็นผู้ถือบัตรบัตรเครดิต จาก 5 ธนาคาร โดยจะต้องมีเงินฝากหรือเงินลงทุน จำนวน 10 ล้านบาท
1.บัตรเครดิต KTC – KTB Precious Plus Visa Signature
สถาบันการเงิน : บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
ประเภทบัตร : บัตร Visa Card (Signature)
สมัครบัตรเสริมได้ : 4 ใบ
ตัวอย่างสิทธิพิเศษที่ได้รับ :
-รับสิทธิพิเศษทั้งด้านดูแลสุขภาพ และ การท่องเที่ยว
-ห้องรับรองพิเศษ Royal Orchid Lounge Services 2 ครั้ง/ปี
-ประกันภัยการเดินทางในประเทศ และต่างประเทศ 20 ล้านบาท
-ส่วนลดพิเศษที่โรงภาพยนตร์ สปา และ สนามกอล์ฟ ที่ร่วมรายการ 50%
-มีเลขาส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง
สถาบันการเงิน : ธนาคาร ไทยพาณิชย์
ประเภทบัตร : บัตร MasterCard (World)
สมัครบัตรเสริมได้ : 4 ใบ
ตัวอย่างสิทธิพิเศษที่ได้รับ :
-บริการที่ปรึกษาด้านการเงิน และการลงทุนส่วนบุคคล
-รับสิทธิ์อัปเกรดชั้นบัตรโดยสารสายการบินไทยสูงขึ้น 1 ระดับ
-บริการห้องรับรองของบัตร Priority Pass ณ สนามบินชั้นนำ ทั่วโลก 2 ครั้ง /ปี
-ประกันภัยการเดินทางในประเทศ และต่างประเทศ วงเงิน 20 ล้านบาท
-มีเลขาส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง
3.บัตรเครดิตเดอะวิสดอมกสิกรไทยสถาบันการเงิน : ธนาคาร กสิกรไทย
ประเภทบัตร : บัตร Visa Card (Signature)
สมัครบัตรเสริมได้ : 5 ใบ
ตัวอย่างสิทธิพิเศษที่ได้รับ :
-บริการให้คำแนะนำเรื่องการลงทุน บทวิเคราะห์กองทุนไทยและต่างประเทศ
-ห้องรับรอง K Point Klub ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
-ประกันภัยการเดินทาง คุ้มครอง 6 ล้านบาท
-บริการตรวจสุขภาพประจำปีจากเครือโรงพยาบาลชั้นนำ
-ส่วนลดจากโรงแรมชั้นนำที่ร่วมรายการ
สถาบันการเงิน : ธนาคาร กรุงเทพ
ประเภทบัตร : บัตร Visa Card (Infinite)
สมัครบัตรเสริมได้ : 5 ใบ
ตัวอย่างสิทธิพิเศษที่ได้รับ :
-บัตร priority pass ห้องรับรองพิเศษสนามบินชั้นนำทั่วโลกกว่า 700 แห่ง
-บริการรถลิมูซีนรับส่ง ระหว่างที่พักลสนามบินในประเทศไทย 2 เที่ยว/ปี
-รับเครดิตเงินคืน 10 % เมื่อเติมน้ามันครบ 800 บาท ที่สถานีบริการน้ำมันที่ร่วมรายการ
-แผนคุ้มครองการรักษาพยาบาลขณะเดินทางประเทศ วงเงิน 2 ล้านบาท
-ประกันอุบัติเหตุการเดินทาง วงเงิน 1 ล้านบาท
5.บัตรเครดิตธนาคารออมสิน เพรสทีจ
สถาบันการเงิน : ธนาคาร ออมสิน
ประเภทบัตร : บัตร Visa Card (Signature)
สมัครบัตรเสริมได้ : 4 ใบ
ตัวอย่างสิทธิพิเศษที่ได้รับ :
-ห้องรับรองพิเศษ Royal Silk Lounge/Royal Lounge ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ปีละ 1 ครั้ง
-เมื่อชำระค่าตั๋วเดินทางผ่านบัตรเครดิต คุ้มครองอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง วงเงิน 20 ล้านบาท
-ส่วนลดจากสนามกอล์ฟที่ร่วมรายการ สูงสุดถึง 50%
-ส่วนลดจากร้านนวดไทยที่ร่วมรายการ สูงสุดถึง 50%
-สิทธิพิเศษส่วนลด 50% สำหรับบัตรชมภาพยนตร์
บัตรเครดิตที่กำหนดคุณสมบัติผู้ถือบัตรสูงสุดในไทย
เดอะวิสดอมกสิกรไทย (วีซ่า อินฟินนิท)
กำหนดสำหรับผู้ที่มีเงินฝากและเงินลงทุนตั้งแต่ 150 ล้านบาทขึ้นไป รวมเฉลี่ย 6 เดือน
ตัวอย่างสิทธิพิเศษที่จะได้รับ :
-ที่ปรึกษาด้านการลงทุนส่วนบุคคล
-บทวิเคราะห์การลงทุน และข้อมูลความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ
-บริการด่วนพิเศษในการทำธุรกรรมทางการเงินที่ธนาคารกสิกรทุกสาขา
-ศูนย์บริการตู้นิรภัยเดอะวิสดอม
-บริการรถลีมูซีน รับ-ส่ง ที่สนามบิน
-บริการอำนวยความสะดวก โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้ ณ สนามบิน
-บริการห้องรับรองพิเศษ ที่สนามบินชั้นนำทั่วโลก ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
บัตรที่มีอิทธิพลที่สุดระดับโลก
อเมริกัน เอ็กซ์เพรส เซ็นจูเลี่ยน การ์ด
ที่เรารู้จักกันว่า Black Card เป็นบัตรเครดิตที่มีสิทธิประโยชน์ และมีสิทธิพิเศษมากที่สุดในโลก หรือที่เราเรียกว่า King of Credit Card วัสดุจากตัวบัตรทำมาจากแร่ไทเทเนียมแท้ 100% โดยทางธนาคารจะเป็นผู้เชิญ บุคคลที่ได้รับการคัดเลือก (invitation only) โดยผ่านการเช็คประวัติทางการเงินอย่างละเอียด จากข้อมูลทั่วโลก โดยปัจจุบันมีผู้ใช้ไม่ถึง 10,000 ใบ
เงื่อนไขของผู้ที่ได้คัดเลือก :
-มีรายได้ขั้นต่ำปีละ 44 ล้านบาท
-ใช้จ่ายผ่านบัตรขั้นต่ำ ปีละ 8 ล้านบาท
ตัวอย่างสิทธิพิเศษที่จะได้รับ :
-เลขาส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยในการช็อปปิ้ง
-ได้เป็นสมาชิกคลับระดับ elite ในหลาย ๆ ที่
-สามารถใช้บริการเครื่องบินส่วนตัวฟรี 1 ครั้งต่อปี ที่สามารถเดินทางไปที่ไหนก็ได้
-ห้องพักรับรอง first Class ทุกสนามบินนานาชาติทั่วโลก
-ที่สนามบินในอเมริกา มีตรวจหนังสือเดินทางสำหรับ ผู้ถือบัตรแบล็คการ์ดนี้เท่านั้น
*ถ้าใช้แบล็คการ์ดจ่ายตั๋วเครื่องบิน ผู้ใช้จะต้องเลือกที่นั่งระดับ First Class เท่านั้น ถ้านั่งในระดับต่ำกว่า first Class บัตรแบล็คการ์ดนี้ก็จะไม่รับจ่าย-บัตร*
ค่าธรรมเนียม :
-ค่าธรรมเนียมแรกเข้า 170,560 บาท
-ค่าธรรมเนียมรายปี 85,280 บาท
อย่างกรณีข่าวดังไม่นานมานี้ว่า ลิซ่า แบล็คพิงค์ ถือบัตรแบล็คการ์ดนั้น มันคือ Black card edition 3 ที่ได้รับเชิญจาก Hyundai เป็นคนละตัวกับ อเมริกัน เอ็กซ์เพรส เซ็นจูเลี่ยน การ์ด แต่แบล็คการ์ดที่ลิซ่าได้ครอบครองก็มีความพิเศษ เพราะมีวงเงินไม่จำกัด และมีผู้ครอบครองแค่ 1,000 คนเท่านั้น และมีคุณสมบัติสุดโหดเช่นกัน เช่น ต้องมีทรัพย์สิน 280 ล้าน และต้องมีรายจ่ายเดือนละ 2.8 แสนขึ้นไป
ไม่ว่าบัตรเครดิตจะอยู่ในมือของผู้มีฐานะทางการเงินในกลุ่มใด คุณสมบัติของการใช้บัตรเครดิตที่ “ง่าย สะดวก รวดเร็ว คล่องตัว” ทำให้ผู้ใช้บัตรเครดิตทุกคน ต้องคำนึงถึงการใช้จ่ายที่ต้องสอดคล้องกับรายได้ของตัวเอง และสามารถชำระเงินได้ครบตามที่กำหนดทุกรอบ แต่เพราะการใช้จ่ายเกินตัว “ซื้อก่อน จ่ายหลัง” ทำให้หลายๆคนใช้จ่ายเงินแบบพลั้งมือ จนเกิดเป็นปัญหาหนี้สินได้